มือใหม่หัดลงทุนตามวิถี “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ด้วยกองทุนรวมดัชนี

เมื่อนักลงทุนระดับโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมดัชนีทำไมบัฟเฟตต์จึงแนะนำเช่นนี้ คำตอบคือเพราะเขามองว่านักลงทุนทั่วไปจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีถ้าหากลงทุนในกองทุนรวมดัชนีที่มี ค่าธรรมเนียมต่ำ เนื่องจากการบริหารกองทุนรวมดัชนี ผู้จัดการกองทุนไม่จำเป็นต้องเลือกลงทุนหุ้นรายตัว ทำให้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนรวมแบบอื่นที่ผู้บริหารจะต้องใช้ความสามารถมาก ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนที่นักลงทุนควรจะได้รับน้อยลงไปอีกสุดท้ายผู้จัดการกองทุนจะได้ผลตอบแทนจำนวนมหาศาลจากการบริหาร แต่นักลงทุนกลับได้รับผลตอบแทนที่ต่ำมาก


ดังนั้นบัฟเฟตต์จึงเชื่อว่านักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมดัชนีแล้วถือระยะยาวจะเป็นผู้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนรวมแบบอื่น บัฟเฟตต์กล่าวว่าแน่นอนว่าต้องมีนักลงทุนที่ทำผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนรวมดัชนีอยู่แล้วแต่เชื่อว่ามีแค่10 กว่าคนเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ ฉะนั้นนักลงทุนควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมดัชนีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำจะดีกว่า

index1

นอกจากนี้กองทุนรวมดัชนียังประกอบด้วยหุ้นพื้นฐานดีที่ผ่านการแนะนำจากตลาดหลักทรัพย์จึงไม่ต้องพึ่งพิงความสามารถของผู้จัดการกองทุนจนเกินไป  และกองทุนรวมดัชนีมีการกระจายความเสี่ยงได้ดี เพราะดัชนีหุ้นส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหุ้นจำนวนมาก ดังนั้นการถือกองทุนรวมดัชนีจึงเหมือนการกระจายการลงทุนในหุ้นพื้นฐานหลายสิบหลายร้อยตัว ทำให้พอร์ตการลงทุนไม่พึ่งพิงหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป โดยกองทุนรวมดัชนีในไทย ส่วนใหญ่จะลงทุนดัชนีอ้างอิงหุ้น เช่น ดัชนี SET50 Index, SET100 Index หรือดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น


สำหรับนักลงทุนมือใหม่การลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนีทำได้ง่ายเพราะว่าเป็นการลงทุนตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าเศรษฐกิจดีตลาดหุ้นก็จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทำให้กองทุนรวมดัชนีมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้แต่ถ้าเกิดตลาดหุ้นปรับตัวลดลง แน่นอนว่ากองทุนรวมดัชนีก็จะมีการปรับตัวลดลงตาม ทั้งนี้การลงทุนในกองทุนรวมดัชนีหากใช้วิธีการลงทุนแบบสม่ำเสมอเป็นประจำในระยะยาวก็จะเป็นการถัวเฉลี่ยความเสี่ยงและถั่วเฉลี่ยราคาที่ขึ้นลงอีกด้วย

แม้ว่ากองทุนรวมดัชนีจะมีข้อดีหลายอย่างแต่ก็มีข้อจำกัดในการลงทุน เนื่องจากกองทุนรวมดัชนีจะเน้นการจัดพอร์ตและผลตอบแทนตามดัชนี ดังนั้น นักลงทุนแทบจะไม่มีโอกาสจะเอาชนะภาพรวมของตลาดหรือชนะดัชนีได้เลย เพราะผลตอบแทนจะอิงไปกับภาพรวมของตลาดนั่นเอง


หากอยากลงทุนแต่ไม่มีประสบการณ์ลองใช้บริการลงทุนกับ บลจ.ไทยพาณิชย์ ที่ปัจจุบันได้เปิดบริการขายกองทุนรวมแบบ Open Architecture อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านแอป EASY INVEST โดยเปิดเพียงบัญชีเดียว ก็สามารถซื้อกองทุนได้จาก 17 บลจ.ชั้นนำ กว่า 1,200 กองทุน ทั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่ม และถ้าต้องการซื้อกองทุนรวมใหม่จากบลจ.ที่ไม่เคยมีบัญชี ก็สามารถซื้อได้เลย ไม่ต้องส่งเอกสารเปิดบัญชีเพิ่ม ไม่ต้องเปิดบัญชีหลาย บลจ. อีกต่อไป ทำให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น และช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้เร็วและง่ายขึ้น


สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมแอป EASY INVEST ได้จาก http://www.scbs.com/easyinvest หรือดาวน์โหลดแอป EASY INVEST เพื่อเปิดกว้างโลกการลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว


ที่มา :

https://aommoney.com

https://bear-investor.com/2017/03/12/buffett-letter-2017-index-funds/