เรื่องอินโนเวชั่น การคิดนอกกรอบ และเรื่องความเนี้ยบต้องยกให้ญี่ปุ่นเขา ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจซักรีดที่ถ้าเป็นบ้านเราก็ดูว่าเป็นธุรกิจแสนจะธรรมดา แต่นั่นไม่ใช่ที่ญี่ปุ่นแน่นอน

ธุรกิจซักรีด หรือธุรกิจซักแห้งเป็นที่นิยมมากของคนญี่ปุ่น มีไล่ไปตั้งแต่ร้านเล็กๆ ไปจนถึงร้านที่เป็นเชนใหญ่ระดับประเทศ ถ้าเดินบริเวณใกล้ๆ สถานีรถไฟในโตเกียวจะพบว่ามีร้านซัก อบ รีด หรือร้านซักแห้ง 4-5 ร้านในการเดินเพียง 5 นาที เรียกว่าจำนวนร้านซักรีดที่เปิดให้บริการอย่างมากมายชี้ให้เห็นความนิยมของคนญี่ปุ่นในการใช้บริการประเภทนี้ นอกจากร้านจะมีเยอะ ราคาก็ถือว่าไม่แพงเลย (สำหรับคนญี่ปุ่น)เพราะการซัก อบ รีด เสื้อเชิ้ตทำงานตัวหนึ่งตกเพียงแค่ตัวละ 250 เยน หรือประมาณตัวละ 75 บาท เพราะเขาไม่ได้แค่ซักแบบขอไปทีแต่ประณีตทุกขั้นตอน

70% ของร้านซักรีด ไม่ได้ซักเองที่ร้านแต่ส่งไปที่ Industrial Laundry Plant หรือโรงงานซักรีด ซึ่งโรงงานก็จะรับผ้าจากร้านซักรีดบริเวณใกล้เคียงจำนวนหนึ่ง โดยแต่ละร้านก่อนจะส่งผ้าไปโรงงานจะติดป้ายกระดาษที่ทนน้ำไว้กับเสื้อผ้าแต่ละชิ้น โดยตัวเลขหรือโค้ดจะบอกว่าผ้าชิ้นนั้นมาจากร้านไหนและเป็นของลูกค้ารายใด และยังบอกว่ามีจุดที่เปื้อนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษตรงไหนบ้าง รวมทั้งวิธีการซักที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นจึงหมดปัญหาเรื่องการส่งผ้าผิดร้านหรือผิดเจ้าแน่นอน โดยโรงงานซักผ้าจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย โดยจะมีระบบคอมพิวเตอร์ในการจัดการรายการของลูกค้าแต่ละราย แค่แสกนการ์ดข้อมูลเกี่ยวกับเสื้อผ้าชิ้นนั้นจะแสดงขึ้นมา เช่น ลูกค้าบางคนต้องการให้พับเสื้อโดยไม่ต้องแขวน หรือผ้ามีรอยเปื้อนเยอะๆ ตรงไหน ความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละคนจะถูกบันทึกไว้ทั้งหมด ละเอียดอะไรปานนั้น!

เมื่อเสื้อผ้ามาถึงโรงงานพนักงานจะดูสภาพผ้าว่ามีลักษณะอย่างไร ควรซักแบบไหน ถ้ามีรอยเปื้อนจะขจัดรอยเปื้อนออกก่อนโดยใช้วิธีพิเศษ เช่น ใช้ระบบอัลตร้าซาวน์กับน้ำยาแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับรอยเปื้อนนั้นๆ บางร้านเรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขจัดคราบหรือรอยเปื้อนโดยเฉพาะ ยิ่งเป็นพวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงยิ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญ เช่น มีน้ำยาขจัดคราบแบบต่างๆ มากถึง 50 ประเภท ซึ่งต้องใช้ความรู้ ความชำนาญเพราะถ้าใช้นำยาที่แรงเกินไปก็อาจทำให้เนื้อผ้าเสียได้ หลังจากนั้นจะนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับผ้าแต่ละประเภท หลังจากนั้นจะเข้าเครื่องรีด เช่น เชิ้ตจะเข้าเครื่องรีดปกและปลายแขนก่อน แล้วจึงไปเข้าเครื่องรีดลำตัวและเป่าลมแขนซึ่งเครื่องรีดผ้ามีความสามารถในการรีดได้มากถึง 250 ตัวต่อชั่วโมง!

