นักสู้หัวใจแกร่ง เพชรเม็ดงามแห่งธุรกิจพาเลทไม้

ปวีย์ภัทร วัฒนศิริเศรษฐ

ควอลิวูด (Qualiwood)


เหมือนว่าจักรวาลจะรับรู้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้เติบโตมาในครอบครัวธรรมดา ไม่ร่ำรวย แต่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้นด้วยการทำธุรกิจ จึงนำพาให้เขาได้มาพบกัลยาณมิตรที่เป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียน ได้มาทำการตลาดทั้งที่เรียนจบวิศวะ ได้ร่วมงานกับรุ่นน้องที่รู้ใจ กล้าฝัน-ฟันฝ่า จนสามารถปลดล็อกความคิดที่ก้องอยู่ในหัวมาเนิ่นนาน ให้พลันกลายเป็นความจริง บนเส้นทางที่ทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์

มรดกจากพ่อและแม่ เข็มทิศแห่งชีวิต

ชายหนุ่มที่ชื่อ ปวีย์ภัทร วัฒนศิริเศรษฐ หรือนัจ เกิดมาในครอบครัวที่พ่อรับราชการ แม่เป็นพนักงานประจำ รายได้จึงไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย มรดกที่ผู้เป็นพ่อและแม่จะให้ได้ก็คือการปลูกฝังเลือดนักสู้ด้วยการ "ฝึกให้รู้จักลำบากตั้งแต่เด็ก" เพื่อที่จะได้รู้ว่าต้องขวนขวายและดิ้นรนอย่างไร หากยึดเอาความสบายเป็นที่ตั้ง ในวันที่เจออุปสรรคหรือตกต่ำจะไม่รู้วิธีเอาตัวรอดและไปต่อไม่เป็น

family-k-nut

ช่วงปิดเทอมในวัยเด็ก คุณนัจจะได้ไปเที่ยวบ้านเดิมของพ่อแม่ที่สงขลาเป็นประจำ ด้วยการตีตั๋วนั่งรถไฟชั้น 3 จากกรุงเทพฯ ไปลงหาดใหญ่ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 16 ชั่วโมง ถ้าง่วงก็ต้องปูหนังสือพิมพ์นอนใต้เก้าอี้ ไปโรงเรียนก็ถูกฝึกให้ขึ้นรถเมล์ธรรมดาไม่ปรับอากาศ เดินเท้าเข้าบ้านแทนการนั่งมอเตอร์ไซต์ นอกจากความลำบากที่ครอบครัวหยิบยื่นให้แล้ว ผู้เป็นพ่อยังปลูกฝังให้ลูกชายมีความมุมานะ ตั้งใจเรียน และกล่าวกับเขาว่า "ถ้ามีโอกาสอยากให้ทำธุรกิจ ความเป็นอยู่ของครอบครัวจะได้ดีขึ้น" คำพูดนี้ซึมซับอยู่ในความคิดของเด็กที่ครั้งหนึ่งเคยอยากเป็นครูและจบมารับราชการเหมือนพ่อ ตัดสินใจเบนเข็มมาเรียนวิศวะ และมีแพสชันอยากทำธุรกิจ เพื่อเปลี่ยนชีวิตให้จงได้

