บริหารทีมเวิร์กให้แบรนด์ว้าว

เรื่อง: ครูออน ญาณิมา ศรีมังคละ


Hi-Light:

  • ทรัพยากรบุคคลจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าหากเรามอบหมายงานตามความถนัดของเขา และหากเขามีความสามารถมากพอ เราต้องเปิดโอกาสให้เขาแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ สร้างความท้าทายและยกระดับการพัฒนาขีดความสามารถไปอีก ขั้น  “Put the right job on the right man” นี่คือหลักการสร้างทีมเวิร์กเชิงรุกแบบหัวหมู่ทะลวงฟัน
  • อยากให้ทีมเวิร์กนั้นเวิร์กต้องใช้ความฉลาดของสมองให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเลือกป้อนคำสั่งให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ “ทำอย่างไร”  เช่น ทำอย่างไรให้เจ้านายไว้วางใจ ทำอย่างไรให้ใช้งบได้คุ้มค่าที่สุด ทำอย่างไรให้ประสานงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม  เปลี่ยนคำถามเปลี่ยนชีวิตผลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้



2.3พันล้านคน คือจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทั่วโลก

5.5หมื่นล้านเหรียญสหรัฐคือรายได้ล่าสุดของเฟซบุ๊กในปี 2018


ทุกคนจดจำชื่อของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กได้ในฐานะ CEO หนุ่มเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีผู้นิยมมากที่สุด แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่าหากปราศจากความร่วมมือจากเพื่อนร่วมรุ่นของเขาทั้งสี่คน เฟซบุ๊กคงเป็นแค่เพจยอดนิยมในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดและเราคงไม่มีพื้นที่ให้โพสต์ แชร์ หรือแอบส่องคนที่ปลื้มอย่างเช่นทุกวันนี้


ไม่มีองค์กรใดในโลกที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยคนเพียงหนึ่งคน แต่เกิดขึ้นจากฟันเฟืองเล็กๆ ที่ทำงานสอดประสานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ  อย่างที่บอกกันว่า “ไปคนเดียวไปได้ไว แต่จะไปได้ไกลต้องไปด้วยกัน” ใช่เลยค่ะ


ครูออนมี Checklist ที่ช่วยบริหารทีมเวิร์กให้มีประสิทธิภาพสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นมาฝากค่ะ

  • Preparation
  • Communication
  • Solution


Preparation

“You’ve got to marry the right guy” คือบทสัมภาษณ์ของชมพู่อารยาเมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จของชีวิตคู่   ใช่แล้วค่ะ...ทุกความสำเร็จเริ่มต้นจากคนที่ใช่เสมอ  องค์กรเป็นแหล่งรวมพลังของ ดิ เอเวนเจอร์ส  ทุกคนมีความสามารถหลากหลายเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน  หากวางคนไม่ถูกที่ไม่ถูกงานอาจกลายเป็นเสียของเปล่าๆ


ทรัพยากรบุคคลจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าหากเรามอบหมายงานตามความถนัดของเขาและหากเขามีความสามารถมากพอ เราต้องเปิดโอกาสให้เขาแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ สร้างความท้าทายและยกระดับการพัฒนาขีดความสามารถไปอีก ขั้น  “Put the right job on the right man” นี่คือหลักการสร้างทีมเวิร์กเชิงรุกแบบหัวหมู่ทะลวงฟัน


“การบริหารงานนั้นต้องใช้เหตุผล แต่การบริหารคนนั้นอารมณ์มาเป็นอันดับหนึ่ง”
เรากำลังพูดถึงบรรยากาศในการทำงานค่ะ วางคนได้ถูกกับงานนอกจากจะได้งานแล้ว ยังได้กำลังใจจากทีมอีกด้วย เมื่อทีมทำงานได้ดีตามความถนัดของเขาย่อมมีกำลังใจพัฒนางานต่อไป ความสัมพันธ์ในทีมก็ราบรื่น  เพราะแท้จริงแล้วผลลัพธ์ที่องค์กรต้องการไม่ว่าจะเป็นยอดขาย การสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า การภักดีในแบรนด์ ล้วนมาจาก 2 ปัจจัยหลักของทีม คือ ความสามารถและแรงจูงใจ ดังสมการที่ว่า Performance = Ability x Motivation  นั่นเอง

