ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
จากยุทธศาสตร์ยานแม่ สู่กระบวนการครั้งสำคัญ Share Swap แลกหุ้น SCB เป็น SCBX
บทสัมภาษณ์คุณมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน และ Chief Finance & Strategy Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ในรายการ Morning Wealth ของ The Standard Wealth ถึงความเป็นมาและกระบวนการทำเทนเดอร์ แลกหุ้น SCB เป็น SCBX รวมถึงการนำหุ้น SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
“ในแง่ของกระบวนการทำ Share Swap ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุดกระบวนการหนึ่งในการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ เมื่อ SCB ได้ประกาศกลยุทธ์ยานแม่ของ SCBX ไปเมื่อประมาณ 4–5 เดือนก่อน โดยอธิบายและทำความทำความเข้าใจว่าจะมีการปรับโครงสร้างจากธุรกิจปัจจุบันที่มีธนาคารเป็นธุรกิจหลัก ไปสู่โครงสร้างใหม่ที่มี SCBX เป็นธุรกิจหลัก และเป็นยานแม่ โดยหลังจากนี้ เมื่อกระบวนการแลกหุ้นแล้วเสร็จ หุ้นของ SCBX จะกลายมาเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนหุ้นของ SCB จึงเป็นที่มาที่ไปที่เราต้องมีการแปลงสภาพหุ้น”
โดยในส่วนของโครงสร้างทางธุรกิจใหม่นั้น คุณมาณพกล่าวต่อว่า “เราเชื่อว่าจะเอื้อให้ธุรกิจของ SCBX สามารถเติบโต และสร้างธุรกิจใหม่ที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงเป็นแบบที่เราไม่เคยมีมาก่อน และสุดท้ายคือให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนจากธุรกิจในปัจจุบันเป็นเท่าตัว ทั้งนี้ธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง ผลตอบแทนสูง จะถูกสร้างขึ้นภายนอกโครงสร้างของธนาคาร และอยู่ภายใต้ SCBX แต่ว่าธนาคารก็ยังเป็นธุรกิจหลักของ SCBX ต่อไป แต่จะเติบโตไปตามสภาวะของเศรษฐกิจ”
3 สิ่งควรรู้สำหรับผู้ถือหุ้น SCB ก่อนทำ Share Swap
1. การแปลงสภาพหุ้น
ผู้ถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แปลงสภาพเป็นหุ้น SCBX ในอัตราส่วน 1:1 เช่น หุ้น SCB 1 หุ้น แปลงเป็นหุ้น SCBX 1 หุ้น ไม่มีการชำระค่าหุ้นเป็นเงินสดแต่อย่างใด ทั้งนี้ การแปลงสภาพหุ้นจะถูกยกเลิก หากผู้ถือหุ้นแสดงเจตจำนงรวมกันแล้วไม่ถึง 90% ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด เราเชื่อว่า 90% เป็นตัวเลขที่เหมาะสม และเป็นการแสดงเจตจำนงของผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่แท้จริง และหลังจากนี้แล้ว Ticker (ตัวย่อของหุ้น) ยังเป็น SCB เหมือนเดิม แต่บริษัทของหุ้นจะเป็น SCBX ไม่ใช่ธนาคารไทยพาณิชย์ต่อไป
2. ระยะเวลา
ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 หลังจากเปิดซื้อขายหุ้นได้ ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนสามารถยื่นคำตอบรับเพื่อแปลงสภาพหุ้นได้ จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 (30 วันทำการ) หลังจากนั้นจะมีกระบวนการเพื่อแปลงสภาพหุ้นระยะหนึ่ง หุ้น SCBX จะเริ่มเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 เมษายน 2565 ดังนั้น ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนควรดำเนินการแต่เนิ่น ๆ เพราะเชื่อว่าผู้ที่ถือหุ้นของ SCB อยู่ ได้มีการศึกษากลยุทธ์มาอย่างดี และเชื่อว่าภายใต้ กลยุทธ์ใหม่ และโครงสร้างที่มี SCBX
