ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
จากสาวมั่น บ้าดีเดือด สู่การใช้ใจและคุณธรรมนำองค์กร
ศิลินลักษ์ ตุลยานันต์
บริษัท ฟู้ด อีควิปเม้นท์ จำกัด
“เราแพ้ เสียหน้า แต่ยิ่งเรายอมรับความผิดพลาดเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งแก้ได้เร็ว...แก้ได้เลย” จากเด็กสาวไฟแรง มั่นใจในตัวเอง บ้าดีเดือด กลับยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมหยุดวิ่งแล้วเดินให้ช้าลง เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเดินในจังหวะเดียวกัน จังหวะของ Food Equipment
น้ำตาของความพ่ายแพ้ การยอมปรับความคิดและเปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ นำมาซึ่งการเติบโตของบริษัทกว่า 4 เท่า ก้าวแต่ละก้าวของผู้นำที่มีทั้งความมุ่งมั่นและเมตตาในวันนี้
คุณเฟิร์น ศิลินลักษ์ ตุลยานันต์
ขับเคลื่อนบริษัท ฟู้ด อีควิปเม้นท์ จำกัด ผู้ผลิต จำหน่าย ส่งออกและนำเข้าเครื่องจักรผลิตอาหารสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทุกประเภทให้เกรียงไกร ครองใจลูกค้าทุกระดับตั้งแต่โรงงานยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ไปจนถึงโรงฆา่สตัว์ โรงแรม โรงงาน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า SME โรงเรียน และ OTOP
เส้นทางความพยายาม ฝังความสำเร็จใน DNA
จากลูกสาวเจ้าของห้างในจังหวัดหนองคายที่ชีวิตมีครบทุกอย่าง ต้องเริ่มนับก้าวที่ 1 เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจยกกิจการให้น้องชาย แล้วมาสร้างธุรกิจใหม่ที่กรุงเทพ เด็กนักเรียน ป.3 ในตอนนั้น ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต ต้องย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำ ต้องห่างพ่อแม่ ชีวิตที่เคยคิดว่าตัวเองมีความสุข มีพร้อมทุกอย่างได้เปลี่ยนไป แต่ทว่าเชื้อไฟแห่งความสำเร็จกลับสว่างวาบเข้ามาในหัว ในค่ำคืนหนึ่งที่เธอนอนเรียงรายกับเพื่อนและน้องสาวในโรงเรียนประจำ
“จากนี้ไปหนูจะเป็นเด็กดี จะทำให้ป๊าม้าภูมิใจ”
เมื่อที่บ้านตั้งธุรกิจใหม่เรียบร้อย ก็รับคุณเฟิร์นและน้องสาวมาอยู่ที่กรุงเทพ ชีวิตใหม่ของเด็ก ป.3 เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง บ้านใหม่ โรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ และนั่นนำมาสู่ก้าวที่ 2 ในการฝังความมุ่งมั่นในตัวคุณเฟิร์น “คนนั้นสอบได้ที่ 1 ตั้งแต่อนุบาลหนึ่งแล้ว เธอไม่มีทางได้หรอก” คำพูดของเพื่อนที่โรงเรียนใหม่ เมื่อคุณเฟิร์นชื่นชมเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่สอบได้ที่ 1 ว่าเก่ง กลับกลายเป็นคำเปรียบเทียบท้าทาย คำว่า “เธอไม่มีทางได้หรอก” เป็นเหมือนของขวัญที่ผลักดันให้เธอเป็นอย่างทุกวันนี้ แรงผลักดันที่อยากเอาชนะนำมาสู่ความสำเร็จ “ถ้าเราพยายามที่จะทำอะไรแล้วมั่นใจว่าทำได้ เราจะทำทุกวิถีทางให้มันสำเร็จ” หลังจากวันนั้นคุณเฟิร์นก็สอบได้ที่ 1 มาตลอดจนเรียนจบจากโรงเรียนแห่งนั้น
ยอมแพ้ เพื่อให้องค์กรชนะ
สาวเก่งนักเรียนนอกจบใหม่มาหมาดๆ จากอังกฤษ หัวใจเต็มไปด้วยไฟรุกโชนที่อยากจะพัฒนาธุรกิจของครอบครัวให้เติบโตยิ่งใหญ่ เมื่อเธอเป็นคนใหม่ที่วิ่งเต็มสตรีม แต่คนที่ทำงานอยู่เดิมยังค่อยๆ ก้าวย่างในจังหวะเดิม จึงเกิดช่องว่างอันนำมาสู่ความขัดแย้ง นั่นเป็นอีกหนึ่งก้าวของการเดินทาง ที่เปลี่ยนคุณเฟิร์นผู้ซึ่งมั่นใจ ไฟแรงร้อน ให้รู้จักผ่อนคลายลง และมี “ความเข้าใจคน” มากขึ้น ในช่วงแรกของการทำงานในธุรกิจครอบครัว เธอพยายามรื้อระบบงานทุกอย่าง พร้อมบอกให้พนักงานทำในแบบที่เธอทำ ด้วยความมั่นใจว่าหากพนักงานทำเหมือนกับเธอ ก็จะทำให้องค์กรเติบโตไวขึ้น
