ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เสริมแกร่งวางแผนเกษียณ ‘ยุคเงินเฟ้อ’ ด้วย ‘กองทุน RMF’
‘การวางแผนการเงินที่ดีจะนำชีวิตไปสู่ความมั่นคงทางการเงินได้’ การเตรียมตัวเก็บเงินเพื่อให้ตอบโจทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้มีความพร้อมและสุขภาพทางการเงินที่ดี โดยเฉพาะก่อนเข้าสู่วัยเกษียณ และยิ่งหากมีการทบทวนแผนการเกษียณอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการรองรับชีวิตภายหลังเกษียณอายุได้ดียิ่งขึ้น
ในช่วงปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด และปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาพลังงานทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อสูงทั่วทั้งโลก และส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งกำลังซื้อที่ลดลง รวมถึงผลกระทบต่อการวางแผนเกษียณในระยะยาว ที่จำนวนเงินที่เคยตั้งเป้าเก็บไว้ใช้จ่ายอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ฉะนั้น
การทบทวนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดรับกับสภาวะเงินเฟ้อสูงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ควรต้องทำ เพื่อเสริมแกร่งให้กับแผนรองรับการเกษียณอายุ
ให้ดีขึ้นได้
โดยปกติแล้ว ‘การวางแผนเกษียณอายุ’ จะคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุเกษียณ และอายุขัย เพื่อคาดจำนวนปีที่จะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ รวมถึงประมาณการเงินที่จะใช้จ่ายต่อปีภายหลังเกษียณ และเงินออมที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อจะได้ประเมินเงินออมที่ต้องวางแผนเก็บเพิ่มในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่รูปแบบการออมและการลงทุนที่เหมาะสม ให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน เพื่อให้เงินออมงอกเงยสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการวางแผนเกษียณอายุ คือ อัตราเงินเฟ้อ ที่จะต้องนำมาใช้ในการคำนวณร่วมกับอัตราการเก็บออม
เพื่อให้มีจำนวนเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายยามเกษียณตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ด้วย
ปัจจุบันการออมเงินผ่านการลงทุนในกองทุนประเภท RMF (Retirement Mutual Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ นับเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการออมเพื่อเกษียณ ทั้งเป็นการสร้างวินัยในการออม มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อ และยังสามารถได้สิทธิลดหย่อนภาษีอีกด้วย
บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุน RMF ให้เลือกสรรครบทุกประเภทสินทรัพย์ ทั้งไทยและต่างประเทศ รวม 29 กองทุน โดยปัจจุบัน
บลจ. มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และเวียดนาม
ที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว เหมาะสำหรับเลือกลงทุนเพื่อเป้าหมายเกษียณ แนะนำกองทุนหุ้นสหรัฐฯ SCBRMS&P500 และ SCBRMNDQ, กองทุนหุ้นจีน SCBRMASHARES และกองทุนหุ้นเวียดนาม SCBRMVIET
สำหรับเงื่อนไขการลงทุนในกองทุน RMF เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี จะลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และต้องไม่เกิน 5 แสนบาท (รวมกับ SSF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนการออมแห่งชาติ, กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายของโรงเรียนเอกชน และประกันบำนาญ) ต้องถือครองจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องลงทุนมาครบ 5 ปีบริบูรณ์ โดยต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 0 2777 7777 กด 0 กด 6 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
www.scbam.com
ข้อมูล ณ วันที่ 23 กันยายน 2565
บทความโดย คุณศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
ที่มา :
The Standard Wealth