กลยุทธ์เด็ดปลายปี ! วางแผนการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่ม พร้อมลงทุนรักษ์โลก กับ “Thai ESG” กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน จาก SCB

เรากำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2566


เดือนธันวาคมเป็นช่วงเวลาดี ของผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษีทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่ารายได้จะมาจากงานประจำ งานฟรีแลนซ์  งานค้าขาย ฯลฯ ที่กำลังมองหาตัวช่วยเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษี หนึ่งในตัวช่วยที่ได้รับความนิยมสูง และถือว่าเป็นประโยชน์สองต่อ ทั้งจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีและโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนไปพร้อมกัน คือการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี

 

ปี 2566 นับเป็นปีที่พิเศษ เพราะทางรัฐบาลมีความใส่ใจต่อสถานการณ์ตลาดทุนไทยและสถานการณ์การลงทุนระยะยาวโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมแก่ผู้เสียภาษี นอกจากกองทุน RMF และ SSF ที่มีอยู่ก่อนแล้ว ยังได้ร่วมหารือกับองค์กรหลักที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) และได้มีการริเริ่ม กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (“Thai ESG”) ขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยจะเริ่มซื้อกองทุนได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้  นับเป็นข่าวดีทั้งในแง่เม็ดเงินลงทุนในบริษัทมหาชนที่ดำเนินธุรกิจสนับสนุนแนวทาง ESG และพลเมืองดีผู้เสียภาษีที่กำลังมองหารายการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม 

2238549993

3 เรื่องควรรู้ก่อนลงทุนกองทุน TESG


หนึ่ง... กองทุน Thai ESG คืออะไร ?


กองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ทีมีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์จากผู้ออกตราสารที่มีความโดดเด่นในด้านปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) ตามหลักกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund)


สอง...ความน่าสนใจ ของกองทุน TESG


· ปัจจุบันการลงทุนแบบยั่งยืน (Sustainability Investment) ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มตระหนักว่า บริษัทที่ดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงเรื่อง สิ่งแวดล้อม(Environment) สังคม(Social) และธรรมาภิบาล(Governance) จะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเข้ามาส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจได้ ทำให้การดำเนินงานมีโอกาสเติบโตได้อย่างยั่งยืน สะท้อนผลบวกเข้าไปยังราคาหุ้นหรือตราสารหนี้ของบริษัทได้


· กองทุน TESG ลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่เน้นความยั่งยืนและคำนึงถึง ESG เป็นหลัก ผู้จัดการกองทุนทำการวิเคราะห์ และคัดเลือกตามแนวคิด ESG ซึ่งจะช่วยให้โลกได้ฟื้นฟู และพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนได้


·  ผู้ลงทุนได้มีส่วนร่วมสร้างผลเชิงบวกต่อโลก มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งยังได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษีอีกด้วย


สาม... เงื่อนไขสำคัญของกองทุน TESG


·  ถือครองครบ 8ปี นับแบบวันชนวัน


·  เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่มี ESG ที่ดี และตราสารหนี้ประเภท ESG Bond (ขึ้นกับนโยบายของกองทุน)


·  สามารถนำยอดซื้อลงทุน ไปหักลดหย่อนรายได้พึงประเมินที่นำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คนละไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน และสูงสุดไม่เกิน  100,000 บาทต่อปี  เป็นส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาต่างหาก โดยไม่ต้องนับรวมกับวงเงิน 500,000 บาท ที่เป็นขั้นสูงสุดของการซื้อกองทุน SSF, RMF, PVD กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (หรือกบข.) และ ประกันชีวิตแบบบำนาญ


· ลงทุนภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของปีภาษี 2566 นี้ได้เลย


วันนี้ SCB มีข้อมูลกองทุน TESG  มานำเสนอ เพื่อให้เราได้เตรียมวางแผนเลือกลงทุนในแบบที่เป็นตัวเราเอง พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี ไปกับกองทุน TESG มีดังนี้

ลงทุนหุ้นไทย ESG บริหารเชิงรุก
เลือก SCBTA(ThaiESG) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนแอคทีฟ


·  กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นไทยของบริษัทที่คำนึงถึงปัจจัยด้าน ESG ไม่ต่ำกว่า 80%

·  ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน

·  กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active มีค่าธรรมเนียมการจัดการ 2.14%

·   มี 2 กองทุนให้เลือก คือ

o   แบบจ่ายเงินปันผล คือ SCBTA(ThaiESG) ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน

o   แบบไม่จ่ายเงินปันผล คือ SCBTA(ThaiESGA) ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า


·   จุดเด่นกองทุน
 

o เน้นการลงทุนและให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความโดดเด่นด้านการดำเนินธุรกิจและมูลค่าน่าสนใจ

o พิจารณาปัจจัยด้าน ESG เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจลงทุน

o ใช้ข้อมูลจากหลากหลายแหล่งในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการลงทุน

o บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ การันตีด้วยกองทุนคุณภาพติดดาว เช่น SCBTHAICG ได้รับ 5 ดาว จาก Morningstar ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap , ณ 31 ต.ค. 66 และ SCBDA ได้รับ 4 ดาว จาก Morningstar ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap , ณ 31 ต.ค. 66


ลงทุนหุ้นไทย ESG บริหารเชิงรับ
เลือก SCBTP(ThaiESG) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนพาสซีฟ


· กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETESG TRI ไม่ต่ำกว่า 80% และมุ่งให้กองทุนมีผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง

· ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน

· กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive มีค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.749%

· มี 2 กองทุนให้เลือก คือ

o   แบบจ่ายเงินปันผล คือ SCBTP(ThaiESG) ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน

o   แบบไม่จ่ายเงินปันผล คือ SCBTP(ThaiESGA) ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า


·  จุดเด่นกองทุน


o   บริหารกองทุนแบบเชิงรับด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ Optimization โดยจะพิจารณาปรับรายการหลักทรัพย์(rebalance) ทุกรอบ 6 เดือนตามดัชนีอ้างอิง

o   มีวัตถุประสงค์หลักให้ผลตอบแทนกองทุนใกล้เคียงกับดัชนี SETESG TRI มากที่สุด

o   มุ่งเน้นความยั่งยืนตามหลักสากลที่เป็นที่ยอมรับ เน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนฯ ที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน

o   มีค่าธรรมเนียมถูกกว่ากองทุนหุ้นไทยโดยทั่วไป


ลงทุนแบบผสมหุ้นไทย และตราสารหนี้ ESG
เลือก กองทุน SCBTM(ThaiESG) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ไทยผสมยั่งยืน


· กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนแบบผสมยืดหยุ่น  0 – 100 % ทั้งในตราสารหนี้และตราสารทุนของบริษัทที่มี ESG โดดเด่น

· ความเสี่ยงระดับ 5 กองทุนรวม

· กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive มีค่าธรรมเนียมการจัดการ 1.605%

· มี 2 กองทุนให้เลือก คือ

o   แบบจ่ายเงินปันผล คือ SCBTM(ThaiESG) ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน

o   แบบไม่จ่ายเงินปันผล คือ SCBTM(ThaiESGA) ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า


·  จุดเด่นกองทุน


o   ลงทุนทางด้าน ESG โดยเน้นการบริหารเชิงรุก มุ่งสร้างผลตอบแทนอย่างมีเสถียรภาพ ผสานจุดแข็งของข้อมูลปัจจัย ESG (ESG Integration) ในการเพิ่มโอกาสการลงทุนไปกับ ESG Transition Trend และลดความเสี่ยงจาก ESG Risk ควบคู่กับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของกิจการ

o   บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ การันตีด้วยกองทุนคุณภาพติดดาว เช่น SCBLT1 ได้รับ 4 ดาว จาก Morningstar ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ณ 31 ต.ค. 66 และ SCBFLX ได้รับ 4 ดาว จาก Morningstar ประเภท Thailand Fund Moderate Allocation ณ 31 ต.ค. 66


ถึงตรงนี้...หากคุณยังมีคำถามในใจว่า “ควรซื้อกองทุนประหยัดภาษี TESG ตอนไหนดี?”


“ทยอยลงทุนภายในเดือนธันวาคมนี้” คือ คำตอบ


กองทุน TESG เสนอขายครั้งแรก 8 ธ.ค. 66 – 15 ธ.ค. 66 และลงทุนต่อได้ตั้งแต่ 18 ธ.ค. 66 เป็นต้นไป นี่คือการลงทุนระยะยาว ลงทุนตั้งแต่ตอนนี้จะทำให้คุณไม่พลาดโอกาสการลงทุนและโอกาสลดหย่อนภาษี ไม่ว่าสภาวะตลาดทุนจะเป็นอย่างไร


สนใจลงทุน เริ่มต้นยังไง ?


ใครสนใจ  เริ่มต้นวันนี้ ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SCB Easy แล้วทำตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆนี้

1.  เปิดบัญชีกองทุนผ่าน SCB Easy App

2. ผูกบัญชีกองทุนบน SCB Easy App

3. ซื้อกองทุนผ่าน SCB Easy App

พิเศษ!

มีแคมเปญลงทุนกองทุน Thai ESG วันที่ 8 ธ.ค. 66 - 28 ธ.ค. 66 รับ Fund Back สูงสุด 200 บาท*

ลงทุน สะดวก ง่าย ผ่านแอป SCB EASY

รายละเอียดโปรโมชั่น คลิก https://scbcw-preprod.scb.co.th/th/personal-banking/investment/fund/mutual-funds/thai-esg.html


หมายเหตุ

 

•  * เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขายและกองทุนรวมที่ร่วมรายการเป็นไปตามที่บลจ.ไทยพาณิชย์กำหนด

•  เงื่อนไขการลงทุนและการลดหย่อนภาษีเป็นไปตามกฎหมายและประกาศที่กรมสรรพากรกำหนด

•  กองทุนรวม Thai ESG มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

•  ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนด้วย

•  ลงทุนในกองทุนรวมที่เข้าร่วมรายการระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ถึง 28 ธันวาคม 2566 และต้องถือครองหน่วยลงทุนที่ได้ลงทุนภายในช่วงเวลาส่งเสริมการขายจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 เท่านั้น

• ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนกองทุนที่ร่วมรายการเพิ่มเติมได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด และสามารถศึกษารายละเอียดกองทุนรวมเพิ่มเติมผ่าน SCB EASY App

• สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

#วางกลยุทธ์ลงทุนพร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีที่SCB

#SCBTM(Thai ESG)          #SCBTP(Thai ESG)            #SCBTA(Thai ESG)

#SCBX  #SCBWealth  #SCBEASY #นิ้วโป้ง