teamwork-358887494

Communication

“นี่ไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มใช่ไหม?” ประโยคขำๆ เมื่อมีใครบางคนในทีมเป็นแกะดำทำตัวไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา  แต่ความจริงคือตลกร้ายที่สะท้อนปัญหาอันดับหนึ่งในการทำงานเป็นทีม บรีฟงานอย่างแต่ได้ผลอีกอย่าง เสียเวลาแก้ไข ไม่ตรงตามเป้าหมาย ล้วนเกิดจากการสื่อสารแบบม้วนเดียวจบ ผู้พูดก็ทำหน้าที่พูดไป ผู้ฟังจะรับได้มากน้อยแค่ไหนนั้นสุดที่จะควบคุมได้


ถ้าอยากให้ทีมของเราเวิร์ก ทุกครั้งที่สื่อสารอย่าลืมกุญแจล็อกสองชั้นป้องกันความผิดพลาด (Double Communication)  กุญแจดอกแรกคือ การทวน ก่อนจบการประชุมงานที่ยืดยาวต้องทวนประเด็นสำคัญทุกครั้ง รวมถึงให้ผู้รับสารทวนในสิ่งที่ได้รู้ไปด้วย (ดังนั้นถ้าสมาชิกในกรุ๊ปไลน์ไม่แสดงตัว อย่าคาดหวังว่าเขาจะรับทราบข้อความเชียว)


กุญแจดอกที่สองคือ ติดตาม เป้าหมายจะบรรลุผลเมื่อมีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน คอยถามไถ่รายงานผลเป็นระยะสั้นหรือยาวก็ได้ตามแต่รายละเอียดของโปรเจกต์


กุญแจดอกสุดท้ายคือ บันทึก ทราบหรือไม่? มนุษย์เรียนรู้ได้ดีจากการมองเห็นมากกว่าการได้ยิน การรับรู้จากการฟังนั้นเป็นเพียงความทรงจำระยะสั้น แต่การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจะสร้างความเข้าใจได้ดีกว่า ข้อสรุปที่ร่วมระดมความคิดเห็นจะกลายเป็นอากาศหากไม่บันทึกในกระดาษ(หรือสมาร์ทโฟนตามใจชอบ)  บันทึกนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจตรงกัน ใส่ใจรายละเอียดมากขึ้นช่วยลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง
 

Solution

“Focus on the solution, Not the problem” การพบเจอปัญหาในขั้นตอนการทำงานเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากเหมือนการที่พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แต่สิ่งที่หลายคนทำมักเป็นการตั้งคำถามว่า “ทำไม” ถึงเกิดเรื่องแย่ๆ แบบนี้


สมองเป็นอวัยวะที่ฉลาดมากค่ะ เมื่อคุณป้อนคำสั่งใดก็ตาม มันจะรีบหาคำตอบให้คุณทันที อ๋อ! เพราะเจ้านายจู้จี้จุกจิก เพราะฝ่ายบัญชีแบ่งงบให้นิดเดียว เพราะฝ่ายประสานงานทำงานล่าช้า ฯลฯ ทีมเวิร์กจึงพังเพราะมัวแต่โทษกันไปมาซึ่งไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ที่เผชิญอยู่นั้นดีขึ้นเลย


อยากให้ทีมเวิร์กนั้นเวิร์กต้องใช้ความฉลาดของสมองให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเลือกป้อนคำสั่งให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ “ทำอย่างไร”  เช่น ทำอย่างไรให้เจ้านายไว้วางใจ ทำอย่างไรให้ใช้งบได้คุ้มค่าที่สุด ทำอย่างไรให้ประสานงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม  เปลี่ยนคำถามเปลี่ยนชีวิตผลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้


บริหารทีมคือบริหารคน ต้องถ่วงน้ำหนักเรื่องงานกับใจให้สมดุล มุ่งเน้นแต่ผลประโยชน์อย่างเดียวทีมงานเครียดจนหมดกำลังใจ ให้ใจมากไปอาจได้ใจลูกน้องแต่เสียการปกครองในทีม  บริหารทีมเวิร์กให้แบรนด์ว้าวต้องมีสาระและสีสันผสมผสานกันอย่างลงตัวค่ะ