สะสมความมั่งคั่งระยะยาวไปกับธีมสุขภาพและธีมรักษ์โลก พร้อมลดหย่อนภาษีเพื่อการออม

หนึ่งใน New Normal ของการลงทุนยุคนี้... คือการหาโอกาสในต่างประเทศ


●  ช่วงเวลาแห่งวิกฤตโควิด 2-3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนในตลาดหุ้นไทยถือว่าทำได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะนอกจากปัจจัยลบที่มากมายแล้ว การมองเทรนด์อนาคตไกลๆของตลาดหุ้นไทยก็ทำได้ยาก เพราะหุ้นไทยส่วนใหญ่ยังมีลักษณะเป็น Old Economy เช่น พลังงาน ธนาคาร สื่อสาร ค้าปลีก และสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ การลงทุนที่คาดหวังได้อาจจะเป็นการฟื้นตัวจากโควิด และการลงทุนเพื่อเงินปันผลในธุรกิจที่มีความแน่นอน


●  นักลงทุนที่ต้องการมองเมกะเทรนด์ยาวๆ ในลักษณะซื้อเพื่อถือติดพอร์ตระยะยาว ในกิจการที่มีการเติบโตเป็นเทรนด์ใหญ่ จึงเริ่มเปิดใจรับการกระจายการลงทุนไปสู่ “หุ้นต่างประเทศ” ซึ่งมีธุรกิจที่เป็น Growth Stock และมีรันเวย์การเติบโตที่ยาวนานเป็นทศวรรษ โดยเฉพาะการลงทุนในธีมที่เติบโตโดดเด่น


●  New Normal ของการลงทุนยุคนี้ คือ “Diversify” กระจายการลงทุนบางส่วนไปยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างพอร์ตลงทุน ให้เติบโตไปกับเมกะเทรนด์ใหญ่ที่ตลาดหุ้นไทยไม่มี และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการกระจุกการลงทุนเฉพาะในประเทศไทยอีกด้วย

scb-thematic-health-clean-ssf-rmf-01

ลงทุนตามธีม (Thematic Investment) คืออะไร ?


· คือ การลงทุนตามเทรนด์ใหญ่ เป็นทิศทางกระแสหลักของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป มีการวิเคราะห์ถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปอย่างถาวรในระยะยาว เพื่อกำหนด “ธีม” การลงทุน


· ตัวอย่างเช่น Aging Society คือ ธีมการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจสุขภาพและเทคโนโลยีการแพทย์ หรือ Technology Disruption คือ ธีมการใช้เทคโนโลยีมาดิสรัปชั่นกินส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจแบบดั้งเดิม ซึ่งส่งผลบวกต่อธุรกิจเทคโนโลยี เช่น บริการทางการเงิน(ฟินเทค) บริการวีดีโอสตรีมมิ่ง บริการอีคอมเมิร์ซ บริการสื่อสารผ่านแอพฯ เป็นต้น


· การเลือกหุ้นที่จะเข้าลงทุนตามธีม อาจมีการกระจุกตัวอยู่เฉพาะในอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น หุ้นในกลุ่ม Health Care หรือ Clean Energy ซึ่งแตกต่างจากกองทุนรวมหุ้นโดยทั่วไป ที่จะมีการกระจายหุ้นไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการลงทุนใน Thematic Investment อาจจะมีความเสี่ยงในการลงทุนที่สูงกว่า เพราะลงทุนอย่างกระจุกตัวตามธีมหลักนั่นเอง


ลงทุนตามธีม ต้องมี Mindset ระยะยาว  


· เทรนด์ใหญ่หรือ Mega Trend ใช้เวลาในการพัฒนา ซึ่งธีมการลงทุนที่เกาะกระแสการเติบโตตามเทรนด์ใหญ่นั้น ก็ต้องใช้เวลากว่าที่เทรนด์จะชัดและเกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้สินค้าและบริการ กระทั่งเข้าสู่ช่วงการเติบโตในอัตราเร่ง นักลงทุนจึงต้องมีทัศนคติการลงทุนระยะยาวตามกลยุทธ์นี้ด้วยเช่นกัน


· เมื่อนำการตัดสินใจลงทุนตามธีม มาพัฒนาเป็นพอร์ตโฟลิโอการลงทุน นั่นคือการมุ่งเน้นในการลงทุนระยะยาว ที่มุ่งหวังผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และเข้าลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญ มากกว่าที่จะจับจ้องที่ผลตอบแทนระยะสั้น


ดังนั้นกรอบเวลาในการลงทุนตามธีม ควรเป็นการมองภาพลงทุนระยะยาว เช่น 5 ปีขึ้นไป เพราะการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ใหญ่นั้นใช้เวลา ซึ่งเมื่อเทรนด์เกิดขึ้นผลตอบแทนของการลงทุนจะเป็นไปอย่างน่าประทับใจ 

