เมื่อกระแสปลูกผักสวนครัวมาแรง สั่นสะท้านชานบ้านระเบียงเรือนทั่วเมือง มีธุรกิจจำนวนไม่น้อยไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือ มุ่งหารายได้ด้วยการเสนอตัวเป็นทางเลือกนักปลูกมือใหม่ ทั้งการจัดหาสิ่งของ “จับต้องได้” อย่างเช่นวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ นานา รวมไปถึง “องค์ความรู้” ที่เป็นเครื่องมือทำให้สวนครัวในฝันของใครต่อใครเป็นจริงขึ้นมา แต่จะมีธุรกิจใดที่โตรุ่งกับเทรนด์นี้ได้บ้าง มาดูรายละเอียดกัน

1. ยิ่งพื้นที่จำกัด อุปกรณ์ยิ่งเป็นผู้ช่วยจำเป็น

ปัจจุบันคนในเมืองใหญ่นิยมอยู่คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ หรือบ้านแบบทาวน์โฮมมากขึ้น พื้นที่ว่างย่อมจำกัดกว่าบ้านเดี่ยว ดังนั้นอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่เข้ามาเป็น “ตัวช่วยปลูกผัก” จึงกลายเป็น “ของต้องมี” และกลายเป็นไอเท็มสร้างโอกาสทำรายได้งามๆ ที่มองข้ามไม่ได้อย่างยิ่ง ขอเพียงแต่รู้จักจัดหาอุปกรณ์ตอบโจทย์การปลูกผักในพื้นที่ที่แคบและจำกัดได้ และคำนึงถึงการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ไม่เปลืองพื้นที่ ควบคู่ด้วยความสวยงามเหมาะสำหรับการตกแต่งอวดไลฟ์สไตล์ไปในตัว เช่น  อุปกรณ์ที่ช่วยทำสวนแนวตั้ง แขวนตรงระเบียง หรือสามารถจัดวางและเลื้อยอย่างมีศิลป์ตามริมรั้วบ้าน แค่นี้ลูกค้านักปลูกก็จะถามหาสินค้าของคุณไม่ขาด

2. เมล็ดพันธุ์และต้นกล้าผักที่เติบโตตามกระแส

การเก็บเมล็ดพันธุ์หรือเพาะเป็นต้นกล้าผักประเภทพื้นฐานของกลุ่มคนเริ่มปลูกผัก เป็นสินค้าที่ต้องมีแน่นอน แต่จะให้ดียิ่งกว่า ควรมองหาเมล็ดพันธุ์ใหม่ๆ ตามเทรนด์ที่กำลังมาแรงไว้ด้วย โดยเฉพาะพืชผักที่ขึ้นชื่อว่าดี๊ดีต่อสุขภาพ ย่อมได้รับการตอบรับแบบอุ่นหนาฝาคั่งจากนักปลูกเสมอ ควรรู้จักใช้สื่อสังคมออนไลน์ขายเมล็ดพันธุ์ และถือโอกาสให้ข้อมูลความรู้เรื่องการบริโภคที่เป็นประโยชน์ไปด้วย จะเป็นแรงจูงใจในเชิงบวก นอกจากคุณจะมีรายได้จากการขายแล้ว รู้หรือไม่ว่ายังช่วยให้เกษตรกรตัวจริงเจ้าของเมล็ดพันธุ์มีรายได้เสริม และสามารถส่งต่อเมล็ดพันธุ์ดีๆ ให้คนเมืองได้ลงมือสัมผัสด้วยตัวเอง

