5/12/10 เลขชุดมงคล

หากเอ่ยถึงการวางแผนการเงินเบื้องต้น ประกอบไปด้วยการหารายได้ การใช้จ่าย การออม และการลงทุน แต่ปัญหาที่พบในผู้ที่ผิดพลาดในการบริหารการเงินของตัวเอง คือ เมื่อมีรายได้แล้วก็นำไปใช้จ่ายจนหมดและไม่มีเงินเหลือเพื่อนำไปออมและลงทุน


สมมติว่าเดินตลาดนัดสัปดาห์ละ 1 ครั้งและใช้เงินซื้อข้าวของครั้งละ 500 บาท หมายความว่าจะจ่ายเงินกับการเดินตลาดนัดเดือนละ 2,000 บาท ปีละ 24,400 บาท ในทางกลับกัน ถ้ามีวินัยในการใช้จ่ายและกังวลว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัวต่อไปอีก จึงตัดสินใจงดเดินตลาดนัดก็จะมีเงินเหลือเดือนละ 2,000 บาท


นอกจากเป็นคนประหยัดก็อาจต้องมองการณ์ไกลด้วยการนำเงินไปออมและลงทุนเพื่อให้ออกดอกออกผล สมมติว่านำเงิน 2,000 บาทไปลงทุนทุกเดือนและต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี (120 เดือน) โดยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 5% เงินก้อนนี้จะเปลี่ยนจากเงิน 2 แสนกว่า กลายเป็นเงินกว่า 3 แสนบาทได้


อย่างไรก็ตาม วิธีการลงทุนอาจจะมีความแตกต่างกันไปตามความรู้ ความสามารถ และเวลาที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน สำหรับผู้เริ่มต้นสนใจลงทุนอาจใช้เลขชุดมงคล 5 12 และ 10 เป็นจุดเริ่มต้นในการทำให้แผนการเงินของตัวเองเป็นเส้นทางไปสู่การวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ


เลข 5 คือ ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (%) ที่คาดว่าจะทำได้ (ถ้าสามารถหาช่องทางลงทุนและได้ผลตอบแทนมากกว่านี้ก็เปลี่ยนเป็นเลข 6% 8% หรือ 10% เป็นต้น)


เลข 12 คือ จำนวนเดือนที่ควรลงุทนใน 1 ปี


เลข 10 คือ ระยะเวลาที่ต้องการลงทุน เช่น ลงทุน 10 ปี เพื่อให้เวลาเงินได้ทำงานออกดอกออกผล


เมื่อได้เลขชุดมงคลแล้ว ลองนำไปใช้ประโยชน์ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามระดับความเสี่ยงและสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง

money1

กองทุนรวม

การลงทุนกองทุนรวมมีให้เลือกหลากหลายประเภท ตั้งแต่ตราสารการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งผลตอบแทนก็ต่ำตามไปด้วย และตราสารที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งผลตอบแทนก็สูงตามไปด้วย สำหรับกองทุนรวมที่สร้างผลตอบแทนในระดับมากกว่า 5% มักเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารที่มีสินทรัพย์เสี่ยงปานกลางขึ้นไป เช่น กองทุนรวมหุ้น ที่มีการลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ 10 ปี (2553 – 2563) มีผลตอบแทนเฉลี่ย 6 - 8% ต่อปี ขณะที่กองทุนรวมผสม ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5 - 6% ต่อปี (ข้อมูลจาก Morningstar)


กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวม REITs และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

กองทุนรวมทั้ง 3 ประเภทนี้เป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความสามารถหรือสร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ หมายความว่าสามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอตามไปด้วย และที่ผ่านมาจะพบว่าตั้งแต่ปี 2552 – 2563 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวม REITs ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5% ต่อปี (ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

หุ้นรายตัว

ถ้าสนใจลงทุนหุ้นรายตัวและต้องการผลตอบแทนระดับ 5% ขึ้นไป ควรมองหาหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ดังนั้น ควรเลือกลงทุนหุ้นปันผล 1 – 2 ตัว จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าหุ้นไทยที่จ่ายปันผลติดต่อกัน 5 ปี (2559 – 2563) และมีอัตราเงินปันผลตอบแทน 5% ขึ้นไป มีให้เลือกลงทุนไม่ต่ำกว่า 50 ตัว (ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 1 มิถุนายน 2564)


ทองคำ

ทองคำเป็นช่องทางการลงทุนที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน โดยราคาทองคำในปี 2508 อยู่ที่บาทละ 416 บาท จนกระทั่งเคยแตะระดับประมาณ 30,000 บาทเมื่อปี 2563 แม้ว่าราคาทองคำจะค่อย ๆ ลดลงมาอยู่ที่ราว 24,000 บาทในเดือนมีนาคมปี 2564 แต่พบว่าตั้งแต่ปี 2508 - มีนาคม 2564 ทองคำสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 7.60% ต่อปี (ข้อมูลจากสมาคมค้าทองคำ)  


อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการลงทุนภายในเวลา 5 ปีก็เปลี่ยนเลขมงคลเป็น 5/12/5 โดยเลข 5 ตัวแรกยังคงเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี เลข 12 คือ จำนวนเดือน (1 ปี) และเลข 5 คือ ระยะเวลาลงทุน คือ 5 ปี (2559 – 2563) ซึ่งจากสถิติข้อมูลพบว่าการลงทุนระยะเวลา 5 ปี ก็มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนและสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีเกิน 5% เช่น ดัชนีผลตอบแทนโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 5.60%, ทองคำแท่ง ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 8.50%, ดัชนีผลตอบแทนโดยรวมของ S&P 500 (S&P 500 TRI) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 17.50% เป็นต้น


การผัดวันประกันพรุ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไม่ยอมลงมือทำอะไรจนกระทั่งนาทีสุดท้าย ซึ่งก็อาจจะ “สายเกินไป” ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการออม การลงทุน บางคนกว่าจะเริ่มลงมือทำก็เมื่อเริ่มเจียนตัว เงินเดือนออกก็ใช้เงินกันมือเติบเงินหมด แต่ถ้าหากมีเลขชุดมงคลเป็นของตัวเอง เช่น 5/12/10 หรือ 5/12/5 และสัญญากับตัวเองว่าจะมีวินัยเก็บออมแบบสม่ำเสมอ เชื่อว่าไม่นานเกินรอจะมีอิสรภาพทางการเงินอย่างแน่นอน