นั่ง MRT หาที่เที่ยว-กินในเยาวราช #เที่ยวเก๋ในย่านเก่า

เสียงรถราบนท้องถนน ผสานเสียงพูดคุยเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ขายในแผงที่เรียงรายไปตามถนนสายยาว เป็นท่วงทำนองแห่งความมีชีวิตชีวาของ “เยาวราช” ย่านธุรกิจของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนในกรุงเทพที่มีมายาวนานกว่าศตวรรษ และในวันนี้ที่การเดินทางสะดวกสบายขึ้น ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะมาเดินเที่ยวท่องย่านเยาวราชเพื่อซึมซับวัฒนธรรมที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า และสนุกแบบแชะ ชิม ชิล กับร้านค้าใหม่ๆ ในถนนสายทองคำแห่งนี้

สถานี MRT วัดมังกร

การมาเที่ยวย่านเยาวราชในวันนี้ ไม่ต้องลำบากต่อรถเมล์ แท็กซี่ หรือกังวลเรื่องที่จอดรถอีกต่อไปแล้ว MRT สถานีวัดมังกร ส่วนต่อขยายใหม่เพียง 1 สถานีจากสถานีหัวลำโพง เป็นสถานีจุดหมายปลายทางให้คนที่อยากมาเที่ยวเยาวราช เดินทางมาได้อย่างสะดวกโยธิน ในตัวสถานีก็มีการออกแบบรายละเอียดการตกแต่งในธีมแบบจีนอย่างสวยงาม เช่นกระเบื้องผนังลายมังกร ลายประดับสีทอง ฯลฯ สมกับเป็นสถานีในย่านไชน่าทาวน์แห่งสยามประเทศ


พิกัด : https://goo.gl/maps/FLJKuAesoazyyBMZ6

วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อเสียงโด่งดังประจำย่านเยาวราช คือ วัดมังกรกมลาวาส ที่ถูกเรียกขานด้วยชื่อเดิม วัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่เป็นที่สักการะอันดับต้นๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนทุกปีที่จะแน่นขนัดเป็นพิเศษ เพราะใครต่อใครก็ต้องมาไหว้ขอพรแก้ชงกับเทพไชซิงเอี้ย วัดเล่งเน่ยยี่กันทั้งนั้น วัดนี้สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2414 โดยพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร (สกเห็ง) เพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธลัทธิมหายาน

ตอนนี้ใครอยากไปไหว้ขอพรไม่ต้องรอแค่ช่วงตรุษจีนแล้ว สะดวกเมื่อไหร่ก็มาได้ ขึ้นมาจากสถานี MRT วัดมังกร ทางออกที่ 3  เลี้ยวขวา เดินแค่ 100 เมตร ก็มาถึงหน้าวัด อยากมาบ่อยแค่ไหนก็มาได้เลย


พิกัด : https://goo.gl/maps/4HftfgFFhBttLhsg7

Lhong Tou Café

คาเฟ่ติ่มซำสุดฮิปนาทีนี้ไม่มีใครเกิน Lhong Tou Café เหมาะกับสายถ่ายรูปต้องขอมาปีนขึ้นเหล่าเต็ง โพสต์ท่าเก๋ๆ แชะรูปอัพ IG ก่อนจะลิ้มรสติ่มซำเมนูสุดแนว หน้าตาตกแต่งอย่างประณีต รสชาติฮอเจี๊ยะถูกปาก ที่มีเมนู signature อย่าง กุ้งพันปี (79 บาท) ขลุ่ยกุ้ง (59 บาท) ซาลาเปาลาวา (29 บาท)  มินิเปาหมูแดง (49 บาท) ขนมจีบหลงโถ (69 บาท) ไก่ทอดหมาล่า (79 บาท) เกี๊ยวทอด (69 บาท) ซาลาเปาเห็ด (59 บาท) เกี๊ยวน้ำ (59 บาท) ฯลฯ พร้อมจิบชาไทมะนาว (70 บาท) อัญชันมะนาว (70 บาท) ชาหลงโถวอัญชัน (75 บาท) สีสวยอร่อยชื่นใจให้คล่องคอ


พิกัด : https://goo.gl/maps/ssj1AznxUHrctbsc9

ศาลเจ้าแม่กวนอิม (มูลนิธิเทียนฟ้า)

