โลกทะยานสู่เป้าหมาย Net Zero เพิ่มโอกาสลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า

เพื่อนๆ เคยสังเกตกันบ้างหรือไม่ ว่าบนท้องถนนของประเทศไทยในเวลานี้ จะเริ่มผู้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นแล้ว ซึ่งเหตุผลหนึ่งก็เป็นผลมาจากคนจำนวนมากให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของโลกเราที่กำลังเดินไปสู่ การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 จึงต้องการเปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือกที่มีความยั่งยืนมากขึ้น เช่น การใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทดแทนรถยนต์สันดาป


นอกจากนี้ ก็ยังเป็นผลมาจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ใช้รถ ประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนลงไปได้มาก จากเดิมเมื่อใช้รถยนต์สันดาป ซึ่งใช้น้ำมัน ต้องจ่ายค่าน้ำมันเดือนละหลักพันบาท เมื่อเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก็เหลือเพียงต้นทุนการชาร์จไฟซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันมาก


ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ธีมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้ามีความน่าสนใจมากขึ้น และมีโอกาสการลงทุนเกิดขึ้นในหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนมาใช้พลังงานที่สะอาดและยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงการควบคุมการปล่อยมลภาวะสู่ภายนอก ผ่านการดัก จัดเก็บ หรือใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ธุรกิจแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น

Fast electric car with futuristic autonomous sensor software driving on road

ขณะที่ ภาครัฐเอง ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมาก ต่อการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรัฐบาลในบางประเทศ ให้เงินอุดหนุนเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ต้นทุนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนความต้องการใช้งาน และทำให้ธุรกิจนี้เติบโต


จากเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ SCB CIO มองว่า การลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า จัดเป็นหนึ่งในการลงทุนลักษณะ Thematic (ลงทุนโดยเน้นในแนวโน้มใดแนวโน้มหนึ่ง) ที่เหมาะสำหรับลงทุนระยะยาวได้ โดยหากมีความผันผวนในช่วงสั้น อาจเป็นโอกาสสำหรับการสะสมหุ้น Thematic กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าได้


สำหรับ กองทุนแนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Electric Vehicle and Future Mobility (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBEV(A) ซึ่งมีความเสี่ยงระดับ 6 คือ เสี่ยงสูง โดยกองทุนนี้ ลงทุนในกองทุนหลัก KraneShares Electric Vehicles and Future Mobility Index ETF ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนในอนาคต ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทที่ผลิตแบตเตอรี บริษัทขุดเหมืองแร่ บริษัทที่ทำสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานทางเลือก เป็นต้น

คำเตือน

·  กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Electric Vehicle and Future Mobility (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBEV(A) มีความเสี่ยงระดับ 6 คือ เสี่ยงสูง

·  การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

·  ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

·   เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

·   ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนกองทุนรวมเพิ่มเติมได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด


บทความจัดทำโดย SCB CIO วันที่ 27 เม.ย. 2566