ความต่างระหว่าง “กองทุนรวมผสมหุ้น” และ “กองทุนรวมสร้างสมดุล”

กองทุนรวมผสมหุ้น (Blend Stock Fund)

คือ กองทุนรวมที่สามารถลงทุนในหุ้นประเภทต่าง ๆ เช่น หุ้นคุณค่า (Value Stock) ผสมกับหุ้นเติบโต (Growth Stock) เป้าหมายของกองทุนรวมประเภทนี้ คือ สร้างผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ได้จากหุ้นคุณค่าและทำกำไรจากการขายหุ้นเติบโต (สำหรับวิธีสังเกตกองทุนรวมผสม ให้ดูชื่อกองทุนโดยส่วนใหญ่จะมีคำว่า Plus, Mix หรือ Flexible ประกอบอยู่ในชื่อด้วย)


ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาลงทุนในหุ้นที่ประเมินแล้วว่ามีราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Undervalue) และคาดการณ์ว่าจะสร้างผลตอบแทนเมื่อตลาดรับรู้มูลค่าที่แท้จริงนี้ เช่นเดียวกับประเมินหุ้นที่เติบโตว่ามีแนวโน้มขยายธุรกิจและสร้างกำไรสุทธิจากผลประกอบการได้

 

หุ้นคุณค่าจะมีปัจจัยพื้นฐานดี เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยทั่วไปเป็นกิจการที่เติบโตเต็มที่แล้วและผลการดำเนินงานค่อย ๆ เติบโต แต่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ ผู้จัดการกองทุนจะมีการคาดคะเนว่าถ้าเป็นของดี ราคาถูก ราคาจะปรับขึ้นในระดับที่เหมาะสมอย่างแน่นอน

 

หุ้นเติบโต คือ หุ้นที่มีการเติบโตรวดเร็วเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของหุ้นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นรายได้หรือกำไร โดยการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จำเป็นต้องวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตประกอบด้วย เช่น ถ้ามองว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ อาจต้องมองธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยหรือธุรกิจเพื่อสุขภาพ หรือกรณีผู้นำของประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสำคัญกับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนอาจมีบทบาทและมีโอกาสเติบโตได้ดี


อีกทั้ง กองทุนรวมผสมจะมีหุ้นทั้งหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization คือ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด คำนวณจากราคาปิดของหลักทรัพย์ x จำนวนหลักทรัพย์จดทะเบียนปัจจุบัน)  ตั้งแต่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (Mid-Small Cap) ไปจนถึงหุ้นขนาดใหญ่ (Large/ Big Cap) โดยคัดสรรหุ้นคุณค่าและหุ้นเติบโตไว้ในตระกร้า (Stock Universe)

 

สำหรับการจัดสรรเงินลงทุนจะพิจารณากลยุทธ์ ความเสี่ยง ความเป็นไปได้ในการสร้างผลตอบแทนในสภาวะตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น เมื่อมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา แนวโน้มหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่จะปรับตัวขึ้นมากกว่า ในทางตรงข้ามเมื่อเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลออก หุ้นกลุ่มนี้ก็จะถูกขายออกมากกว่าถูกซื้อ ดังนั้น พอร์ตการลงทุนจึงจำเป็นต้องกระจายลงทุนให้หุ้นที่มีขนาดมาร์เก็ตแคปทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ทุกสภาวะตลาด และเมื่อตลาดมีความชัดเจน จึงปรับระดับไปเฉพาะกลุ่มที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจและสภาวะตลาดในช่วงนั้น ๆ


ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมผสม คือ สร้างผลตอบแทนจากหุ้นได้ทุกสภาวะตลาดและมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว (เช่น ลงทุน 3 - 5 ปีขึ้นไป) ดังนั้น หากมีเงินออมที่ยังไม่มีแผนการใช้จ่ายในระยะเวลาดังกล่าวก็สามารถลงทุนในกองทุนประเภทนี้ได้


อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมผสมเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางขึ้นไป และมีระยะเวลาในการลงทุนค่อนข้างนานเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ประกอบก่อนตัดสินใจลงทุน

กองทุนรวมสร้างสมดุล (Balance Fund)

เป็นการจัดสรรเงินลงทุนทั้งตราสารหนี้ หุ้น และอาจมีสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ โดยมีการกำหนดสัดส่วนของสินทรัพย์ไว้ในพอร์ตการลงทุนชัดเจน เช่น ลงทุนในหุ้น 40% ตราสารหนี้ 50% และตลาดเงินหรืออื่น ๆ 10%


เป้าหมายของกองทุนรวมสร้างสมดุล คือ เน้นผลตอบแทนที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ดังนั้น หากเป้าหมายการลงทุนเปลี่ยนแปลง ผู้จัดการกองทุนก็จะปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance) ให้กลับมาสู่สัดส่วนที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก โดยต้องมีการทบทวนเป็นประจำเพื่อบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง


ข้อดีของกองทุนสร้างสมดุล คือ การสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอและลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกับพอร์ตการลงทุนในสภาวะตลาดต่าง ๆ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง หรือผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณที่ต้องการบริหารสภาพคล่อง


ถึงแม้ว่ากองทุนรวมจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้หลายระดับ แต่อย่าลืมว่าไม่มีการลงทุนใดที่การันตีว่าจะได้รับแต่ผลตอบแทนเสมอ เพราะทุกการลงทุนจะมีความเสี่ยง ดังนั้น จึงต้องพิจารณาปัจจัยให้รอบด้านประกอบก่อนตัดสินใจลงทุน