อิ่มท้องกับมื้อกลางวันแล้ว เดินต่อไปตามถนนเยาวราช ก็จะผ่านศาลเจ้าแม่กวนอิม ที่เป็นที่ตั้งของมูลนิธิเทียนฟ้า ซึ่งเป็นมูลนิธิแห่งแรกในประเทศไทยเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มชาวจีนที่มาตั้งรกรากในประเทศไทยเพื่อสงเคราะห์ผู้ป่วยยากไร้ ปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลมูลนิธิเทียนฟ้าให้การรักษาทั้งแบบแผนปัจจุบันและแผนจีน


ด้านหน้าโรงพยาบาล เป็นศาลรูปเคารพ “เจ้าแม่กวนอิม” พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางประทานพร ซึ่งทำจากไม้แกะสลักรูปแบบศิลปะราชวงศ์ถัง คาดว่ารูปเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งเมื่อประมาณ 800-900 ปีมาแล้ว และเมื่อปีพ.ศ. 2501 ได้ถูกอัญเชิญจากประเทศจีนมาประดิษฐานให้ผู้ศรัทธาได้กราบไหว้บูชาที่มูลนิธิเทียนฟ้าแห่งนี้

มาถึงศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า นอกจากจะไหว้สักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมแล้ว ใครที่อยากทำบุญก็สามารถบริจาคให้กับมูลนิธิเทียนฟ้าได้โดยเปิด SCB EASY APP สแกนบาร์โค้ดที่ตู้บริจาค กดบริจาค ได้ทำบุญสร้างกุศลรวดเร็วทันใจ แล้วข้อมูลก็จะถูกส่งไปสรรพากรไว้ใช้ลดหย่อนภาษีอีกด้วย


พิกัด : https://goo.gl/maps/avk71EF6Tj5om8ii6

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช

จุดหมายต่อไปคือข้ามถนนไปวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หนึ่งในวัดสำคัญซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระสุโขทัยไตรมิตร” พระพุทธรูปทองคำใหญ่ที่สุดซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊คและมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมีเยี่ยมชม ซึ่งนอกเหนือจากองค์พระแล้ว ที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ “ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช” ที่จัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าถึงความเป็นมาของชุมชนชาวจีนได้ประเทศไทยได้อย่างน่าสนใจ


ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราชอยู่ตรงทางขึ้นพระอุโบสถวัดไตรมิตรฯ มีทั้งการฉายวิดีทัศน์ถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของชาวไทยเชื้อสายจีนที่บรรพบุรุษอพยพมาพึ่งบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย บอร์ดนิทรรศการความรู้เรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานของชาวจีนสู่โพ้นทะเล เส้นทางการอพยพ เปรียบเทียบสถานการณ์การเมืองจีนและสยามในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนที่สำเพ็งและเยาวราชในเวลาต่อมา

นอกเหนือจากตัวนิทรรศการที่ให้ความรู้แล้ว จุดไฮไลท์ที่ทำให้ศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งนี้น่ามาเที่ยวชมอย่างมาก คือ สำเภาหัวแดงจำลองเทียบท่าน้ำราชวงศ์ ที่สร้างประสบการณ์ให้คนมาเยี่ยมชมได้เห็นภาพเดียวกับที่ชาวจีนผู้ล่องเรือรอนแรมมานับเดือนได้เห็นแผ่นดินสยามเป็นครั้งแรก หุ่นขี้ผึ้งชาวจีนไว้ผมเปียที่ปั้นอย่างประณีตจำลองวิถีชีวิตชาวจีนในสมัยก่อน รวมถึง หุ่นตุ๊กตาจิ๋วที่บอกเล่าวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน เช่น ศาลเจ้า วัดจีน โพยก๊วน ร้านจันอับ ร้านทอง โรงงิ้ว โรงเรียนจีน หนังสือพิมพ์จีน โรงพยาบาลเพื่อคนยากไร้ ฯลฯ


การเยี่ยมชมศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช เสมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังซึมซับบรรยากาศของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนเมื่อวันวาน ควรค่าให้ลูกหลานตึ๊งหนั่งเกี้ย จะได้มาเที่ยวชมเรียนรู้เรื่องราวรุ่นอากงอาม่า รวมถึงผู้ที่สนใจความเป็นมาของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนได้มาเยี่ยมชมกัน


