หากนึกถึงดินแดนบนที่ราบสูง คนพื้นเมืองเชื้อสายเอเชียผู้มีสายเลือดของนักรบขี่ม้า ยิงธนูอย่างเชี่ยวชาญ พักอาศัยเต็นท์กระโจม กลางท้องฟ้าเวิ้งว้างและทะเลทราย คงเป็นที่อื่นไปไม่ได้นอกจาก “มองโกเลีย” ประเทศที่น่าสนใจ โดยเฉพาะธรรมชาติที่งดงามและวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงรักษาวัฒนธรรม การใช้ชีวิตแบบพื้นเมืองไว้อย่างเข้มแข็ง ถึงแม้ปัจจุบันความเจริญได้รุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ แต่คนมองโกเลียจำนวนมากก็ยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มองโกเลียเป็นประเทศในทวีปเอเชียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลกรองจากประเทศคาซัคสถาน หลายคนอาจเคยคิดถึงการไปเยือนดินแดนแห่งนี้สักครั้งในชีวิต ไปนอนเต็นท์กระโจมที่ชาวมองโกเลยรียกว่า “เกอร์” แต่ในความอยากก็อาจมีคำถามว่าน่าไปจริงมั้ย ลำบากหรือเปล่า น่ากลัวมั้ย ไปเองได้หรือไม่หรือต้องไปกับทัวร์ วันนี้จะมาเคลียร์ข้อสงสัยให้ฟังกัน

1. มองโกเลียเป็นประเทศคั่นกลางระหว่าง 2 มหาอำนาจ ข้างบนคือพี่เบิ้มรัสเซีย ด้านล่างคือตั่วเฮียจีนแดง เลยมีสไตล์ของผู้คนและบ้านเมืองแบบมิกซ์ที่แมทช์ระหว่าง 2 วัฒนธรรม

2.ประชากรส่วนมากนับถือศาสนาพุทธนิกายวัชรยานแบบทิเบต และประชากรร้อยละ 38 อาศัยอยู่ในเมืองหลวงอูลานบาตาร์

3. แต่เมือง Ulgii ทางตะวันตกสุดใกล้ชายแดนคาซัคสถาน เป็นถิ่นของชนเผ่าคาซัค ผู้ยังคงอนุรักษ์การเลี้ยงนกอินทรีไว้ล่าเหยื่อ หน้าตาและวัฒนธรรมของผู้คนก็จะแตกต่างออกไปหน่อยนึง ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

4. มองโกเลียมีขนาดประเทศใหญ่กว่าไทยประมาณ 3 เท่า แต่มีประชากรเพียง 3 ล้านกว่าคน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้า ทะเลทราย สภาพอากาศโหดร้ายทารุณสำหรับคนแถบๆ บ้านเรา วิกิพิเดียบอกว่า มีพื้นที่ ๆ ทำการเกษตรได้ไม่ถึง 1% !!

5. ไปมองโกเลียไม่ต้องขอวีซ่า ค่าครองชีพไม่แพง ในขณะที่ค่าตั๋วเครื่องบินก็ไม่ถูก

6. ช่วงปลายตุลาคม อุณหภูมิเลขตัวเดียวตอนกลางวัน และติดลบหลังตะวันเลิกงาน ตอนแรกก็กลัวๆ ว่าจะอยู่ได้ยังไง ผ่านไปสองสามวันก็อยู่ได้แฮะ ก็หนาวแหล่ะ ใส่เสื้อหนาๆ หลายๆ ชั้น ออกไปถ่ายดาวตอนสามสี่ทุ่ม ออกไปจ๊อกกิ้งตอนเจ็ดแปดโมงได้ อย่ามีลมละกัน บรื๋ออออ

7. นั่งรถตะลุยไปตามท้องทุ่งเวิ้งว้างเป็นชั่วโมง ไม่เห็นรถซักคัน ตัดมาที่มหานครอูลานบาร์ตอร์ เหมือนคนทั้งประเทศมากระจุกกันที่นี่ เจริญสุดๆ สว่างไสวระยิบระยับทั้งเมือง ตึกสูงระฟ้าแย่งกันหาที่ยืน รถติดหนึบเหมือนเส้นรัชดา-ลาดพร้าวตอนเย็นวันศุกร์สิ้นเดือน ปรับตัวกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว

8. โชเฟอร์ทุกคนสามารถพาเราตะลุยไปได้ทุกที่แม้ไม่มีถนน ที่พัก, ที่ท่องเที่ยวหลายแห่งอย่าว่าแต่ป้ายบอกทางเลย ถนนหนทางใดๆ ก็ไม่มี มองไปเจอแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า แต่พี่ๆ ก็พาเราไถๆ ไปถึงที่หมายจนได้.. แกไปถูกได้ไงนะ?