เป็นยานแม่ จะสามารถปลดล็อกมูลค่าของกิจการได้มาก ถ้าประสบความสำเร็จ ในระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า จะสร้างมูลค่าของหลักทรัพย์ (Market Cap) สูงกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งแปลว่ามูลค่าจะสูงกว่าในปัจจุบันถึง 2 เท่า
3. กระบวนการ
ภายใน 1-2 วันนี้ นักลงทุนจะได้รับหนังสือเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ แบบตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น SCB และใบจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SCBX ทางไปรษณีย์
ผู้ถือหุ้นที่ไม่มีใบหุ้น (Scripless)
นักลงทุนสามารถกรอกแบบตอบรับ และยื่นได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ท่านมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่ หรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ (Tender Agent) ที่ได้รับการแต่งตั้ง 4 ราย โดย คือ
1) บล. ไทยพาณิชย์ (SCBS)
2) บล. บัวหลวง (BLS)
3) บล. เกียรตินาคิน ภัทร (KKPS)
4) บล. เอเชีย พลัส (ASP)
ผู้ถือหุ้นที่มีใบหุ้น (Scrip)
สามารถนำแบบตอบรับ พร้อมใบหุ้นที่มีติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ ตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ หรือสาขาของธนาคารไทยพาณิชย์ และดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5 เมษายน 2565
ผู้ซื้อหุ้น SCB ในช่วงระหว่างวันที่ 2 มีนาคม 2565 – 18 เมษายน 2565
ท่านจะต้องดำเนินการแปลงสภาพหุ้นเช่นกัน เพียงแต่จะไม่ได้รับหนังสือแปลงสภาพหุ้น แต่สามารถดาวน์โหลดเอกสารผ่านเว็บไซต์ของ SCB หรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ทั้ง 4 แห่งที่กล่าวไว้ข้างต้น รวมถึงช่องทาง SCB Call Center โทร 02-777-7777
*** ทั้งนี้ หากไม่ได้ดำเนินการแปลงสภาพหุ้น จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้ถือหุ้น SCBX
แปลงสภาพหุ้น SCB เป็น SCBX แล้วได้ประโยชน์อะไร ถ้าไม่แปลงสภาพจะมีผลอย่างไร
กรณีที่มีผู้ถือหุ้น SCB ไม่แปลงสภาพหุ้นจะเป็นอย่างไร คุณมาณพ กล่าวว่า “ กรณีที่ไม่ดำเนินการแปลงสภาพหุ้นภายในวันที่ 18 เมษายน 2565 ก็จะยังเป็นผู้ถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ต่อไป แต่จะไม่ได้มีส่วนร่วมในการเติบโตในอนาคตของกลุ่ม SCBX ซึ่งมีกลยุทธ์ที่จะปลดล็อกมูลค่ากิจการให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าในระยะเวลายาว และประเด็นสำคัญคือ ใบหุ้นของท่านจะไม่มีสภาพคล่อง (สภาพคล่องเป็นศูนย์) และตลาดรองรับให้สามารถเปลี่ยนมือได้ ถึงแม้ธุรกิจธนาคารจะสามารถเติบโตได้ตามสภาวะเศรษฐกิจ มีมูลค่าอยู่ แต่หุ้นใดๆ ก็ตามจะมีมูลค่ามาจากปัจจัยพื้นฐาน และสภาพคล่อง ถ้าสภาพคล่องหายไป มูลค่าของหลักทรัพย์ที่เราถืออยู่ก็จะหายไปด้วย นอกจากนี้ หุ้นที่ท่านมีอยู่จะไม่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หากมีการเปลี่ยนมือ และมีกำไร จะต้องมีการเสียภาษีจากกำไรในส่วนนั้น สุดท้ายแล้ว หากท่านยังต้องการถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ ก็สามารถถือได้โดยการแปลงสภาพหุ้นเป็นของ SCBX ที่มีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นส่วนหนึ่ง และมีโอกาสเติบโตร่วมไปกับกลุ่มธุรกิจใหม่ ”
