ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เก็บเงินล้านแรก ด้วยเงินหลักพัน
“ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีเงินเก็บ 1 ล้านบาทได้หรือเปล่า แค่ 4 แสน 5 แสนบาทก็หืดขึ้นคอแล้ว” หากใครคิดแบบนี้ ขอให้คิดใหม่ เพราะถ้าเริ่มลงทุนและมีวินัย การได้หยิบเงินล้านจะกลายจริง ส่วนจะได้หยิบเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับว่าเริ่มลงทุนตอนไหน
หากตอนนี้อายุ 40 ปี เรียกว่าเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ควรวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณ เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 20 ปี ดังนั้น การลงทุนจึงควรเป็นไปอย่างจริงจังและรอบคอบในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงวันเกษียณ
วัย 40 ปี เป็นช่วงเวลาที่เติบโตเต็มที่ ทั้งด้านวุฒิภาวะและเป็นช่วงที่รายได้มีความมั่นคงและน่าจะอยู่ในระดับสูงพอสมควร ถึงแม้ว่าในช่วงวัยเริ่มต้นทำงาน คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ใส่ใจเรื่องการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ เพราะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือบางคนที่ลงทุนไปได้สักระยะหนึ่งกลับเกิดความผิดพลาดในแผนการเงินก็อาจล้มเลิกความตั้งใจ ซึ่งในความเป็นจริงการลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงาน เป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะมีเวลาให้เงินทำงานแล้วยังได้ประสบการณ์ในการจับจังหวะลงทุนเพื่อวางแผนให้มีเงินพอใช้หลังวัยเกษียณแล้ว
หลายคนเมื่อเห็นจำนวนเงินที่ต้องเตรียมเพื่อวัยเกษียณอาจรู้สึกท้อ เพราะไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แต่เป็นหลักทะลุล้านบาทขึ้นไป ดังนั้น เพื่อให้เกิดกำลังใจในการเริ่มต้น ลองสัญญากับตัวเองว่าขอ 1 ล้านบาแรกภายในกี่ปี (เช่น 5 ปี, 8 ปี, 10 ปี เป็นต้น) และตามธรรมชาติเมื่อล้านบาทแรกมา ล้านที่สอง ที่สามจะตามมาในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งหากลงทุนตอนอายุยังน้อยก็จะมีเวลาในการทำให้เงินงอกเงยได้นานกว่า
วิธีการ คือ ให้เริ่มต้นด้วยการวางแผนลงทุนในแต่ละเดือนว่าจะลงทุนเท่าไหร่ ต้องได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วมาดูกันว่าจะเห็นเงิน 1 ล้านบาทตอนอายุเท่าไหร่
ตัวอย่าง
ปัจจุบันอายุ |
25 ปี |
รายได้ต่อเดือน |
30,000 บาท |
หักเงินไปลงทุนต่อเดือน |
4,500 บาท |
ประมาณการผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (%) |
6% |
อายุที่ลงทุน |
เงินลงทุนต่อปี พร้อมผลตอบแทน (บาท) |
25 |
55,739 |
30 |
388,800 |
37 |
1,052,479 |
40 |
1,430,971 |
45 |
2,229,170 |
50 |
3,297,340 |
55 |
4,726,793 |
60 |
6,639,723 |
จากตัวอย่าง หากเริ่มต้นลงทุนตอนอายุ 25 ปี เดือนละ 4,500 บาท (ปีละ 54,000 บาท) ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 6% จะได้หยิบเงิน 1 ล้านบาท ตอนอายุ 37 ปี และสมมติว่านำเงิน 1,052,479 บาท ลงทุนต่อ ใส่เงินลงทุนเดือนละ 4,500 บาท ได้ผลตอบแทนเหมือนเดิม (เฉลี่ยปีละ 6%) จะได้หยิบเงิน 2 ล้านบาท ตอนอายุ 44 ปี และ 3 ล้านบาท ตอนอายุ 39 ปี พอถึงวันเกษียณ คือ อายุ 60 ปี จะมีเงินทั้งสิ้น 6,639,723 บาท
สมมติว่า หากเริ่มต้นลงทุนตอนอายุ 25 ปี เดือนละ 2,500 บาท (ปีละ 30,000 บาท) ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 6% จะได้หยิบเงิน 1 ล้านบาท ตอนอายุ 43 ปี และสมมติว่าลงทุนต่อและใส่เงินลงทุนเดือนละ 2,500 บาท ได้ผลตอบแทนเหมือนเดิม (เฉลี่ยปีละ 6%) จะได้หยิบเงิน 2 ล้านบาท ตอนอายุ 52 ปี และพอถึงวันเกษียณ คือ อายุ 60 ปี จะมีเงินทั้งสิ้น 3,688,735 บาท
จากตัวอย่าง ถ้าต้องการมีเงิน 1 ล้านบาทให้ได้เร็วๆ นอกจากต้องเริ่มลงทุนกันแต่เนิ่นๆ แล้วก็ต้องลงทุนในระดับที่เหมาะสม ซึ่งตามทฤษฎีการวางแผนการเงินควรหักเงินไปลงทุนอย่างน้อย 15% ต่อเดือน ขณะเดียวกันยิ่งได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงๆ ยิ่งเห็นเงินล้านได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม คนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนตอนอายุเยอะๆ เช่น 40 ปี, 50 ปี ถ้าอยากเห็นเงินล้านในเวลาอันรวดเร็วก็ต้องใส่เงินลงทุนในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก และต้องได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงอีกด้วยเพื่อให้ได้เป้าหมาย 1 ล้านบาท ภายในเวลาที่กำหนด ขอนำเสนอ 3 กลยุทธ์
หากคิดว่าการเก็บเงินเพียงเดือนละพันบาท คงไม่ได้เห็นเงินล้านแน่นอน แต่ความจริงแล้วหากนำเงินไปลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่อง และยิ่งเริ่มต้นลงทุนเร็วเท่าไหร่บวกกับมีวินัย ศึกษาข้อมูลและมีการติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอก็มีสิทธิหยิบเงินล้านได้ทุกคน