9. เที่ยวนอกเมืองอย่าหวังน้ำบ่อหน้า เพราะไม่มีน้ำจริง ๆ มีแต่ฝุ่น ทราย ลม เผลอๆ มาเป็นคอมโบเซ็ตพายุฝุ่น(ผสมขี้อูฐ) การไม่ได้อาบน้ำอย่างต่ำ 2-3 วันถือเป็นเรื่องปกติ นั่งส้วมหลุม ทำภาระกิจเสร็จไม่มีน้ำล้างมือเดินตรงเข้าครัวตักข้าวเข้าปากได้เลย อิอิ (โชคดีมีเจลล้างมือช่วยชีวิต 5555)

10. ทิชชูเปียกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนเมืองร้อนที่อาบน้ำทุกวันอย่างเราๆ ได้ใช้ไม่อั้นแน่ๆ

11. สายเนื้อน่าจะชอบ คนที่นี่นิยมทั้งเนื้อวัว, แพะ, แกะ, ม้า รวมถึงอูฐ หมูกับไก่จะรองลงมา ยิ่งถ้าอยู่นอกเมือง ใครไม่พิสมัยเนื้อจะพกอาหารถูกจริตตัวเองจากเมืองไทยไปก็ไม่ว่ากัน

12. อินเตอร์เน็ต 4G ชัดเจนเมื่อเข้าใกล้เมืองใหญ่ หรือเกอร์บางแห่ง ไฟฟ้าในเกอร์มาจากโซล่าเซลล์ ส่วนใหญ่มีแค่ไฟส่องสว่าง พกพาวเวอร์แบงค์ความจุเยอะๆ ไปด้วยก็ดี หลายแห่งไม่มีไฟให้ชาร์จ

13. ไปเองได้มั้ย? ....ได้! ถ้าเที่ยวแค่ในเมืองหลวงก็ไม่ยาก แต่ถ้าจะย่ำทะเลทรายหรือสัมผัสการนอนเกอร์ (กระโจมแบบมองโกเลีย) ควรใช้บริการทัวร์ท้องถิ่น จองจากเมืองไทยไปเลยหรือไปหาเอาที่นั่นก็ได้ มีหลายแบบหลายเจ้า จะเอาแค่ 2-3 วัน เข้าไปนอนทะเลทราย ถ่ายรูปกับอูฐชิลๆ หรือยาวครึ่งค่อนเดือนก็มีทัวร์พาไปถ้าเงินถึง หากดุ่ยๆ ไปคนเดียวเค้าก็จะจับเราไปแชร์กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

14. ทัวร์ประหยัดหน่อยก็นอนร่วมเกอร์เดียวกับคนพื้นเมืองเลย ได้ฟีลสุดๆ ประมาณเค้ากินอยู่ยังไงเราก็ทำเหมือนเค้าทุกอย่าง เคยอ่านเจอว่ามีนักเดินทางชาวไทยพักกะเค้าแล้วไปช่วยเจ้าบ้านจับม้าเพื่อทำหมัน เลยได้ลิ้มรสอัณฑะม้าตัวนั้นเป็นมื้อเย็น VIP กันเลยทีเดียว

15. จ่ายเพิ่มอีกหน่อย ทัวร์จะให้เรานอนเกอร์ที่ทำไว้สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ สะดวกสบายใช้ได้ แต่ก็จะไม่ได้ฟีลคนพื้นเมือง

16. ผมไปกับทัวร์ถ่ายภาพของไทย โชคดีได้ทัวร์ดีไม่มีกั๊ก จัดเต็มทุกจุด ถ่ายรูปจนหนำใจ (เกินไปด้วย 5555) ถูกใจสุดคือ เพื่อนใหม่ร่วมทริปทุกคนน่ารักมาก คอเดียวกัน ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน แชร์เทคนิคประสบการณ์เที่ยว & ถ่ายรูปกันสนุกสนาน เลยแฮปปี้กันถ้วนหน้า

17. ชนเผ่าคาซัคทางตะวันตกสุดของมองโกเลียเป็นชนเผ่าท้ายๆ ที่ยังเลี้ยงอินทรีไว้ล่าสัตว์ ปัจจุบันเอาไว้โชว์นักท่องเที่ยวด้วย ทุกปีประมาณเดือนตุลาคม จะมีเทศกาลโชว์นกอินทรีล่าเหยื่อ งานช้าง(แต่เป็นของนก) ที่นักท่องเที่ยวและช่างภาพทั่วโลกรอคอยที่จะมาชม

18. Black Market เป็นตลาดกลางแจ้งชื่อดังของอูลานบาร์ตอร์ อารมณ์ JJ บ้านเรา แต่ดิบกว่า มีทั้งของมือหนึ่งมือสอง ของโบราณ ของชนเผ่า ของจากสนามรบ ความทรงจำครั้งหนึ่งที่เดินชอปปิ้งกลางแจ้งกลางอุณหภูมิศูนย์องศา

19. สาวคาซัคสวยยยยยยยยยยยยยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

20. หากคุณอยากเห็นฟ้ากว้างกว่าที่เคย อยากเห็นดวงดารามหาศาลเต็มผืนฟ้ากว่าที่ไหนๆ ชนิดที่คนสายตาไม่ดีอย่างผมสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่าทุกคืน มองโกเลียคือสถานที่ๆ คุณต้องไป

เดินทางท่องโลกได้เมื่อไหร่ อย่าลืมเล็งมองโกเลียเป็นหนึ่งในทางเลือกในการท่องโลก และอย่าลืมเพื่อนคู่หูอย่างบัตรเครดิต SCB เอาไว้จองตั๋วเครื่องบิน เพราะ SCB แถมประกันการเดินทางให้ฟรี แถมยิ่งใช้มากยิ่งได้มากคะแนนสะสมแลกของขวัญ อีคูปองและส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำมากมาย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/cards/credit-cards.html