ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เปิดโลกการลงทุนในต่างประเทศ
ในแต่ละช่วงเวลาและแต่ละวัฏจักรของเศรษฐกิจ จะไม่มีสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นที่สุดหรือชนะตลาดได้ตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดพอร์ตการลงทุน คือ การทำ Asset Allocation หรือการกระจายการลงทุน ไปยังหลากหลายสินทรัพย์และหลากหลายภูมิภาคตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน
นอกจากนี้จากข้อมูลสถิติตลาดโลก ณ เดือนธันวาคม 2563 จาก Bloomberg และ Business Insider พบว่า ตลาดทุนทั่วโลกมีขนาดประมาณ $80 ล้านล้านเหรียญใน 60 ดัชนีทั่วโลก กว่า 40% อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยญี่ปุ่นและจีน ซึ่งมีขนาดประมาณ 7.6% และ 7.5% ตามลำดับ ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีขนาดเล็กมากเพียงประมาณ 1% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกเท่านั้น
ดังนั้นการลงทุนในต่างประเทศมีจึงมีตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่าและมีโอกาสการลงทุนในหลากหลายธุรกิจมากกว่าด้วย ทำให้นักลงทุนสามารถบริหารผลตอบแทนของพอร์ตโฟลิโอและความเสี่ยงที่เหมาะสมที่สุดได้ดีขึ้น
ทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศ
รู้จักรูปแบบและนโยบายการลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศ
ในปัจจุบันกองทุนรวมต่างประเทศ ของไทยมีรูปแบบการบริหารแบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆ คือ
กองทุนรวมต่างประเทศน่าสนใจอย่างไร?
เป็นช่องทางให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสลงทุนต่างประเทศได้โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก มีมืออาชีพมาช่วยบริหารจัดการลงทุนแทนซึ่งทำให้สามารถกระจายการลงทุนไปในสินค้าทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมมากกว่าสินค้าที่มีเสนอขายอยู่ในประเทศ และช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้
มีทางเลือกการลงทุนหลากหลาย เนื่องจากปัจจุบันนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศมีความหลากหลายมาก มีทั้งกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ และกองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น กองทุนรวมทองคำ
บางกองทุนก็เลือกเน้นลงทุนเฉพาะบางภูมิภาคของโลกโดยเน้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มอัตราการเติบโตสูง (Emerging Markets) เช่น กลุ่มประเทศ BRIC (Brazil, Russia, India, China) หรือบางกองก็เลือกลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค พลังงานทดแทน อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ หรืออาจเลือกลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่มีในประเทศไทย
ความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศมีอะไรบ้าง?
สำหรับความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน โดยความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศ มีดังนี้
ความเสี่ยงของหลักทรัพย์ที่ลงทุน เช่น กรณีของหุ้น จะมีความเสี่ยงจากภาวะราคาหุ้นในตลาดผันผวน หากเป็นตราสารหนี้ จะมีความเสี่ยงในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร หรือความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่อง หากลงทุนผ่านกองทุนรวม นักลงทุนควรดูว่ากองทุนรวมนั้นไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือเอกชน อันดับเครดิตของตราสารและหลักทรัพย์เป็นอย่างไรด้วย
ความเสี่ยงของสภาพเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศที่กองทุนรวมเข้าไปลงทุน (Country Risk) ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย การเมือง หรือความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ
ความเสี่ยงในเรื่องข้อจำกัดในการนำเงินลงทุนกลับประเทศ (Repatriation Risk) ที่อาจทำให้นักลงทุนไม่สามารถนำเงินลงทุนและผลตอบแทนกลับประเทศได้ครบถ้วนตามที่คาดไว้ได้
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk) การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบต่อมูลค่าของการลงทุน ซึ่งนักลงทุนอาจสูญเสียเงินต้นเมื่อมีการแปลงสกุลเงินกลับมาเป็นสกุลเงินในประเทศตามอัตราค่าเงินในวันที่ทำรายการ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวตามตลาด นักลงทุนควรพิจารณาว่าการลงทุนในสกุลเงินต่างประเทศนั้นเหมาะสมกับตนหรือไม่ ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการลงทุน สถานภาพทางการเงิน และระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้
มองทางการลงทุนในต่างประเทศ
ปัจจุบันนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้หลากหลายช่องทาง ซึ่งสามารถแบ่งทางเลือกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆ คือ การลงทุนทางอ้อม และการลงทุนทางตรงด้วยตนเอง
การลงทุนทางอ้อม คือ ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ บลจ.ต่างๆ ไปคัดสรรการลงทุนในต่างประเทศที่น่าสนใจมาให้ลงทุน หรือการใช้บริการกองทุนรวมส่วนบุคคลที่เราสามารถกำหนดนโยบายให้ไปลงทุนในต่างประเทศได้ สำหรับนักลงทุนรายย่อยอาจลงทุนผ่านโปรแกรม Robo-Advisor ซึ่งจัดทำในรูปแบบพอร์ตการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ โดยใช้เงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยกว่ากองทุนส่วนบุคคล หรือบางแห่งก็ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ ทำให้เริ่มต้นการลงทุนได้ง่ายขึ้น
การลงทุนทางตรง ปัจจุบันสามารถทำได้สะดวกขึ้นไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นหรือกองทุนต่างประเทศโดยตรง นักลงทุนสามารถแลกเงินเป็นสกุลที่ตนเองต้องการและสั่งลงทุนโดยตรงเองผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบต่างๆ ที่ผู้ให้บริการมีให้ นอกจากนี้การเปิดบัญชีลงทุนก็มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยมีการพัฒนาบริการให้นักลงทุนสามารถเปิดบัญชี สมัครใช้บริการ โอนเงินเริ่มต้นและลงทุนได้ทันทีผ่าน smartphone ในมือ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญให้การลงทุนใหม่ๆ แพร่หลายมากขึ้น
กล่าวโดยสรุป จะเห็นว่าการลงทุนในต่างประเทศมีสินทรัพย์ลงทุนให้เลือกหลากหลาย ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนลงได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนนี้ก็มาพร้อมกับปัจจัยที่ต้องพิจารณาทั้งเรื่องค่าเงิน ค่าธรรมเนียม ความเสี่ยงที่มากขึ้นกว่าการลงทุนในประเทศไทย ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลการลงทุน ผลิตภัณฑ์และความเสี่ยงให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม
โดยทางหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) ก็มีบริการการลงทุนในต่างประเทศที่หลากหลาย หากนักลงทุนสนใจการลงทุนในต่างประเทศ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EASY INVEST แล้วเริ่มลงทุนได้เลย!
บทความโดย : นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP®, ACC นักวางแผนการเงินอิสระ นักเขียนและวิทยากร