คนเล็ก ผู้คิดใหญ่

ต้นกล้าที่ถูกเพาะบ่มมาด้วยดิน-น้ำของความอดทน เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง หลังจากเรียนจบ เขาใช้เวลาค้นหาตัวตนไปพร้อมๆ กับการลองผิดลองถูกทำธุรกิจต่างๆ อยู่หลายปี ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เปิดบริษัทรับเหมาช่วงแรงงาน รับตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนยานยนต์ จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนสมัยเรียนที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท ได้ติดต่อมาให้ช่วยทำการตลาดพาเลทให้ ซึ่งพาเลทคือสิ่งที่ใช้จัดเก็บหรือขนย้ายสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ คุณนัจจึงชวนคุณเป้ เอกรัฐชัย สุพันธุชัยกุล รุ่นน้องสมัยเรียนมาช่วยกันทำโครงการขยายตลาดนี้ด้วยกัน เมื่อทำได้ระยะหนึ่ง ก็รู้สึกถูกชะตากับพาเลทไม้เป็นอย่างมาก เขามองเห็นช่องทางที่จะขยายตลาดให้เติบโตไปได้อีกไกล จึงตัดสินใจชวนคุณเป้มาร่วมก่อตั้งบริษัททำพาเลทไม้ ซึ่งผู้ใหญ่ที่รู้จักกันบอกกับเขาว่า "ต้องมีเงิน 10 ล้านถึงจะทำธุรกิจพาเลทได้" แต่สำหรับคุณนัจและคุณป้ พวกเขามีเพียงเงินหลักแสน ทั้งคู่เทหมดหน้าตักนำเงินมารวมกันได้ 1.5 ล้านบาท ห่างไกลจากความเป็นไปได้หลายเท่าตัว ประกอบกับช่วงนั้นธุรกิจส่งออกหดตัว พาเลทซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมส่งออกก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย แต่ชายผู้มีเลือดนักสู้อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยมเลือกที่จะเดินหน้าทำตามความฝัน ในเมื่อเจอธุรกิจที่ใช่และมองเห็นโอกาสที่จะเติบโตอยู่ข้างหน้า ความอยากจึงมีมากกว่าความกลัว สิ่งที่คนอื่นบอกว่าเป็นไปไม่ได้ กลายเป็นแรงผลักดันให้เขาต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ให้ได้ ด้วยความคิดที่ว่า "อะไรที่ง่ายๆ คนอื่นทำไปหมดแล้ว แต่ถ้าทำเรื่องยากสำเร็จ เราจะเป็นเจ้าแห่งตลาด" ความแน่วแน่และตั้งใจของคุณนัจในวันนั้น ทำให้เพื่อนคนเดิมที่ชวนเขามาช่วยทำการตลาดกลายมาเป็นกัลยาณมิตรที่พร้อมสนับสนุนและเป็นที่ปรึกษาให้อย่างเต็มที่

มือใหม่ หัวใจมั่น

ธุรกิจพาเลทของคุณนัจและคุณเป้ ในวันที่ก่อตั้งบริษัท ไม่มีแม้แต่โรงงาน เครื่องจักร หรือคนงานสักคน เขาเริ่มจากการขอเช่าพื้นที่เล็กๆ 460 ตารางเมตรมาทำโรงงาน เครื่องจักรเครื่องแรกเป็นเครื่องมือสอง ซื้อมาติดตั้งกันเองในราคา 25,000 บาท หาคนงานมาได้ 5 คน และด้วยเงินทุนที่ไม่มากพอ แถมเป็นหน้าใหม่ ไม่มีประสบการณ์ จึงต้องใช้วิธีเข้าไปขาย Profile แบบตัวต่อตัวกับซัพพลายเออร์เพื่อขอเครดิต และราวกับจักรวาลได้จัดเรียงไว้แล้ว ชายหนุ่มได้พบกับซัพพลายเออร์ที่เห็นถึงแพสชันในแววตาที่มุ่งมั่นของเขา เห็นความตั้งใจ และวิธีคิดในการทำธุรกิจที่เป็นไปได้ ประกอบกับเพื่อนที่ทำพาเลทช่วยการันตี ทำให้ซัพพลายเออร์แทบทุกรายปล่อยเครดิตให้อย่างน่าอัศจรรย์ บางรายไม่เคยให้เครดิตใครมาก่อน ก็ปล่อยให้กับคุณนัจเป็นรายแรก