นอกจากร้านซัก อบ รีด หรือร้านซักแห้งแล้ว ร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญ หรือที่เรียกว่า Modern Coin Laundries ก็กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นอย่างมาก หลายๆ ร้านตกแต่งอย่างฮิพ เช่น การตกแต่งด้วยปูนเปลือย บางร้านเป็นทั้งร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญและเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะไปในตัว ระหว่างที่รอให้ผ้าซักอบเสร็จ เจ้าของผ้าก็สามารถไปแช่น้ำผ่อนคลาย พออาบน้ำเสร็จผ้าก็เสร็จพอดี

บางร้านผสมผสานระหว่างร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญกับคาเฟ่ ดูภายนอกเหมือนเป็นคาเฟ่เก๋ๆ ร้านหนึ่ง มีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอร์รี่คุณภาพสูงจำหน่าย  เจ้าของร้านเล่าถึงไอเดียว่าเพราะการมาซักอบผ้าครั้งหนึ่งใช้เวลาเป็นชั่วโมง จึงอยากให้คนมีความสุขระหว่างรอเสื้อผ้าเสร็จ จึงรวมคาเฟ่เข้ากับร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญไว้ด้วยกัน นอกจากนั้นยังมีทั้งเครื่องซักผ้าและอบผ้าให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบแยกซักแยกอบหรือซักและอบในเครื่องเดียว รวมทั้งมีเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่พิเศษจุได้ 27 กิโล สำหรับซักผ้าขนาดใหญ่เช่นผ้าห่ม แต่ที่น่าสนใจกว่าคือเครื่องซักรองเท้าผ้าใบและอบแห้งในเวลาเพียง 20 นาที  เท่านั้นยังไม่พอยังมีแอปพลิเคชั่นให้สามารถเช็คได้ด้วยว่ามีเครื่องซักผ้าเครื่องไหนว่างอยู่ตอนนี้หรือไม่เพื่อให้ไม่เสียเวลาเดินทางมาแล้วต้องรอนาน แต่ถ้าใครไม่อยากรอหรือไม่มีเวลาก็มีสามารถจ้างพนักงานให้ทำการซักผ้าแทน เพียงแค่ทิ้งผ้าไว้จะมีคนนำไปเข้าเครื่องซักอบและพับผ้าให้เรียบร้อย กลับมาก็รับผ้าหอมๆ ไปได้เลย

นอกจากความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีแล้ว ความมีน้ำใจของคนญี่ปุ่นก็แสดงออกมาในบริการซักรีดเช่นกัน  เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2011 ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องสูญเสียบ้านไปจึงไม่สามารถซักผ้าที่ตัวเองใส่ได้ ร้านซักผ้าที่ยังอยู่และเปิดบริการได้จึงช่วยเหลือโดยให้บริการซักผ้าให้ฟรีกับผู้ประสบภัย เพราะถึงแม้จะไม่มีบ้านคนญี่ปุ่นก็ยังคงต้องการสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดอยู่ เจ้าของโรงงานซักผ้ารายหนึ่งกล่าวว่าดีใจที่ทำให้ผู้คนที่ประสบภัยมีความสุขขึ้น และได้เรียนรู้ว่าแม้ในช่วงวิกฤติธุรกิจซักรีดก็ยังมีความสำคัญกับสังคม และยังมั่นใจอีกด้วยว่าในเรื่องของนวัตกรรมการซักรีดนั้นญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร

ตอนนี้ธุรกิจเครื่องซักผ้า อบผ้าแบบหยอดเหรียญในบ้านเราก็กำลังเป็นที่นิยมมีทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ทยอยผุดขึ้นมา แม้แต่แบรนด์ผงซักฟอกบางเจ้าก็เริ่มเปิดธุรกิจนี้เองด้วย แถมลูกค้าคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจใช้บริการกันเยอะ ใครสนใจทำธุรกิจนี้หรือมีร้านอยู่แล้วแต่อยากพัฒนาให้ไฉไลทันสมัยกว่าเดิมแต่ยังขาดเงินทุน SCB มีทางออกให้ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดย่อม หรือถ้าใครไม่ต้องการเงินมากนักก็สามารถใช้บริการ SCB Speedy Loan ที่กู้ง่ายให้วงเงินสูงสุดถึง 3 ล้านบาท แถมยังผ่อนได้นานถึง 72 เดือน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน มีไอเดียธุรกิจดีๆ อยู่ในหัวอย่าปล่อยให้หลุดมือให้ SCB ช่วยให้ความคิดของคุณเป็นจริง

อ้างอิง

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/ondemand/video/2032208/