จัดทริปดี ๆ เพิ่มพลังชีวิตมนุษย์เงินเดือน

การจัดทริปบินไปเที่ยวต่างประเทศสักทริปสำหรับมนุษย์เงินเดือนตัวเล็ก ๆ อาจเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ลำพังเงินจะใช้ในแต่ละเดือนก็แทบจะไม่พอแล้ว หากรักที่จะเที่ยวก็ต้องทน เก็บเล็กผสมน้อย แล้ววันนึงเราก็จะพร้อมออกบิน วันนี้มีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเติมพลังชีวิตมนุษย์เงินเดือน ด้วยทริปดี ๆ เมื่อรวมกับโบนัสที่คาดว่าจะได้รับ ฝันที่วางไว้ก็ไม่ยากที่จะเป็นจริงได้ นี่คือ 5 ขั้นตอนในการจัดทริปเที่ยวเมืองนอก ในแบบฉบับที่มนุษย์เงินเดือนสามารถทำตามได้

saving-for-trip-planet-scb-01

ขั้นที่ 1: ปักหมุดเลือกประเทศในฝันที่เราต้องการจะไป สำหรับมนุษย์เงินเดือนมือใหม่ เงินเดือนยังไม่สูงมาก ขอแนะนำให้เลือกประเทศในแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น เพราะราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายในการกินเที่ยวไม่ค่อยสูงนัก เมื่อเทียบกับประเทศในฝั่งยุโรป ออสเตรเลีย หรืออเมริกา แถมยังไม่ต้องเสียค่าทำวีซ่าด้วย

ขั้นที่ 2: หาข้อมูลที่จำเป็น เช่น แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาด ร้านอาหารเด็ดต้องลอง ของฝากยอดนิยม วิธีการเดินทางไปในแต่ละสถานที่ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้มากมายจากในเพจท่องเที่ยวต่าง ๆ หรือกลุ่มเฉพาะของผู้สนใจท่องเที่ยวในประเทศนั้น ๆ รวมถึงรีวิวใน Pantip หรือคลิปพาเที่ยวใน YouTube และ Tiktok ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอัปเดตกว่าหนังสือนำเที่ยวที่วางขายตามท้องตลาด หากมีข้อสงสัย แนะนำให้โพสต์สอบถามเข้าไปได้เลย จะมีเหล่ากูรูเข้ามาตอบพร้อมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับทริปของเราอย่างแน่นอน

ขั้นที่ 3: เก็บเงินสำหรับใช้จ่ายในทริป เพราะเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า เงินเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว ถ้าเรามีบัญชีสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บัญชีสำหรับการลงทุน หรือบัญชีเงินที่เก็บไว้ใช้กรณีฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่มีบัตร PLANET SCB ลองเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางสำหรับเก็บเงินเที่ยว ด้วยการ เติมเงินบาทเข้าวอลเล็ท ในแอป SCB EASY เป็นประจำทุกเดือน ตามจำนวนเงินที่คิดว่าเรามีความสามารถพอ โดยไม่ทำให้เราต้องเดือดร้อนในการใช้ชีวิต วิธีนี้เราไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีใหม่ให้วุ่นวาย แถมเงินก้อนนี้ก็จะไม่ไปปะปนกับเงินที่เราใช้จ่ายในแต่ละวันด้วย เราสามารถใช้เงินก้อนนี้สำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก ซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยว รวมไปถึงเป็นเงินติดกระเป๋าสำหรับใช้กินใช้ช้อประหว่างทริปด้วย ถ้าเราสรุปได้แล้วว่าจะไปประเทศไหนก็ยิ่งง่าย เพราะบัตร PLANET SCB มีให้แลกเก็บได้ถึง 13 สกุลเงินยอดฮิต วันไหนเจออัตราแลกเปลี่ยนที่ถูกใจก็แลกเก็บไว้ใช้ได้เลย หรือจะแลกสะสมเพื่อถัวเฉลี่ยไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเดินทางก็ได้ หรือจริง ๆ แค่เพียงเงินบาทที่เติมไว้ก็ใช้จ่ายได้ทั่วโลกแล้ว

ขั้นที่ 4: วางแผนการท่องเที่ยว จากข้อมูลที่รวบรวมมา ลองนำหลายชื่อสถานที่ต่าง ๆ ที่สนใจมาจัดแผนการเดินทางดู การจัดเส้นทางการท่องเที่ยวให้แต่ละวันอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กัน จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปมาระหว่างแต่ละที่มากนัก เราสามารถปักหมุดบน Google Maps หรือแอปวางแผนการเที่ยวอื่น ๆ เพื่อดูระยะทาง และเวลาในการไปแต่ละจุดได้ หลังจากนั้นก็สรุปออกมาเป็นวัน ๆ เลยว่า แต่ละวันจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แวะกินข้าวแถวไหน ต้องออกเดินทางกี่โมง ทั้งนี้เราสามารถตรวจดูได้ด้วยว่า เราสามารถเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งโดยรถประจำทางสายไหน หรือต้องไปขึ้น-ลงรถไฟที่สถานีใด การสรุปออกมาไว้ก่อนแบบนี้ จะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลใหม่เมื่อออกไปเที่ยวจริง ๆ แผนการเดินทางนี้ยังมีประโยชน์ในกรณีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองถามว่าเรามาทำอะไร มันจะช่วยให้เราผ่านฉลุย เพราะเราเตรียมการมาดี