ธีมหลักระยะยาว (1)... ธีมสุขภาพ


· ธีมสุขภาพ คือ หนึ่งใน Thematic Investment ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเกาะเทรนด์ใหญ่ไปกับเรื่องสังคมสูงวัย การแพทย์ และการใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจังของผู้คนยุคนี้ เป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Healthcare เช่น ผู้ผลิตยา (Pharmaceutical), เครื่องมือแพทย์ (Medical Devices) และบริการทางการแพทย์ (Service Provider) เป็นต้น


· นอกจากนี้ การที่วิทยาศาสตร์การแพทย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Healthcare นั้นมีความหลากหลาย และเกิดธีมสุขภาพ ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นไปอีก เช่น


o   ธีมดิจิตอลเฮลธ์ (Digital Health) ที่เน้นลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการทางการแพทย์  เช่น การใช้ Mobile Apps, IoT, Data Analytic, และ IT infrastructure เพื่อให้เกิดบริการสาธารณสุขที่ทุกคนเข้าถึงได้ ผ่านการใช้เทคโนโลยี  


o   ธีมเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เป็นนวัตกรรมทางชีวภาพแห่งอนาคต เช่น การผลิตวัคซีนและยารักษาโรค การผลิต Antibody เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค และการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน DNA เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของโรคทางพันธุกรรม เป็นต้น


ธีมหลักระยะยาว  (2)... ธีมรักษ์โลก


· สิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจมากขึ้น คือ การลงทุนในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงานสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม


· รัฐบาลหลายประเทศเริ่มให้ความสนใจพลังงานสะอาดกันมากขึ้น บางประเทศเริ่มปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงาน จากฟอสซิล ไปสู่การใช้พลังงานสะอาดในสัดส่วนที่สูงขึ้น นำมาสู่การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ ‘พลังงานสะอาด” และ “การรักษาสิ่งแวดล้อม’ จึงกลายมาเป็นเมกะเทรนด์ ที่กำลังได้รับความสนใจ


· ในอนาคต กลุ่มธุรกิจนี้ยังมีความโดดเด่นในด้านอุปสงค์อย่างชัดเจน และยังมีนโยบายภาครัฐสนับสนุน การลงทุนในพลังงานสะอาดมีหลายรูปแบบการลงทุน เช่น


o พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก (Renewable Energy)  โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ


o รถยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทาน (Electric Vehicle) –มีตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ผู้ผลิตชิ้นส่วนในแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่ เป็นต้น


โครงสร้างพื้นฐาน –โครงสร้างพื้นฐานช่วยสนับสนุนการเติบโตของพลังงานทางเลือกและห่วงโซ่อุปทานของรถไฟฟ้า เช่น Semiconductor ผู้ผลิต Hardware และ Software เหมืองแร่ที่ผลิตแบตเตอรี่ สายส่งไฟฟ้าแรงสูง และสถานีชาร์จไฟฟ้า เป็นต้น

สนใจการลงทุนระยะยาวในธีมสุขภาพและธีมรักษ์โลก


วิธีการหนึ่งซึ่งง่ายและหวังผลได้สูง เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการการเติบโตระยะยาวไปกับการลงทุนแบบ Thematic Investment ในธีมหลัก คือการทยอยลงทุนในกองทุนธีมสุขภาพและธีมรักษ์โลก โดยเฉพาะการลงทุนที่ได้ผลประโยชน์ทางภาษีไปด้วยอย่างกองทุน SSF และ RMF


SCBIHEALTH-SSF : SCB Healthcare Innovation (Super Savings Fund)
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Healthcare Innovation (ชนิดเพื่อการออม)
ลงทุนในเทคโนโลยีสู่การปฏิวัติวงการการแพทย์


กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ กองทุน Baillie Gifford Worldwide Health Innovation Fund - Class B USD Shares (กองทุนหลัก) บริหารโดย Baillie Gifford Investment Management (Europe) Limited


วัตถุประสงค์การลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยจะลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพเป็นหลัก กองทุนจะเน้นลงทุนในกลุ่ม Healthcare ซึ่งเป็นธีมการลงทุนของกองทุน และเป็นนวัตกรรมในด้านนั้น เช่น การวินิจฉัยโรค การรักษาและการป้องกันโรค


เหมาะสำหรับ ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน  สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว และต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่ม Healthcare  และต้องการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุนใน SSF


ทรัพย์สินที่ลงทุน 5 อันดับแรกของกองทุนหลัก ได้แก่ 1) ShockWave Medical 7.5% 2) Argenx 7.2% 3) Genmab 7.0% 4) Alnylam Pharmaceuticals 6.6% และ 5) Moderna 6.3%


SCBRMGHC : SCB GLOBAL HEALTH CARE RMF
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล เฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ
เติบโตไปพร้อมกับเทรนด์สุขภาพ


กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ Janus Henderson Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก)


วัตถุประสงค์การลงทุน เพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว โดยจะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆทั่วโลก ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต (Life Sciences) ซึ่งหมายถึงศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยให้อุตสาหกรรมสุขภาพมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตัวเอง การแพทย์หรือเภสัชกรรม รวมไปถึงบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหลักมาจากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การจดสิทธิบัตร หรือความได้เปรียบทางการตลาดอื่น ๆ จากวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต


กองทุนมีการกระจายลงทุนในหุ้น Healthcare มากกว่า 100 บริษัท หลากหลายกลุ่มใน Healthcare ทั้ง Pharmaceuticals, Biotechnology, Managed Healthcare และ Healthcare Equipment เป็นต้น


เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว และ ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่ม Health Care และต้องการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุนใน RMF


ทรัพย์สินที่ลงทุน 5 อันดับแรกของกองทุนหลัก ได้แก่ 1) UnitedHealth Group Inc. 6.99% 2) AstraZeneca 4.18% 3) AbbVie Inc 3.73% 4) Eli Lily & Co 3.07% และ 5) Roche Holding Inc 2.74%


SCBRMCLEAN : SCB Global Clean Energy RMF (Accumulation)
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Clean Energy เพื่อการเลี้ยงชีพ (ชนิดสะสมมูลค่า)
โอกาสการลงทุนแบบยั่งยืน จับเทรนด์พลังงานสะอาด


กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ BNP PARIBAS ENERGY TRANSITION (กองทุนหลัก) บริหารโดย BNP PARIBAS ASSET MANAGEMENT


กองทุนหลักมุ่งเน้นที่จะมีส่วนร่วมไปยังการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนของโลก ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) โดยลงทุนในหุ้นบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ที่มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ซึ่งรวมถึง ธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและการเปลี่ยนถ่ายพลังงาน (renewable & transitional energy), การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency), ระบบขนส่งอย่างยั่งยืน (sustainable transport), อาคารและโครงสร้างพื้นฐานที่คำนึงถึงการใช้พลังงาน (green building and infrastructure)


กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนแบบผสมผสานทั้งจากภาพรวมเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ เพื่อเฟ้นหาหุ้นที่เป็น Best Idea เข้าสู่พอร์ตลงทุน เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในหุ้นจากธุรกิจพลังงานทดแทนทั่วโลก


เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว ต้องการลงทุนในหุ้นจากธุรกิจพลังงานทดแทนทั่วโลก และต้องการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุนใน RMF


ทรัพย์สินที่ลงทุน 5 อันดับแรกของกองทุนหลัก ได้แก่ 1) Sunnova Energy International Inc. 9.47% 2) Plug Power Inc. 9.18% 3) Sunrun Inc 8.52% 4) Generac Holdings Inc 6.11% และ 5) Fluence Energy Inc 4.0%


สนใจลงทุนใน SCBIHEALTH-SSF, SCBRMGHC และ SCBRMCLEAN วันนี้ เริ่มต้นยังไง ?


ใครสนใจ อย่าช้า เริ่มต้นวันนี้ ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SCB Easy แล้วทำตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆนี้


1. เปิดบัญชีกองทุนผ่าน SCB Easy App


2. ผูกบัญชีกองทุนบน SCB Easy App


3. ซื้อกองทุนผ่าน SCB Easy App


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :


SCBIHEALTH-SSF : 
https://www.scbam.com/th/fund/tax-ssf/fund-information/scbihealthssf


SCBRMGHC : https://www.scbam.com/th/fund/tax-rmf/fund-information/scbrmghc


SCBRMCLEAN : https://www.scbam.com/th/fund/tax-rmf/fund-information/scbrmcleana


คำเตือน:

· ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF/SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน

· กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรลงทุนในกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้

· ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

· กองทุนบางกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนรวมถึงบางกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ดังนั้นควรลงทุนในกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตน และผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนดังกล่าวได้ และสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนหลักได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม และรายละเอียดเพิ่มเติมของกองทุนผ่าน SCB EASY App


#SCB x  #นิ้วโป้งFundamentalVI
#SCBEASY #SCBIHEALTH-SSF #SCBRMGHC #SCBRMCLEAN
#SSF #RMF  #กองทุนลดหย่อนภาษี