พิกัด : https://goo.gl/maps/YtLGJ6TQQdg3YAze6

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษาอยู่บริเวณวงเวียนโอเดียนเดิม เป็นจุดแลนด์มาร์คที่ชาวไทยเชื้อสายจีน ธุรกิจห้างร้าน หน่วนงานราชการ และกลุ่มมวลชนได้ร่วมกันจัดสร้างเพื่อถวายเป็นราชสดุดีแด่รัชกาลที่ ๙ เนื่องในวโรกาสทรงพระชนมพรรษา 6 รอบเมื่อปีพ.ศ. 2542 โดยออกแบบอย่างสวยงามด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญงานศิลปกรรมจีน มีลักษณะเป็นยอดหลังคาซุ้มประตู มีมังกร 2 ตัวชูตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ 5 ธันวาคม ๒๕๔๒" และใช้ทองคำบริสุทธิ์ 99 บาท หุ้มพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ตรงใต้หลังคาซุ้มประตูเป็นแผ่นจารึกชื่อซุ้มประตูที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ ๙ ด้านหนึ่งจารึกชื่อภาษาไทย อีกด้านหนึ่งเป็นตัวอักษรจีนลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นคำว่า "เซิ่ง โซ่ว อู๋ เจียง" (圣寿无疆) หมายถึง "ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน" พร้อมนามาภิไธย "สิรินธร"


ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา นอกจากเป็นสัญลักษณ์ของเยาวราช ไชน่าทาวน์เมืองไทยแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญสื่อถึงความเทิดทูนจงรักภักดีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ให้ความเมตตาแก่บรรพบุรุษชาวจีนโพ้นทะเลตลอดจนลูกหลานที่ได้พึ่งพระบารมีอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขบนแผ่นดินไทยตลอดมา

พิกัด : https://goo.gl/maps/f6Ri9FpN8XUvfiso7

Nahim Café X Handcraft

มาถึง Nahim Café X Handcraft สุดคิ้วท์ที่สายตะมุตะมิต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็คอินให้ไว เพราะความน่ารักในคอนเซ็ปต์การตกแต่งร้าน เครื่องดื่ม จานอาหาร อยู่ในขั้นสุดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธีมอัลปาก้า ที่เป็นลายเพ้นท์สีสดใสบนพื้นผนัง หุ่นอัลปาก้าตัวยักษ์หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ มุมที่นั่งสเต็ปไม้ตกแต่งด้วยหมอนอัลปาก้าหลากสีสัน และที่นั่งแบบชิงช้าน่าสบายที่เป็นมุมถ่ายรูปสุดชิล

ส่วนเครื่องดื่มและจานอาหาร ก็ครีเอทได้น่ารักไม่แพ้กัน อย่าง Polka Dot Milk Shake (Vanilla) (140 บาท) ที่ใช้มาร์ทเมลโล่สีสดใสประดับติดในแก้วกลายเป็นลาย Polka Dot สีหวานบนพี้นหลังสีขาวของนมวานิลล่า แต่งหน้าด้วยวิปครีมและโรยด้วยซีเรียลสีพาสเทล  Hot Chocolate (125 บาท) จัดมาเป็นเม็ดช็อกโกแลตมาละลายในถ้วยนมร้อนที่เดือดอยู่บนเตาเซรามิคเล็ก ๆ ให้เป็นกิมมิคStrawberry Waffle (165 บาท) ที่เป็นวาฟเฟิลท๊อปปิ้งด้วยสตอเบอรี่สด ฝานบางพอดีคำโรยด้านแผ่นแครมเบิลกินคู่กับไอศครีมวานิลลาหวานกรุ๊ปกรอบอร่อยมากมาย ส่งท้ายด้วย Buttery Pea Soda (90 บาท) ท็อปอัพเครื่องดื่มด้วยไอศรีมมะนาวอัญชันอร่อยสดชื่นอย่าบอกใคร


พิกัด : https://goo.gl/maps/XtQPjagFzNAYizK46

พิพิธภัณฑ์ทองคำ

มาถึงถนนสายทองคำทั้งทีก็หาโอกาสไปดูพิพิธภัณฑ์ทองคำของ “ตั้งโต๊ะกัง” ร้านขายทองเก่าแก่แห่งเยาวราชที่ก่อตั้งโดย “นายโต๊ะกัง แซ่ตั้ง” ที่อพยพมาแผ่นดินสยามในสมัยรัชกาลที่ ๕ และใช้อาชีพรับจ้างทำทองก่อร่างสร้างตัวมาเป็นธุรกิจห้างทอง “ตั้งโต๊ะกัง” ที่ถนนมังกร ย่านตลาดสำเพ็ง เปิดดำเนินการมามากว่า 160 ปี


อาคาร 7 ชั้นทรงคลาสสิก มีป้ายชื่อ “ตั้งโต๊ะกัง” เป็นร้านขายทองเก่าแก่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๖ แห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ทองคำในชั้น 6 เป็นสถานที่เก็บเครื่องมือทำทองในยุคก่อนของร้านมาเก็บรวบรวมไว้ให้คนที่สนใจได้ศึกษา เช่น บล็อกแม่พิมพ์ปั๊มทองคำ เตาต้มทองใช้ในการต้มทองรูปพรรณทีทำเสร็จแล้ว เบ้าหลอมทองใช้ในการหลอมทองคำให้ละลาย แท่นตีทองใช้ในการตอกยี่ห้อร้าน ฯลฯ รวมถึงตราครุฑไม้คู่แรกของร้านที่ได้รับพระราชทานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖  ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย


พิกัด : https://goo.gl/maps/ps78BtGjPTP1RAzs5

JingJing Ice-cream Bar and Café

เลี้ยวจากถนนเยาวราชสายหลัก ลัดเข้าซอยเยาวราช 15 (ตรอกเต๊า) ผ่านตึกแถวเก่าอายุมากกว่าครึ่งศตวรรษ ก็จะสะดุดสายตากับร้านไอศกรีมเล็กๆ ที่ดูเผินๆ แล้วด้านหน้าก็คล้ายกับตึกแถวอื่นๆ แต่ประดับไฟเส้นนีออนสีแดงเป็นตัวอักษรจีน 真真 เพิ่มความเก๋ด้วยสไตล์ร่วมสมัย “JingJing Ice-cream Bar and Café” เป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกใจทั้งคนไทยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยความที่ร้านพื้นที่จำกัดและคนค่อนข้างเยอะ เราเลยลองสั่งแบบกลับบ้าน เลือกไอศครีมรสน้ำลอยดอกมะลิซอร์เบ (50 บาท) รสชาติเบาๆ หอมมะลิแบบไทยๆ กับอัญชันมะนาวซอร์เบ (50 บาท) เปรี้ยวหวานสุดจี๊ดเพิ่มความสดชื่นสู้อากาศร้อนได้เป็นอย่างดี


พิกัด : https://goo.gl/maps/BMEKXqUwZUv2JUJN8

ปาเฮ่าเทียนมี่ (BaHaoTianMi)

มาปิดท้ายทริปเยาวราชที่ซอยผดุงด้าว หรือตรอกเท็กซัสอันลือชื่อ แต่คราวนี้เราไม่กินจานหลัก แต่มาลองชิมของหวานอร่อยเรียบง่ายสไตล์มินิมัลที่ร้าน BaHaoTianMi กับเมนูเด็ด “พุดดิ้งโกจิเบอร์รี่” (108 บาท) กับพุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่มเด้งละมุนลิ้นหอมกลิ่นนมเคล้ารสชาติหวานกลมกล่อมของเม็ดโกจิเบอรี่ หรือที่เรารู้จักอีกชื่อคือเก๋ากี้ นอกจากนั้นยังมีพุดดิ่งงาดำ (128 บาท) พุดดิ้งชานมไข่มุก (118 บาท) พุดดิ้งเงาะเกล็ดน้ำแข็ง (148 บาท) และพุดดิ้งมะม่วง (128 บาท)  ในส่วนเครื่องดื่มหวานเย็นชื่นใจก็มี ชานมฮ่องกง (88 บาท) ชานมไข่มุก (98 บาท) ชาพุดดิ้งกับขามุก (128 บาท) ชามะนาวฮ่องกง (128 บาท) น้ำส้มจี๊ดสด (108 บาท) น้ำเต้าหู้งาดำ (128 บาท) แล้วยังมีน้ำสมุนไพรสูตรประยุกต์ ใบบัวลาเต้ (128 บาท) ใบบัวบกลาเต้นมชมพู (128 บาท) ให้ได้ลองกันด้วย


พิกัด : https://goo.gl/maps/bipAnRudiSJdYAv46


ไม่ต้องเหนื่อยขับรถ ลำบากหาที่จอด ต่อรถมากมาย เพียงนั่งรถไฟใต้ดิน MTR แป๊บเดียวก็มาถึงเยาวราชแล้ว ลองมาเดินเที่ยวหนึ่งวัน รับรองได้เดินเที่ยวกระจุย อร่อยกระจายกับของกินหลากหลาย เป็นอีกหนึ่งวันดี ๆ ในย่านเก่าของชาวไทยเชื้อสายจีนแห่งนี้