ขั้นที่ 5: จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และแพ็คเกจท่องเที่ยว (ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่วางไว้) โดยเทคนิคที่เหล่ากูรูสายเที่ยวมักจะแชร์กันเพื่อให้ได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก คือ ต้องจองตั๋วล่วงหน้าก่อนบินประมาณอย่างน้อย 11-12 สัปดาห์ ยิ่งเราจองตั๋วใกล้วันบินเท่าไหร่ก็อาจจะได้ตั๋วราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่าจองล่วงหน้านาน ๆ แล้วจะได้ตั๋วถูกเสมอไป เพราะทางสายการบินก็อาจมีการจัดโปรโมชันที่ให้ราคาตั๋วถูกเป็นพิเศษออกมาก็เป็นได้ นอกจากนี้หากเลือกบินวันธรรมดา เช่น วันอังคาร/วันพุธ ไม่ตรงวันหยุดเทศกาล ก็มีแนวโน้มที่จะได้ตั๋วราคาไม่แพง เราอาจทำการตั้งเตือนหากราคาตั๋วมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อได้ราคาที่พอใจแล้วก็ตัดสินใจจองไปเลย ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย การจองตั๋วเครื่องบินพร้อมกับที่พัก มักทำให้เราได้รับดีลพิเศษเป็นส่วนลด เรียกว่า ราคาที่ได้ อาจดีกว่าจองแยกกัน นอกจากนี้การซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวก็สามารถช่วยให้เราเที่ยวได้ครบแบบประหยัดงบได้ ซึ่งทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และแพ็คเกจท่องเที่ยวนั้น เราสามารถใช้บัตร PLANET SCB จ่ายได้หมดเลย โดยตัดจากเงินบาทที่เราเก็บไว้ในวอลเล็ทนั่นเอง ความพิเศษของโปรโมชันในบัตรนี้ยังทำให้เราได้ส่วนลดเพิ่มเติม เมื่อ จองตั๋วเครื่องบินและที่พักผ่าน TraveliGo / Traveloka หรือ จองโรงแรมผ่าน Agoda รวมถึงการ จองแพ็คเกจท่องเที่ยวผ่าน Klook หากใครมีเงินโบนัสปลายปีหรือต้นปีเพิ่มเติมเข้ามา จะใส่ลงมาเพิ่มเป็นเงินทุนสำหรับการท่องเที่ยวก็จะช่วยให้ทริปในฝันสมบูรณ์ และสะดวกสบายมากขึ้น

ในระหว่างการเดินทางหากต้องการใช้จ่ายเงิน มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ไม่จำเป็นต้องหาที่แลกเงินให้ยุ่งยาก แค่พกบัตร PLANET SCB มาด้วยก็สามารถรูดจ่ายซื้อสินค้าได้หมด สูงสุดเทียบเท่า 500,000 บาทต่อวัน (ขึ้นอยู่กับเงินที่เราใส่ไว้ในวอลเล็ท) ซึ่งเราจะไม่ถูกชาร์จเรทอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% ยิ่งถ้าเป็นสกุลเงินที่แลกเก็บไว้ด้วยเรทพิเศษคุ้ม ๆ แล้ว ยิ่งสบายใจได้ เพราะระบบจะดึงเงินสกุลดังกล่าวขึ้นมาใช้ให้ทันที ถ้าเงินไม่พอก็แลกเพิ่มเข้าไปได้อีก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เบิกถอนเงินสดจากตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ VISA โดยกดได้สูงสุดเทียบเท่า 100,000 บาทต่อวันได้อีกด้วย รับรองว่า ทริปนี้จะสะดวกสบาย และเพลิดเพลินเป็นที่สุด

แนะนำให้ สมัครบริการแจ้งเตือนผ่าน SCB Connect ไว้ก่อนเดินทาง จะได้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินในบัตรได้ ทุกครั้งที่มีเงินออกจากบัตรหรือวอลเล็ท จะมีไลน์เด้งเข้ามือถือมารายงานทันที กรณีที่บัตรหายระหว่างที่ท่องเที่ยวอยู่นั้น ก็สามารถอายัดบัตรด้วยตัวเองผ่านแอป SCB EASY ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับใครที่กังวลเรื่องค่าธรรมเนียมรายปีนั้น หายห่วงได้เลยเพราะบัตร PLANET SCB ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้ตลอดชีพ นี่แหละบัตรที่มนุษย์เงินเดือนชอบเที่ยวควรจะมีไว้ติดตัว

สำหรับใครที่สนใจดูสิทธิพิเศษอื่นๆ ของบัตร PLANET SCB สามารถเข้ามาดูรายละเอียด และสมัครบัตรได้ที่นี่เลย https://www.scb.co.th/th/personal-banking/cards/prepaid-cards/planet-scb-card.html


*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด