ส่องเทรนด์ไม้ด่าง ช่องทางหารายได้เสริมสไตล์สายกรีน

ในวันที่คนหันมาให้ความสนใจกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น ต้นไม้นับเป็นของประดับที่สร้างบรรยากาศความมีชีวิตชีวาให้พื้นที่ห้อง โดยเฉพาะไม้ใบฟอกอากาศที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ยิ่งประเภทพันธุ์ไม้ด่างหาได้ยาก ยิ่งเป็นที่หมายปอง ซื้อขายประมูลกันในราคาถึงหกหลัก หรือนับราคาขายกันใบละเป็นหมื่นๆ บาทเลยทีเดียว มาทำความรู้จักเรื่องราวของไม้ใบที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมตอนนี้ พร้อมวิธีเข้าวงการต้นไม้สำหรับมือใหม่


ความนิยมไม้ใบมาจากไหน


พันธุ์ไม้ใบที่มีชื่อเสียงท็อปในวงการ ก็คือสายพันธุ์ Philodendron ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบอเมริกาใต้ มีสายพันธุ์ย่อยอีกว่า 450 ชนิด ลักษณะเด่นอยู่ที่แต่ละชนิดมีใบรูปร่างสวยงามแปลกตา แตกต่างกันไป ด้วยความที่เป็นพันธุ์ไม้ที่ต้องการแสงน้อย จึงเหมาะจะเลี้ยงในที่ร่ม จึงนิยมนับมาใช้ประดับตามอาคารโรงแรมต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาเป็นที่นิยมมาก ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตโควิดที่ผู้คนต้องอยู่กับบ้านและต้นไม้ที่ปลูกในบ้านได้ก็คือไม้ใบ ทำให้เกิดกระแสความนิยมพันธุ์ไม้ชนิดนี้เป็นอย่างมาก  ในส่วนของความนิยมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากที่ตั้งของไทยเราอยู่ในเขตร้อนแนวเส้นศูนย์สูตรเช่นเดียวกับประเทศแถบอเมริกาใต้ จึงเหมาะที่จะปลูกเพาะพันธุ์ Philodendron ได้เช่นกัน ประกอบกับคนไทยเป็นชาติที่เชี่ยวชาญเรื่องการเกษตรอยู่แล้ว จึงปลูกขยายพันธ์ได้จำนวนมาก แล้วเมื่อมีความต้องการจากตลาดต่างประเทศ ก็ทำให้ไม้ใบมีราคาแพงขึ้น เป็นที่ต้องการซื้อหาแลกเปลี่ยนสะสมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้ใบด่าง ที่มีราคาสูงกว่าไม้ใบธรรมดาอย่างมาก

earn-money-from-variegated-plant-01

ทำไมไม้ด่างจึงราคาแพง


ไม้ด่างเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนด้อย ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับความสนใจ แต่เมื่อคนหันมาสนใจที่ความสวยแปลกตา จึงนำมาขยายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ได้รับความนิยมไม่เท่ากัน บางพันธุ์อย่าง Monstera Adansonii ที่เป็นหนึ่งในสายพันธุ์พลูฉลุ ถ้าเป็นแบบใบสีเขียวธรรมดาราคาไม่แพง  แต่ประเภทใบด่างราคาแพงมาก การที่ไม้ด่างราคาแพง เพราะต้องซื้อซื้อใบพันธุ์ด่างมาขยายพันธ์ด้วยวิธีตัดชำ เพาะเมล็ดไม่ค่อยได้ ทำให้ขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนได้ช้า ซัพพลายจึงมีน้อย ขณะที่มีความต้องการมาก ราคาจึงยังสูงอยู่ ทั้งนี้ สายพันธุ์ย่อย Philodendron ที่คนนิยม โดยเฉพาะประเภทใบด่าง ได้แก่ Monstera, Pink Princess, Floridabeauty (ฟิโลก้ามกุ้ง) , Burle Marx , Birkin, Monstera Thaicon ฯลฯ

แนะนำมือใหม่หันเล่นต้นไม้


สำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงต้นไม้มาก่อน ควรเริ่มต้นจาก Philodrendon สายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย ขยายพันธ์เร็ว ราคาไม่แพงมากหลักร้อยก่อน เช่น Syngonium podophyllum ชื่อภาษาไทยว่า “เงินไหลมา” หรือ Burle Marx ฯลฯ  พอเลี้ยงรอดก็จะมีกำลังใจเลี้ยงต่อ แล้วค่อยๆ หาความรู้ความชำนาญขยับมาเลี้ยงสายพันธุ์ที่ราคาสูงขึ้น แล้วอาจจะลองตัดชำขยายพันธุ์ขายเป็นรายได้เสริม ถ้าใครคิดอยากทำให้เป็นธุรกิจจริงจัง อาจจะทำในลักษณะการซื้อมาขายไป ซึ่งพันธุ์ไม้ที่นิยมในตลาดก็มีราคาตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ในการลงทุน


ในส่วนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงไม้ใบ นอกจากค่าต้นไม้ที่มีหลายระดับราคา ค่าใช้จ่ายหลักอื่นๆ ได้แก่ ค่าปุ๋ย ยาบำรุง กระถาง วัสดุปลูกที่ขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันเอาใจใส่ดูแล ซึ่งวัสดุปลูกพื้นฐานที่หาได้ไม่ยาก เช่น กากมะพร้าวสับ ดินก้ามปู ดินผสมมูลไส้เดือน ปุ๋ยหมักธรรมชาติ ไต่ระดับมาที่ดินพีตมอส เพอร์ไลท์ หินภูเขาไฟ (Pumice)  แร่หินเพอร์ไลต์ (Perlite) เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite) เปลือกสน เม็ดดินเผาปั้นไฮโดรตอน ดินคานูม่า ดินอะคาดามะ หินภูเขาไฟฮิวกะจากญี่ปุ่น สแฟ็กนั่มมอสนำเข้าจากชิลี เป็นต้น และเนื่องจากพันธุ์ไม้เหล่านี้ที่ต้องอยู่ในที่ร่ม กรณีที่เอาไว้นอกบ้านก็ต้องใช้สแลนมาขึงกันแดดหรือทำโรงเรือนอย่างเป็นกิจลักษณะเหมาะกับการดูแลรักษาพันธุ์ไม้มีราคาเหล่านี้


ถ้าสนใจธุรกิจไม้ด่างสร้างช่องทางเป็นรายได้เสริม บริการสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล Speedy Cash อนุมัติวงเงินให้คุณใช้เริ่มต้นโอกาสใหม่ คลิกที่นี่


ที่มา
https://www.facebook.com/Baanlaesuanbooks/posts/2108150425885697/
https://today.line.me/th/v2/article/9Lg6mV