People – Mindset – Technology: กุญแจความสำเร็จ “ที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004)”

“เมื่อมุมมองเปลี่ยนวิธีการก็เปลี่ยน” ประโยคนี้บอกเล่าแนวทางที่ คุณสุภาพ จรัลพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004) จำกัด สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มีผลงานโดดเด่นอย่าง ONE BANGKOK สถานจัดการประชุมระดับนานาชาติ - โครงการ MIX-USED ชั้นนำของกรุงเทพฯ โรงงาน MAKITA MANUFACTURING , FORZA HOTEL SUKHUMVIT 29 และคอนโดมิเนียมในโครงการดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำหลายแห่ง

people-mindset-technology-tts-engineering-01

กุญแจความสำเร็จที่หนึ่ง - People


คุณสุภาพกล่าวถึงพอร์ตงานโครงการของบริษัท ที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004) จำกัดในปี 2566 นี้ว่าไม่เหมือนกับช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ที่งานเกือบทั้งหมดเป็นคอนโด ซึ่งในปีนี้และปีหน้า บริษัทปรับพอร์ตใหม่เกือบทั้งหมด คุณสุภาพมองว่าตนเองเป็นนักบริหาร ไม่ใช่วิศวกรเพียงอย่างเดียว ทำให้ต้องวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลต่อธุรกิจ จึงเห็นเค้าลางของวิกฤตตั้งแต่ 6 ปีที่แล้วที่สหรัฐเริ่มมองจีนเป็นภัยคุกคาม จึงคาดการณ์ว่าต่อไปเศรษฐกิจโลกจะไม่สดใสเหมือนเดิม ประกอบกับสถานการณ์โควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาจีน-ไต้หวัน คุณสุภาพก็ได้เริ่มปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในวันที่เศรษฐกิจยังดี แต่ที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004) กลับประกาศลดบุคลากรจาก 600 คนเหลือ 300 คน เมื่อคุณสุภาพประกาศข้อความนี้ออกไปก็เกิดปฏิกิริยาคลื่นใต้น้ำ คุณสุภาพจึงเรียกพนักงานระดับหัวหน้าทุกคนมาเปิดใจเพื่อสื่อสารอย่างชัดเจนให้คนเข้าใจตรงกัน ไม่ได้จะให้คนเก่าออกทันที แต่ให้เวลาปรับตัว แต่ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็ต้องให้ออก ซึ่งในวันที่เศรษฐกิจดี การงานใหม่ก็ยังไม่ใช่เรื่องยาก ดีกว่าให้พวกเขาออกไปในวันที่เศรษฐกิจแย่ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ลดคนอย่างเดียว แต่มีการรับคนเพิ่มด้วย โดยเลือกคนอายุน้อย มีความสามารถ ทัศนคติดีมาเป็นระดับหัวหน้า รวมถึงให้ความสำคัญกับแผนก R&D มาก สอนให้ทีมตั้งเป้าหมายก่อนจะลงมือทำ อะไรที่ทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน คุณสุภาพยินดีทำหมด ส่วนตัวคุณสุภาพเองก็หาความรู้ในทุกด้าน อ่านหนังสือ ฟังคลิปเรื่องเศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง เพื่อจะได้คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้


ในส่วนของการทำงานกับคนในวงการเดียวกัน คุณสุภาพเปรียบการแข่งขันกับผู้รับเหมารายอื่นในวงการกับเหตุการณ์ในสงครามครูเสดครั้งที่ 2 ที่กษัตริย์ฝ่ายคริสเตียนและมุสลิมต่างฝ่ายต่างมีความนับถือซึ่งกันและกัน (Respect) แข่งขันในเวทีด้วยกฎกติกาที่เหมือนกัน และต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ข้อดีซึ่งกันและกัน ในมุมมองของคุณสุภาพ อย่ากีดกันเรื่ององค์ความรู้ ยิ่งแบ่งปันก็ยิ่งได้กลับ อยู่ในสังคมที่คนเก่ง คุณก็เก่ง เป็นสถานการณ์ win-win กันทุกฝ่าย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคน Mindset เทคโนโลยี

กุญแจความสำเร็จที่สอง - Mindset


ในชีวิตการทำธุรกิจของคุณสุภาพ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดบริษัทยึดถือหลักสำคัญ คือ เลือกลูกค้า เจ้าของงานต้องไม่ขี้โกง และมีเงิน เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกิจให้มากที่สุด ด้วยบุคลิกนิสัยส่วนตัวของคุณสุภาพไม่ชอบเป็นหนี้ ไม่เคยเป็นหนี้แล้วไม่จ่าย มีอยู่ครั้งเดียวที่เคยเป็นหนี้ คือช่วงวิกฤตปี 2540 ซึ่งเกิดจากการทำทำคอนโดขายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถนัด รวมถึงกู้เงินต่างชาติ ทั้งนี้สิ่งที่คุณสุภาพเรียนรู้จากวิกฤตปี 2540 คือ อะไรที่เราไม่ถนัดก็อย่าไปทำ อะไรที่เราไม่รู้จริงก็อย่าไปยุ่ง Core Business คืออะไร ให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีที่สุด และอย่าใช้เงินผิดประเภท


