เช็กก่อนช้อป Easy e-Receipt ลดหย่อนภาษีอย่างไรคุ้มสุดๆ

มาแล้วโครงการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 ที่เรียกว่ามาตรการ Easy e-Receipt สำหรับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นมาตรการสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย มาตรการนี้คืออะไร มีหลักเกณฑ์อย่างไร มาเช็กให้ชัวร์ก่อนช้อป Easy e-Receipt เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่คุ้มสุดๆ 

Easy e-Receipt คืออะไร

โครงการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 สำหรับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เท่านั้น สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 - 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร ทั้งนี้ e-Tax Invoice , รวม e-Tax Invoice by Email   ด้วย และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด นอกจากนี้ ค่าหนังสือ, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร และค่าบริการ e-Book รวมถึงสินค้า OTOP ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถใช้ใบรับอิเล็กทรอนิกส์แทนใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้

 

เช็กก่อนสินค้าอะไรที่ลดหย่อนไม่ได้

  • ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่าซื้อยาสูบ
  • ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  • ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
  • ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ที่มีระยะเวลาเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567


เช็กได้อย่างไรว่าร้านนี้ร่วม e-Tax Invoice
& e-Receipt

สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิออกใบกำกับภาษี /ใบรับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และ e-Tax Invoice by Email ได้ที่ เว็บไซต์ของกรมสรรพากร


เช็กได้อย่างไรว่าคือ e-Tax Invoice & e-Receipt ที่ลดหย่อนได้จริง

  • กรณีได้รับเอกสารเป็นไฟล์ จะต้องมีลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ของผู้ออก e-Tax Invoice & e-Receipt โดยต้องเปิดโปรแกรมเพื่อตรวจดูลายมือชื่อดังกล่าว

  • กรณีได้รับเอกสารเป็นกระดาษ จะต้องมีข้อความระบุว่า “เอกสารนี้ได้จัดทำและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์”   

 

เช็กให้ชัวร์ฐานภาษีเท่านี้...ได้คืนภาษีสูงสุดเท่าไหร่

ในการคำนวณจำนวนภาษีที่ได้รับสิทธิลดหย่อนจะขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิและอัตราภาษีของแต่ละคน โดยพิจารณาได้จากอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดังนี้

 

เงินได้สุทธิต่อปี (บาท)

อัตราภาษี

เงินคืนภาษีสูงสุด

(ใช้จ่าย Easy e-Receipt เต็มจำนวน 50,000 บาท)

 0 – 150,000

ยกเว้น

0

150,001 - 300,000

5%

2,500

300,001 - 500,000

10%

5,000

500,001 - 750,000

15%

7,500

750,001 - 1,000,000

20%

10,000

1,000,001 - 2,000,000

25%

12,500

2,000,001-5,000,000

30%

15,000

5,000,001 ขึ้นไป

35%

17,500

 

แนะนำตัวช่วยลดหย่อนภาษีตัวใหม่   

นอกจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาจะใช้เป็นทางเลือกในการวางแผนภาษีแล้ว ยังมีกองทุน ThaiESG หรือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ที่ให้บุคคลธรรมดาที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund หรือ ThaiESG) ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 2566 - 31 ธ.ค. 2575 สามารถลดหย่อนภาษีได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาทสำหรับปีภาษีนั้น และกำหนดให้ผู้มีเงินได้ไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุน ThaiESG ดังกล่าวคืน มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่ถือหน่วยลงทุนนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน สนใจลงทุนกองทุน ThaiESG อ่านบทความเพิ่มและศึกษากองทุนที่น่าสนใจได้ที่ลิงก์นี้ กลยุทธ์เด็ดปลายปี ! วางแผนการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่ม พร้อมลงทุนรักษ์โลก กับ “Thai ESG” กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน จาก SCB