แรงต้านจากพนักงาน ทำให้เธอถูกคุณพ่อเรียกเข้าพบในห้องเย็น ด้วยข้อความตรงไปตรงมา “ถ้าต้องให้เลือกระหว่างเฟิร์นกับลูกน้องทั้งออฟฟิศ ป๊าให้เฟิร์นออก เฟิร์นไปคิดดูว่าจะทำยังไง ลองไปปรับปรุงตัว” ณ วินาทีนั้น เธอทั้งเสียหน้า เสียใจ และเสียน้ำตา แต่ก็มีความเชื่อว่า ถ้ายอมรับความผิดพลาดเร็วก็จะแก้ไขได้ทันท่วงที คุณเฟิร์นจึงปรับปรุงตัวเอง ทำตัวเหมือนพนักงานคนอื่นๆ ไปฝังตัวตามแผนกต่างๆ แล้วค่อยๆ แอบพัฒนางานทีละน้อย ค่อยเป็นค่อยไป จนไม่มีใครรู้ตัว พอเวลาผ่านไป คนเลือดเก่าออกไปมีเลือดใหม่เข้ามา ส่วนผสมทั้งเก่าและใหม่ได้ผสานเป็นเนื้อเดียวกันอย่างกลมกลืน “ตอนแรกตัวเองวิ่ง 100 เมตร หันกลับไปลูกน้องยังเดินอยู่ แต่ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่าทีมงานกับเฟิร์นเดินในจังหวะเดียวกันเป็นจังหวะของฟู้ด อีควิปเม้นท์”
ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ
หลังจากย่างก้าวที่สามผ่านไป องค์กรเป็นหนึ่งเดียว และเติบโตมาสู่การย้ายออฟฟิศใหม่ที่กว้างขวาง น่าเชื่อถือมากขึ้น นับจากวันนั้นถึงวันนี้ กว่าสิบปีที่คุณเฟิร์นผลักดันให้บริษัทเติบโตขึ้นถึง 4 เท่า ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่องค์กรที่เติบโต ตัวเธอเองก็เติบโตด้วยการเรียนรู้อะไรมากมายจาก “ป๊าและม้า” ผู้ที่ไม่เคยตีกรอบชีวิตว่าต้องเดินทางไหน ต้องเป็นอะไร แต่เป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่ของ “คุณธรรม” สิ่งที่ซึมซับจากคุณพ่อคุณแม่ ทำให้คุณเฟิร์นเอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้ความรัก ความจริงใจทั้งกับลูกน้อง ลูกค้าและซัพพลายเออร์ “ลูกน้องเดือดร้อนป๊าให้เงินกู้ดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ กับซัพพลายเออร์ป๊าบอกห้ามจ่ายเงินช้า” และที่สำคัญที่สุดคือกับลูกค้า “อย่าทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้เราชนะ แต่จริงๆ คือแพ้” ถึงบางเคสลูกค้าทำผิด คุณพ่อของคุณเฟิร์นก็ยังดูแลหลังการขายให้เต็มที่ ความดีที่ให้กับคนรอบตัว สุดท้ายทุกอย่างกลับมาสู่การเติบโตขององค์กร
“พอผ่านมา 10 ปีเลยตกผลึกว่าธุรกิจเราไม่ได้สำเร็จจากความถูกหรือผิด หรือการทำถูกทฤษฎี
แต่เป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากคุณธรรม
” ซึ่งเธอมองว่านี่แหละคือกลยุทธ์สู่ความสำเร็จของ ฟู้ด อีควิปเม้นท์
คน และ บริการ คือหัวใจ
คุณเฟิร์นมีโปรเจคที่อยากจะพัฒนา 2 เรื่อง คือเรื่องคนและบริการ ในเรื่อง HR ด้วยความตระหนักว่าพนักงานเป็นหัวใจของความสำเร็จขององค์กรรวมทั้งการส่งมอบบริการที่ดี “อยากพัฒนาให้ลูกน้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็มีความสุขมากขึ้นด้วย” โดยเริ่มจากการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดูแลเรื่องเล็กๆ ให้มากขึ้น เธอเล่าถึงความตั้งใจที่อยากจัดการอบรมดีๆ ถึงจะต้องหยุดงานเพื่อจัดอบรมก็ยอม เพราะเป้าหมายคือทำให้พนักงานเก่งขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขและส่งต่อไปถึงครอบครัวของพวกเขาด้วย และสุดท้ายก็นำความเก่งนั้นมาใช้กับงาน คุณเฟิร์นจะชาเลนจ์ให้ทีมคิดเอง ต้องคิดแล้วมาบอกว่ามีกี่ทางเลือก แล้วเขาเลือกวิธีไหน โดยเธอจะเป็นคอนดักเตอร์ผู้ควบคุมวง เมื่อก่อนเธอมองงานเป็นจุดเล็กๆ แต่ตอนนี้ต้องการพาองค์กรกระโดดขึ้นอีกรอบ จึงต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงานโดยเปลี่ยนตัวเองเป็นคนควบคุมวง เป็นโค้ช เป็นพี่เลี้ยง