Business Model Canvas ถูกร่างขึ้นมาด้วยลายมือของเขาเอง และลงมือทำทุกอย่างโดยทันที ตั้งแต่การออกแบบใบเสนอราคาและใบกำกับภาษีเอง หัดขับรถโฟล์คลิฟท์ ฝึกใช้เครื่องจักรและเครื่องมือช่าง แล้วนำมาสอนคนงานที่ไม่มีประสบการณ์เหมือนกับเขา เป็นการ Learning by Doing ไปพร้อมๆ กัน แม้จะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ข้อความที่เปล่งมาจากปากเขาตลอดเวลาคือ "ผมไม่เคยท้อ พ่อแม่สอนให้ลำบากมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเป้าหมายของเราใหญ่พอ อุปสรรคทุกอย่างจะเป็นเรื่องเล็กทันที"

ประวัติศาสตร์หน้าแรก

5 สิงหาคม 2557 เป็นวันที่คุณนัจและคุณเป้ไม่มีวันลืม พาเลทไม้ล็อตแรกของบริษัทหลังจากทั้งคู่ปลุกปั้นธุรกิจกันมาตั้งแต่ต้นปี 2557 พร้อมส่งไปยังลูกค้า ชายหนุ่มหัวใจพองโต ยืนจับพาเลทไม้ไว้แน่นและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ของบริษัท ทุกอย่างสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม ได้พาเลทไม้ที่มีคุณภาพสมกับชื่อของบริษัทที่เขาได้ตั้งไว้ด้วยตนเองว่า "ควอลิวูด" ที่มาจากคำว่า Quality และ Wood

สำหรับควอลิวูดแล้ว คุณภาพต้องมาเป็นที่หนึ่ง บริการต้องฉับไว ตรงต่อเวลา และมาพร้อมโซลูชันที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับลูกค้าได้ จนเกิดเป็นเคสประทับใจที่คุณนัจเล่าให้ฟังว่า มีโรงงานผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งต้องการใช้พาเลทด่วน โดยต้องส่งของภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้ทันปิดตู้และขึ้นเรือได้ตามกำหนดเวลา ในยามวิกฤติของลูกค้าเช่นนี้ ปัญหาของลูกค้าก็คือปัญหาของเขา คุณนัจเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ส่งพาเลทให้ลูกค้าได้ทันท่วงที จนทุกวันนี้ "ควอลิวูด" ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตพาเลทไม้เพียงรายเดียวให้กับลูกค้ารายนี้

ประกาศเป้าหมาย ทำให้เป็นจริง

การทำธุรกิจ ปัญหามีมาตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ แต่สำหรับคุณนัจแล้ว "ทุกปัญหามีทางแก้ ถ้าท้อก็เป็นถ่าน ถ้าผ่านก็เป็นเพชร" ในเมื่อเริ่มต้นจากเงินทุนเพียงน้อยนิด แต่ต้องเดินหน้าทำธุรกิจที่หลายคนบอกว่าต้องมีเงินทุนหลักสิบล้าน การใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์จึงต้องรัดกุมเป็นอย่างมาก รูรั่วเท่าตามดก็อาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้ เขาดูบัญชีด้วยตัวเองอย่างละเอียดเพื่อให้สามารถวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายแต่ละประเภทได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เจ้าของธุรกิจอย่างเขาอยู่ได้ด้วยความหวังและความฝัน พนักงานโดยเฉพาะยุคแรกก็เหนื่อยไม่แพ้กัน แต่ทุกคนยืนหยัดสู้ไปด้วยกันในวันที่เขาลำบาก ดังนั้นรายจ่ายที่คุณนัจให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งจึงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก "เงินเดือนพนักงาน" ที่ต้องจ่ายให้ตรงเวลา เพราะปากท้องเป็นสิ่งสำคัญ คนที่ลำบากมาตั้งแต่เด็กอย่างเขาเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี การทำให้พนักงานเชื่อมั่น ต้องทำให้เห็น สำเร็จให้ดู ทุกปีเขาจะประกาศเป้าหมายของบริษัทและทำให้เป็นจริง เมื่อเกิดความเชื่อมั่น ทุกคนก็พร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยกัน พนักงานที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของบริษัทตั้งแต่ยุคแรก ล้วนยังทำงานเป็นกำลังสำคัญให้กับคุณนัจจนถึงทุกวันนี้ และปีนี้เขาก็ได้ประกาศเป้าหมายแล้วว่า "จะต้องเป็นอายุน้อยร้อยล้านให้ได้"

เขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่ธุรกิจ Sunset แต่เป็นธุรกิจ Sunrise ที่พระอาทิตย์ยังคงส่องแสงให้เห็นโอกาสในการเติบโตอยู่เสมอ มาวันนี้ควอลิวูดไม่ได้มีแค่พาเลทไม้เท่านั้น ยังมีลังไม้ วงล้อไม้ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากไม้ และงานบริการแพคสินค้านอกสถานที่ (On-Site Packing Service) ผลิตด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง ใช้ระบบ Green Manufacturing เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการควบคุมคุณภาพที่ครบวงจรตามมาตรฐานสากล

นกต้องมีขน คนต้องมีเพื่อน จึงจะบินได้สูง

นอกจากคุณนัจจะมีกัลยาณมิตรที่เป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนแล้ว ยังมีคู่คิดคู่ธุรกิจมากฝีมืออย่างคุณเอกรัฐชัย มีธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจใช้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ และเป็นบัญชีหลักของบริษัทมาจนทุกวันนี้ ทำให้สำหรับคุณนัจแล้ว SCB ไม่ได้เป็นเพียงที่ปรึกษาด้านการเงิน แต่ยังให้ความรู้ คอนเนกชัน และเครื่องมือในการบริหารธุรกิจที่ตอบโจทย์ด้าน A B C D ให้กับเขาอย่างครบถ้วน

  • A cademic คือความรู้ที่ SCB หยิบยื่นให้ มีโอกาสเรียนในหลักสูตร IEP ของ SCB ที่ช่วยพัฒนาทักษะจำเป็นในการทำธุรกิจที่ไม่สามารถหาจากที่ไหนได้

  • B anking คือด้านการเงินที่ธนาคารเข้ามาให้คำปรึกษา ช่วยแนะนำสินเชื่อที่เหมาะกับธุรกิจเกิดใหม่ของเขา ที่ต้องใช้เงินหมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่อง และยังมี Relationship Manager (RM) มาดูแลช่วยเหลือแนะนำในเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
  • C onnection Network คือโอกาสธุรกิจที่ SCB เข้ามาช่วยทำ Business Matching ด้วยการจับคู่ธุรกิจให้ทั้งฝั่งของลูกค้าและซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ยังได้รู้จักเครือข่ายนักธุรกิจทั้งกลุ่มงานไม้และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือการที่เขาได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอด และแบ่งปันประสบการณ์ของตนเองให้กับเพื่อนนักธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการด้วยกัน

  • D igital คือระบบและเครื่องมือที่ SCB นำมาช่วยบริหารจัดการการเงิน มี SCB Business Anywhere เป็นตัวช่วยให้สามารถสั่งจ่ายเงินเดือนพนักงานได้แบบอัตโนมัติ และสามารถทำธุรกรรมการเงินที่สะดวก รวดเร็ว ช่วยลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี

แม้กฎของแรงดึงดูดจะทำงานจนเกิดกระบวนการจักรวาลจัดเรียงได้จริง แต่หากไม่ลงมือทำ ท้อถอยระหว่างทาง ก็อาจไม่สามารถค้นพบและนำพาธุรกิจให้เติบโตมาได้ถึงทุกวันนี้ เหมือนก้อนคาร์บอน ถ้าไม่ผ่านกระบวนการหล่อหลอม กดดันจากอุปสรรคต่างๆ ก็จะเป็นได้แค่เพียงถ่านไม้ แต่ถ้าสามารถผ่านไปได้ก็จะกลายเป็นก้อนผลึกที่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด พร้อมที่จะได้รับการเจียระไนให้เป็นเพชรเม็ดงามที่เปล่งประกายเจิดจรัส มีคุณค่าและราคา มากขึ้นและมากขึ้น...อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!


#SCBSME #SMEwithPurpose #เพื่อSMEเป็นที่1 #SCBmentor

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง