วันนี้วิถีการทำงานยุคใหม่ได้เปลี่ยนไปแล้ว...ในยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมก้าวรุดหน้าไปอย่างมาก รูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและอำนวยความสะดวกมากขึ้น การวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงานเปลี่ยนไป การทำงานจากที่บ้านหรือที่เรียกกันหลากหลายชื่อไม่ว่าจะเป็น Work from home, Flexible workplace หรือ Remote working กำลังเป็นที่นิยมในองค์กรต่างๆ ทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และยังกลายเป็นความจำเป็นในภาวะวิกฤตในขณะนี้ด้วย บทความนี้เราจะแนะนำให้รู้จักกับอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่น ที่ช่วยให้การทำงานแบบ Remote working สื่อสารระหว่างกันอย่างไหลลื่นแบบไม่สะดุด แม้จะทำงานกันจากต่างที่ แอปที่ว่ามาจากแดนมังกรมีชื่อว่า “DingTalk”  มีความเจ๋งอย่างไร มาทำความรู้จักกัน

ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการเป็น “The best corporate messenger” แอปพลิเคชั่น DingTalk ถูกพัฒนาครั้งแรกในปี 2014 โดยยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีอย่าง Alibaba โดยเป็นแอปพลิเคชั่นที่รวมฟังก์ชั่นในการทำงานหลักๆ สำหรับองค์กรไว้อย่างครบครันในที่เดียว โดยสามารถแบ่งฟังก์ชั่นหลักๆ ได้ 4 ฟังก์ชั่น คือ
 

1. Communication & Collaboration รวมฟังก์ชั่นการสื่อสารการแชท สามารถแชทได้ทั้งแบบตัวต่อตัวหรือห้องแชทเป็นกลุ่มที่สามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้สูงสุดถึง 3,000 คน มีการเก็บ log การแชท การแชร์ไฟล์เอกสาร การประกาศข่าวสาร การส่งข้อความแจ้งเตือน (และจะไม่หยุดเตือนจนกว่าจะอ่าน) และการโทรศัพท์
   
   
2. Audio-video conference ซึ่งใช้งานได้ง่ายและสมบูรณ์แบบไม่ต่างจากแอปพลิเคชั่นดังอย่าง Zoom หรือ Microsoft Team
   
   
3. Corporate knowledge database ที่สามารถใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรได้ครบถ้วน เช่น โครงสร้างองค์กร ระบบการมอบหมายงานและติดตามงาน ปฏิทิน การเก็บและระบบการค้นหาข้อมูลพนักงาน ระบบการจองห้องประชุม การตรวจสอบการตอกบัตรเข้า-ออกงาน และเครื่องมือในด้าน HR ต่างๆ
   
   
4. Docsvision หรือระบบการอนุมัติเอกสารภายใน 

ตัวเลข ณ วันนี้ DingTalk มีผู้ใช้มากถึง 200 ล้านคนทั่วโลก มากกว่า Slack ซึ่งเป็นอีกแอปพลิเคชั่นดังจากแคนาดาที่มีฟังก์ชั่นและวัตถุประสงค์ในการทำงานคล้ายกัน โดย Slack มีผู้ใช้ประมาณ 12 ล้านคน จึงสามารถพูดได้ว่าตอนนี้ DingTalk นำ Slack ขาดรอยในเรื่องจำนวนผู้ใช้ รวมทั้งฟังก์ชั่นการทำงานที่ให้มากกว่า แม้ว่า DingTalk จะเป็นแอปพลิเคชั่นของจีนและยังใช้กันในจีนเป็นหลัก แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีบริษัททั้งในญี่ปุ่น อินเดีย และอีกหลายประเทศเริ่มใช้กันบ้างแล้ว โดยฟังก์ชั่นยอดนิยม คือ Ding message โดยนายจ้าง (หรือหัวหน้า) สามารถส่งข้อความไปหาลูกทีมได้ แต่ไม่ใช่แค่การส่งข้อความในบนแอปเพียงช่องทางเดียว แต่ยังรวมถึงทาง SMS และโทรศัพท์ แถมยังเช็คได้ว่ามีใครบ้างที่อ่านข้อความและใครบ้างที่ยังไม่ได้อ่าน โดยสามารถ ‘Ding’ ข้อความได้ถึง 1 หมื่นครั้งต่อวัน อีกฟังก์ชั่นที่เป็นที่ชื่นชอบขององค์กรคือ การตอกบัตรเวลาเข้า-ออกงาน ซึ่งก็เหมาะกับการทำงานที่บ้านอย่างมาก DingTalk จะเตือน เมื่อใกล้จะถึงเวลาเข้างาน พักเที่ยง และเลิกงาน แถมยังมีฟังก์ชั่นในการเบิกค่าล่วงเวลาอีกด้วย

นอกจากนี้ Dingtalk กำลังได้รับความนิยมในหมู่โรงเรียนที่ต้องเปลี่ยนมาทำการสอนออนไลน์ เพราะระบบสามารถรองรับ Video Conference ได้พร้อมกันถึง 300 คน พร้อมกับระบบการสอบและตัดเกรดออนไลน์ เรียกว่าล้ำมากจริงๆ

Alibaba เองไม่ได้มองแค่จะใช้ DingTalk แค่ภายในบริษัท แต่ตั้งใจทำมาเพื่อขายโดยเป็นแอปที่เรียกว่ามีฟังก์ชั่นครบจบพร้อมใช้งานสำหรับองค์กรทุกระดับ รวมทั้งยังสามารถทำ Custom made เฉพาะสำหรับแต่ละองค์กรได้อีกด้วย ต้องบอกว่าเป็นแอปที่น่าจับตามองและน่าลองใช้มากอีกตัวหนึ่งเพราะไม่ใช่ทำได้แค่เรื่องการสื่อสารหรือ Collaboration เท่านั้นแต่ยังรวมฟังก์ชั่นด้านการบริหารจัดการและด้าน HR ไว้จบแบบที่แอปคู่แข่งยังไม่มี สมกับสโลแกนที่ว่า An-All-in-one Mobile Workplace สามารถทำความรู้จักกับ DingTalk เพิ่มเติมได้ที่ https://www.dingtalk.com/en