3. คลิปสาธิตทำเกษตรแบบคนเมือง

การสาธิตด้วยการทำให้เห็นเป็นวิดีโอขนาดสั้น หรือไลฟ์สดผ่านแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ต่างๆ จะช่วยให้นักปลูกผักมือใหม่เห็นภาพ และเข้าใจขั้นตอนการประคบประหงมสวนหลังบ้านของตัวเองให้งอกงามได้ผลดียิ่งขึ้น ข้อดีคือการใช้ตาดู หูฟัง และลงมือทำตามไปด้วย และเรียกดูซ้ำได้จนกว่าจะมั่นใจ แต่การสื่อสารด้วยข้อมูลเหล่านี้ ผลตอบรับจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับวาทศิลป์และการอธิบายขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องเข้าใจง่ายเป็นที่ตั้ง หากช่องทางสื่อสารของคุณติดตลาด ไม่แน่อาจส่งให้ตัวคุณกลายเป็น Influencer หรือคนที่มีอิทธิพลด้านการถ่ายทอดข้อมูลเรื่องสวนครัวไปเลยก็ได้

4. จัดคอร์สอบรมเอาใจคนเริ่มปลูกผัก

นอกจากทำคลิปออนไลน์เผยแพร่ความรู้แล้ว หากว่าอยากเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม มองหาลูกค้าที่ใฝ่ฝันอยากพัฒนาทักษะการปลูกพืชผักจริงจัง ยังมีอีกช่องทางที่ทำได้จริง สร้างรายได้แน่นอน คือ การเปิดคอร์สอบรมเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเลย เพื่อเป็นทางเลือกช่วยตอบโจทย์ให้นักปลูกมือใหม่ ได้เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานว่าต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนเริ่มลงมือ วิธีทำ เฝ้าระวังโรค ศัตรูพืช จนไปถึงการเก็บผลผลิต ฯลฯ และอาจขยายไปถึงการจัดทริปเล็กๆ พร้อมให้ลงมือฝึกปฏิบัติจริง เริ่มได้จากการเปิดรับผู้อบรมไม่กี่คนแต่ให้ได้ถึงแก่นข้อมูล เทคนิควิธี แนวคิดการปลูกผักประเภทไหนให้ได้ผลสำเร็จ เช่น ผักสลัด การเพาะเมล็ด การเลี้ยงไส้เดือน เป็นต้น

5. ออกแบบแปลงผักให้โดนใจ

อีกธุรกิจที่โตคู่กับเทรนด์ผักสวนครัวได้ คือ การเข้ามาช่วยจัดออกแบบสวนผักสวนครัวให้น่ามอง เพราะบางคนให้ความสำคัญกับความงามให้เข้ากับบริเวณบ้าน ครั้นจะปล่อยให้บรรดาใบกระเพรา ต้นพริก ต้นมะเขือโตในกระถางกันตามมีตามเกิด เห็นจะยอมกันไม่ได้! งานนี้ไม่ได้จำเพาะแต่ผู้ที่เรียนออกแบบพื้นที่มาเท่านั้น เพราะคนที่มีใจรักในงานออกแบบล้วนๆ และมีความเข้าใจธรรมชาติพืชผักแต่ละประเภท อาทิ รู้ว่าพืชผลแต่ละอย่างชอบรับน้ำรับแดดระดับไหน ก็สามารถเนรมิตพื้นที่สวนผักนั้นให้เจ้าของสมใจปรารถนาได้เหมือนกัน

อย่าลืมว่าทุกโอกาสย่อมมีการแข่งขัน แต่หากรู้จักแสวงหาช่องทาง และใช้ใจรักปลูกผักสวนครัวมาสร้างประโยชน์ ผนวกกับหมั่นสำรวจตลาด จับกระแสความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคได้ คุณอาจเจออาชีพใหม่หรือกลายเป็นคนสร้างเทรนด์ให้กับคนรักสุขภาพ โดยไม่ต้องรอเดินตามกระแสอย่างเดียว

อ้างอิง
https://bestreview.asia/best-potted-vegetable-plant/
https://www.thaihometown.com/knowledge/1417/ปลูกต้นไม้
https://www.baanlaesuan.com/134771/ideas/urban_farming
https://www.gurubaan.com/ไอเดียแปลงปลูกผักสวยๆ