ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ปิดช่องโหว่ ‘พินัยกรรมปลอม’ ก่อนเป็น ‘มรดกเลือด’
ทุกคนคงเคยดูละครหลังข่าวกันนะคะ คนชอบหาว่าละครไทยเนื้อหาเป็น Soap Opera ไม่แย่งแฟนกันก็แย่งมรดกกัน แต่จริงๆ แล้วที่ว่าน้ำเน่านั้นมีพื้นฐานมาจากเรื่องจริงเกือบทั้งนั้น เพราะชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร วันนี้เลยอยากมาชวนคุยเรื่องการส่งต่อมรดกโดยพินัยกรรม ว่าจะทำพินัยกรรมให้รัดกุมอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการมีคนมากล่าวหาว่าเป็น ‘ พินัยกรรมปลอม ’ หรือเป็น ‘ พินัยกรรมที่ไม่มีผลตามกฎหมาย ’ จนทำให้หลายๆ ครั้ง มรดกที่ถูกส่งต่อมานั้นกลายเป็น ‘มรดกเลือด’
เล่ากันสักนิดว่าพินัยกรรมคืออะไร ทำได้อย่างไรบ้าง พินัยกรรมคือคำสั่งสุดท้ายที่เจ้ามรดกทำไว้ก่อนเสียชีวิต โดยกำหนดว่าเมื่อเสียชีวิตจะยกทรัพย์สินที่เป็นทรัพย์มรดกของตนให้กับใครบ้าง ทรัพย์สินที่จะยกให้กับผู้อื่นได้นั้นต้องเป็นทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้ามรดกในขณะที่เจ้ามรดกเสียชีวิต กฎหมายได้กำหนดแบบของพินัยกรรมไว้ 5 แบบ แต่แบบที่สะดวกและนิยมทำกันมี 2 แบบคือ พินัยกรรมแบบธรรมดา และพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ วันนี้เราจะไม่เล่าซ้ำว่าพินัยกรรมตามแบบต้องทำอย่างไร แต่เราจะมาคุยว่าทำอย่างไรจะปิดความเสี่ยงที่จะทำให้พินัยกรรมไม่มีผลทางกฎหมาย
เคสพินัยกรรมยอดฮิตที่เป็นคดีความในศาลเรื่องแย่งชิงมรดก ส่วนใหญ่ตัวละครเจ้ามรดก (เจ้าของทรัพย์สินผู้ทำพินัยกรรม) มักมีทายาทลูกหลานเยอะ โดยทายาทเหล่านั้นเกิดจากพ่อหรือแม่คนละคนกัน เช่น เจ้ามรดกมีภรรยา 3 คน อาจจะจดทะเบียนกับคนหนึ่ง นอกนั้นแค่อยู่กินกัน ภรรยาแต่ละคนมีลูก 2-3 คน ต่อมาลูกแต่ละคนมีหลานออกไปอีกคนละสาย สายละหลายๆ คน ความขัดแย้งจะเกิดจากลูกหลานแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า หรืออีกกรณีที่ยอดฮิตคือเจ้ามรดกไม่มีลูกหลานสายตรง ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้คนใกล้ชิดที่ไม่ใช่ญาติ แต่อาจเป็นคนที่ดูแลกันมา เมื่อเจ้ามรดกทำพินัยกรรมมักทำกับผู้ใกล้ชิดและทนายความ พอเสียชีวิต มีการเปิดพินัยกรรมเหมือนในละคร ลูกหลานฝั่งที่ได้รับมรดกน้อย (กว่าที่คิด) หรือไม่ได้รับเลยจะตกใจอุทานยกมือทาบอกว่า ไม่จริง พ่อไม่มีทางทำพินัยกรรมแบบนั้นแน่ๆ พ่อไม่ยกหุ้นบริษัททั้งหมดให้เธอหรอก พ่อต้องยกให้ฝั่งฉัน พินัยกรรมนี้ต้องปลอมหรือทำขึ้นมาโดยหลอกลวงพ่อให้ทำ และเรื่องนี้ก็จะนำมาสู่การฟ้องร้องเป็นคดีความต่อศาล ต่อสู้กันนานๆ ตั้งแต่ชั้นต้น อุทธรณ์ ถึงฎีกาที่กินเวลานานหลายปี ทีนี้เราจะมาดูกันในเรื่องที่พบเป็นประจำว่า จุดไหนเป็นจุดที่ควรให้ความสำคัญตอนทำพินัยกรรม
พินัยกรรมที่ได้ทําขึ้นเพราะสําคัญผิด หรือถูกข่มขู่ ตัวผู้ทําพินัยกรรมเองสามารถยกเลิกได้ภายใน 1 ปี นับแต่การข่มขู่จบลง หรือเมื่อเจ้าตัวได้รู้ถึงการสําคัญผิด หากเกินกำหนดจะถือว่าผู้ทําพินัยกรรมต้องการให้พินัยกรรมนั้นมีผลทางกฎหมาย แต่หากผู้ทําพินัยกรรมไม่ได้ทําการเพิกถอนด้วยตนเอง ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ทายาท หรือผู้จัดการมรดก สามารถร้องขอให้เพิกถอนได้ แต่ต้องทำภายใน 3 เดือนนับแต่ผู้มีส่วนได้เสียรู้ถึงเหตุแห่งการขอเพิกถอนและรู้ถึงผลกระทบได้เสียของตน หากผู้มีส่วนได้เสียได้รู้ถึงเหตุและผลกระทบก่อนที่ผู้ทําพินัยกรรมถึงแก่ความตายต้องทําการขอเพิกถอนภายใน 3 เดือนนับแต่ผู้ทําพินัยกรรมถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 10 ปีนับแต่ผู้ทําพินัยกรรมถึงแก่ความตาย
สรุปแนวทางการทำพินัยกรรมให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่จะโดนปัดตกในทางกฎหมาย
ผลของพินัยกรรมที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อพินัยกรรมมีความบกพร่องต่างๆ ตามที่กล่าวมา จะส่งผลให้คำสั่งตามพินัยกรรมนั้นไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือไม่เป็นไปตามเจตนาของเจ้ามรดกที่กำหนดไว้ในพินัยกรรม โดยทรัพย์มรดกทั้งหมดก็จะตกไปแก่ทายาทโดยธรรมเสมือนว่าไม่มีการทำพินัยกรรมเลย
หากผู้ทำพินัยกรรมต้องการให้มรดกสามารถส่งต่อไปยังลูกหลานได้อย่างราบรื่น ไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ ‘มรดกเลือด’ ก็สามารถปรึกษาทนายได้ค่ะ หรือหากเป็นนักลงทุนที่มีสินทรัพย์อยู่กับธนาคารตามที่ธนาคารกำหนด ก็สามารถขอรับคำปรึกษาจากหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับ Estate Planning และ Family Office ของธนาคารได้เช่นกัน เพราะการส่งต่อมรดกอย่างราบรื่นนั้นถือเป็น Wealth Preservation ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) เลยทีเดียวค่ะ
อ้างอิง:
บทความโดย คุณกมลชนก รามโกมุท ผู้อำนวยการ Estate Planning and Family Office SCB
ที่มา :
The Standard Wealth