ชิงทะยานขึ้นไป ก่อนจะถูกดิสรัป
“ที่อยากกระโดดเพราะคิดว่าเราต้องมีเป้าหมายอะไรบางอย่างที่จะผลักดันเราขึ้นไป ชีวิตเราจะสำเร็จได้ต้องมี Goal” ไม่ได้อยากโตเพราะอยากมีเงิน ตัวเลขไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ถ้าเราทะยานขึ้นไปเราจะมีทรัพยากรที่จะดูแลพนักงานได้มากขึ้น รับสมัครคนดีๆ เข้ามาได้มากขึ้น และสามารถนำเอาระบบใหม่ๆ มาพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น “ฟู้ด อีควิปเม้นท์ก็เหมือนเรือลำหนึ่งในสายน้ำแห่งธุรกิจที่เชี่ยวกราก ถ้าไม่ทำอะไรเลยในช่วงนี้เราจะโดนดิสรัปแน่นอน ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย แพแตกแน่นอน” จึงคุยกับทีมงานว่าเราจะมาร่วมกัน พายเรือเพื่อไปสู่เป้าหมายข้างหน้า เพื่อชีวิตทุกคนดีขึ้น เพราะถ้าไม่ตั้งเป้าหมาย พลังก็จะไม่มา!
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการให้
คุณเฟิร์น มีโอกาสร่วมเรียนหลักสูตร IEP รุ่นสอง กับ SCB เธอบอกว่าการเรียนในครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีวันนี้ เพราะได้มีสังคม เครือข่ายที่นำไปสู่การต่อยอด และการพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจเหมือนกัน ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วแต่ละคนก็มีปัญหาคล้ายๆ กันอยู่ไม่กี่เรื่อง ไม่ใช่แค่เราที่เจอปัญหา คนอื่นก็มีปัญหาไม่ต่างกัน นอกจากนั้น SCB ยังคอยสนับสนุนและให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ทั้งวงเงินสินเชื่อเพื่อการนำเข้า อัตราดอดเบี้ย ค่าธรรมเนียมพิเศษเพื่อสนับสนุนธุรกิจให้ไม่สะดุด
และ ณ วันนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นผู้ให้ แบ่งปันความรู้ที่ได้ตกผลึกมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีในเส้นทางธุรกิจของเธอ เมื่อ SCB SME เชิญให้มาร่วมเป็นหนึ่งใน Mentor โครงการ The DOTs เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ให้กับเพื่อนนักธุรกิจ SME ที่ต้องการคำปรึกษา ต้องการพี่เลี้ยงเพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ฝั่งฝัน “เรามองเรื่อง Self - esteem กับ Self - actualization เพราะทำกับ SCB เราใช้ใจและสิ่งที่ได้คือการเป็นผู้ให้ แค่เอื้อเฟื้อกับคนอื่นก็รู้สึกบวกในใจแล้ว” ทีม Mentor ทั้ง 19 คน แต่ละคนเหมือนสุดยอดมนุษย์มารวมกัน เหมือนทีม Avengers ที่เก่งกันคนละด้าน แล้วทุกคนมีพลังบวกเต็มเปี่ยมที่พร้อมจะให้! คุณเฟิร์นเปรียบเทียบได้อย่างเห็นภาพ
เสียงก้องกังวานจากหัวใจอันอิ่มเอมของการเป็นผู้ให้ ความเข้าใจ ความเมตตาที่มีให้กับคนรอบข้าง ไม่เคยหายไปไหน แล้วเราก็จะไม่มีวันขาดทุนจากให้ เพราะยิ่งให้ยิ่งได้รับ เรื่องราวของคุณเฟิร์นทำให้เห็นคุณค่าของการมีแบบอย่างที่ดีให้ซึมซับ ว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าเราจะแน่แค่ไหน แต่ถ้ากล้ายืดอกยอมรับ สิ่งนั้นจะกลายเป็นบทเรียนให้เราได้เติบโต เธอเป็นตัวอย่างของความสมดุลระหว่างความมุ่งมันในการนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จกับการใช้เมตตานำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล โดยมีคุณธรรมเป็นกลยุทธ์นำทาง
#SCBSME #SMEwithPurpose #เพื่อSMEเป็นที่1 #SCBmentor