อนาคตยานแม่ SCBX สร้างการเติบโตระยะยาว สู่ The Most Admired
Fintech group in ASEAN
ภายหลังจากการปรับโครงสร้าง เป้าหมายของ SCBX มีอะไรบ้าง คุณมาณพ กล่าวว่า “ในวันที่ประกาศกลยุทธ์ยานแม่ SCBX จะเห็นว่ามีธุรกิจหรือบริษัทลูกใหม่ๆ ที่บางส่วนจะเป็นธุรกิจสร้างขึ้นมาใหม่ บางส่วนเป็นธุรกิจที่เกิดการจากการโอนออกจากธุรกิจธนาคาร รวมแล้ว 14 ธุรกิจ ทั้งนี้ การสร้างธุรกิจใหม่ภายใต้โครงสร้างธุรกิจธนาคารมีมานานแล้ว แต่เชื่อว่าโครงสร้างใหม่จะทำให้เราเติบโตขึ้นไปได้อีกเท่าตัว เมื่อมองในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้า ส่วนที่ได้ประกาศ และเริ่มไปแล้วก็จะมีตั้งเป้าหมาย วางแผนทางธุรกิจให้ชัดเจนเพื่อการเติบโต นอกจากนี้ก็จะมีการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้พูดถึงนอกเหนือจาก 14 ธุรกิจ อาจจะเป็นการตั้งธุรกิจใหม่เอง การร่วมลงทุน หรือการควบรวมกิจการ ทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศในภูมิภาคนี้ ดังวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ To be the Most Admired Fintech group in ASEAN และ Market Cap ที่ตั้งไว้ให้สูงกว่า 1 ล้านล้านบาทในระยะยาว”
คลายข้อสงสัย ทำไมถึงไม่แปลงสภาพหุ้นแบบอัตโนมัติ
เกิดคำถามในหมู่ผู้ถือว่าหุ้น SCB ว่าทำไม่แปลงสภาพหุ้นโดยอัตโนมัติ ผู้ถือหุ้นจะได้ไม่เสียเวลาแปลงสภาพ คุณมาณพกล่าวว่า “เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และถือว่าที่เป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นในการแสดงเจตจำนงของแต่ละท่าน โดยตั้งเกณฑ์ไว้ว่าต้องมีผู้แสดงเจตจำนงเกิน 90% ถึงจะดำเนินการเรื่องนี้ได้ ถ้าหากเราทำการแปลงสภาพหุ้นโดยอัตโนมัติ จะเท่ากับเราไม่เคารพสิทธิของผู้ถือหุ้น”
ช่วงแปลงสภาพหุ้นวันที่ 2 มีนาคม 2565 – 18 เมษายน 2565 จะยังสามารถซื้อขายหุ้น SCB ได้ตามปกติหรือไม่
คุณมาณพตอบข้อสงสัยว่า “หากยื่นเอกสารแสดงความจำนงในการแปลงสภาพหุ้นมาแล้ว หุ้นดังกล่าวจะถูกดึงออกจากตลาด และในระหว่างนี้จนถึงวันที่หุ้นใหม่เข้าตลาด (28 เมษายน 2565) สภาพคล่องจะลดน้อยลง แต่หลังจากนั้นจะกลับมามีสภาพคล่องเหมือนเดิม หรือมีมากขึ้นเช่นกัน”
ทั้งนี้ กระบวนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการเติบโตของธุรกิจภายใต้กลุ่มไทยพาณิชย์ในหลายด้าน รวมทั้งเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจของกลุ่มฯ ให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตได้อย่างเต็มที่ มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของกลุ่มไทยพาณิชย์โดยรวม และจะนำไปสู่โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคตในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูงต่อไปในอนาคต
ศึกษาการแปลงสภาพหุ้นเพิ่มเติม ได้ที่
www.scb.co.th/th/scbx.html
ที่มา : บทสัมภาษณ์คุณมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน และ Chief Finance & Strategy Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ในรายการ Morning Wealth วันที่ 2 มีนาคม 2565