ในช่วงปี 2540 สิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณสุภาพก้าวข้ามจาก SME เป็น Corporate คือการเปลี่ยนจากรับงานเล็กๆ มาเป็นตึกสูง ช่วงแรกบริษัทยังไม่เคยมีผลงานทำตึกสูง จึงต้องแข่งด้วยราคา ตึกสูงงานแรกที่ทำคือโครงการของนารายณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ ซึ่งตกลงให้งานกับที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004) เพราะเห็นถึงความรับผิดชอบ และราคาถูกกว่าเจ้าอื่นมาก มาถึงตรงนี้ คุณสุภาพปรับเปลี่ยนจากตัวเองจากการเป็นช่างมาเป็นนักบริหาร โดยลงรายละเอียดงานทุกด้าน เช่น ภาษี การบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุน เน้นเรื่องความสะอาด มีระเบียบ คนงานทุกคนทั้งของบริษัทและ sub-contractor อยู่ใต้กฎระเบียบการทำงานเหมือนกัน


การพัฒนาบุคลากรให้ได้ประสิทธิภาพ ต้องปฏิบัติเป็นตัวอย่างให้ทีมงานเห็น เช่นเดียวกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ก็ต้องทำตามให้ทีมงานเห็น ถ้าใครทำไม่ได้ เมื่อให้เวลาปรับตัวแล้ว ยังทำตามไม่ได้ ก็ต้องให้ออก โดยชดเชยตามกฎหมาย ซึ่งดีกว่าปล่อยให้อยู่สร้างความเสียหายให้องค์กร


ในช่วงวิกฤต New Normal ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีช่วย ในมุมมองของคุณสุภาพ การปรับรูปแบบการทำงานก็ต้องดูให้เหมาะกับประเภทคนและวัฒนธรรมองค์กร รู้ว่าคนประเภทไหนเหมาะจะใช้ Zoom ทีมงานแบบไหนจะใช้ Zoom ได้ แล้วจะติดตามประสิทธิภาพงานได้อย่างไร ในเรื่องของการทำงานกับคนรุ่นใหม่ ก็ต้องรู้ว่าคนรุ่นนี้มีวิธีคิดที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน วิธีบริหารจัดการก็ต้องมีอะไรท้าทายเขาตลอด มีเป้าหมายให้เขาเห็นอนาคต ไม่ใช่แค่เงินเดือนอย่างเดียว แต่ทำให้เขามีความรู้สึกท้าทาย


ในเรื่องการจัดการ Generation Gap ในบริษัท คือการที่ไม่ลงมายุ่ง แต่คุณสุภาพจะคุยผ่านหัวหน้า คุยกันด้วยเหตุผล ทั้งนี้บริษัทแต่ละช่วงต้องใช้การจัดการแตกต่างกัน ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ต้องใช้วิธีรวบอำนาจ สั่งการ แต่เมื่อเปลี่ยนยุค ก็ต้องยอมวางมือ และเรียนรู้ที่จะส่งต่ออำนาจการตัดสินใจไปให้ผู้บริหารรุ่นต่อไป

กุญแจความสำเร็จที่สาม - เทคโนโลยี


คุณสุภาพเชื่อในพลังของเทคโนโลยี ในวันนี้ ถ้าไม่ทำ Digital Transformation ธุรกิจก็อยู่ไม่ได้ ที่ที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004) ได้มีการนำเทคโนโลยีแอปพลิเคชั่นมาใช้ทำงานในทุกส่วน เช่น Autodesk BIM360 เขียนแบบ 3D บน Model เดียวกันไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ไหนในโลก, DTC Track ประสิทธิภาพการบริหารงาน Logistic ในบริษัท KwanJai by BUILK บริหารข้อมูลการแจ้งซ่อม After Sale Service, biosoft บริหารข้อมูลทรัพยากรบุคคล ฯลฯ นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ Cloud One Drive ใส่ข้อมูลทุกอย่างของบริษัท (ยกเว้นที่เป็นความลับ) เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพ ฝีมือ การจัดการบริหารให้เป็น Standard เดียวกัน เพื่อความยั่งยืนในอนาคต ในความเห็นของคุณสุภาพ การทำงานในอนาคต จำนวนคนจะน้อยลง แต่เป็นคนที่มีคุณภาพ เพราะเทคโนโลยีจะมาดิสรัปแรงงานคน และคนที่แข็งแกร่งที่สุดจะอยู่รอด


สำหรับความท้าทายของธุรกิจก่อสร้างในอีก 3-5 ปีข้างหน้าที่เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น คุณสุภาพมองว่าธุรกิจการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างจะแข่งขันสูง การ Sourcing ต้องทำให้ดี หาที่ดีที่เก่ง อย่างในประเทศจีน ก็มีของที่ดี ราคาไม่แพง แต่ต้องหาให้เจอ และมีข้อมูลจากตลาดว่าของที่นำมาใช้ควรเป็นประเภทไหน ที่สำคัญคืออย่าคิดเองเออเอง จะได้ไม่ไปผิดทาง ในส่วนของที ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง (2004) ก็ใช้ข้อมูลวิเคราะห์เวลาประมูลงานแพ้ว่ามีข้อด้อยตรงไหน และนำผลที่ได้มาปรับปรุงพัฒนาวิธีการทำงาน เพราะทรัพยากรสำคัญที่สุดก็คือข้อมูลนั่นเอง


ที่มา: โครงการ MissionX The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation รุ่นที่ 5

ที่มาภาพ : tts2004.co.th