ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เรียนรู้บทเรียนจากจีนในวิกฤตโควิด-19 : ชีวิตคนจีนหลังเปิดเมือง
ตอนที่ 2
จากบทความ “เรียนรู้บทเรียนจากจีนในวิกฤตโควิด-19 ตอนที่ 1 : ชีวิตคนจีนในช่วงปิดเมือง” ที่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากผู้ที่คร่ำหวอดในธุรกิจจีนมาหลายปี ทั้งบทเรียนตั้งแต่ก่อนโควิดจะเป็นวิกฤต จนมาถึงขั้นล็อกดาวน์ประเทศที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน รวมไปถึงพฤติกรรมและวิธีการปรับตัวของคนจีน ในตอนที่ 2 นี้ คุณมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจจีน ธนาคารไทยพาณิชย์ และ คุณธนมน สุธีรภาคย์ ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซี่ยงไฮ้ จะมาพูดถึงมาตรการของทางภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โอกาสของธุรกิจไทยหลังจากการปลดล็อกดาวน์ และบทเรียนที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จากวิกฤตโควิดที่จีนในครั้งนี้
ยาขนานแรกจากรัฐช่วยเยียวยาผู้ประกอบการ
ในช่วงที่เกิดวิกฤตภาคธุรกิจที่มักได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือกลุ่ม SMEs ที่จีนก็เช่นเดียวกันระบบเศรษฐกิจจีนส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการ SMEs คิดเป็นร้อยละ 60 ซึ่งตามปกติผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs มักมีกระแสเงินสดหมุนเวียนได้ไม่เกิน 3 เดือน ทางรัฐบาลจีนและรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละมณฑลจึงได้มีมาตรการเยียวยาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวตามความเหมาะสม โดยมีมาตรการหลักๆ ตั้งแต่เงินสนับสนุนกลุ่มผู้บริโภคให้มีกำลังซื้อในการจับจ่ายใช้สอยด้วยการโอนเงินเข้ากระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ การออกพันธบัตรกู้เงินจากสาธารณะเพื่อระดมทุนปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยต่ำ การใช้มาตรการทางการคลัง เช่น มาตรการทางภาษี การตัดและลดขั้นตอนในการยื่นขออนุญาตต่างๆ เป็นต้น และเมื่อเทียบเปรียบมาตรการเยียวยาในครั้งนี้กับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในมุมมองของคุณมาณพมองว่า ยาขนานแรกนี้ถือว่ารัฐบาลจีนยังไม่ได้ใช้ยาแรงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเพียงแค่การต่ออายุ เยียวยา และห้ามเลือดก่อนเท่านั้น ยังมียาขนานเอกที่ทางภาครัฐกำลังจะทำให้เกิดขึ้นเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถให้ระบบเศรษฐกิจในแดนมังกร
ยาขนานเอกอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบผ่าน Mega Project
วิถีแดนมังกรมักหาโอกาสจากวิกฤต อย่างในช่วงที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์รัฐบาลจีนหาโอกาสในครั้งนั้นด้วยการทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ ด้วยการสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ จนตอนนี้กลายเป็นผู้นำในเรื่องระบบรางสามารถส่งออกเทคโนโลยีไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก วิกฤตโควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน จีนได้มองหาโอกาสที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมโครงข่าย 5G เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลลงไปในระบบเศรษฐกิจ และยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการจะมีโครงการสร้างพื้นฐานแนวใหม่ โดยต้องรอดูจากประกาศนโยบายประชุมสภาประชาชนของจีนต่อไป ทั้งนี้ในเรื่อง 5G คุณมาณพมองว่า “5G ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความเร็วของอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการส่งผ่านข้อมูลที่ล้ำสมัย การสร้าง Users Experience ให้ลูกค้าเฉพาะจุดได้ดีมากขึ้น ทำให้ทุกธุรกิจในจีนต้องปรับตัวและมีการวางแผนงาน 5G ว่าจะต้องปรับกระบวนการอย่างไร และพอมี 5G ก็จะตามมาด้วย AI ซึ่งจีนตั้งเป้าหมายว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าจะต้องเป็นผู้นำในเรื่องนี้ให้ได้”
ในส่วนของคุณธนมนมองว่า การวางนโยบายของรัฐบาลจีนที่มีประสิทธิภาพช่วยผู้ประกอบการให้สามารถอยู่รอดได้ ทั้งการให้สินเชื่อ การทำการตลาดให้กับผู้ประกอบการขายสินค้า รวมถึงการเข้าไปดูแลพนักงานตามสถานประกอบการด้วยการคัดกรองตรวจหาเชื้อทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ในส่วนประชาชนรัฐได้ให้ความช่วยเหลือคนที่รายได้น้อย เช่น การปรับมาตรการเพิ่มความช่วยเหลือ การช่วยเกษตรกรขายผลผลิตทางการเกษตร หรือการปรับเบี้ยผู้สูงอายุ เป็นต้น และในช่วงที่เกิดโควิด-19 ได้กระตุ้นให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกประเทศ แน่นอนว่าที่จีนก็เช่นเดียวกัน เพราะประชากรส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการจ่ายและซื้อของผ่านออนไลน์ คุณธนมนยังมองอีกว่าจากวิกฤตครั้งนี้ยิ่งทำให้เกิดการเติบโตแบบก้าวกระโดดในกลุ่มธุรกิจ e-Commerce ผู้ประกอบธุรกิจต้องใช้ออนไลน์ในการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ผู้ที่มีความพร้อมและปรับตัวได้เร็วก็จะอยู่รอดได้
โอกาสธุรกิจไทยไปให้ไกลหลังโควิด
เมื่อทุกวิกฤตมีโอกาสแล้วผู้ประกอบการไทยควรมองหาโอกาสจากวิกฤตนี้อย่างไร คุณมาณพมองว่าโอกาสของธุรกิจไทยจากการที่จีนเปิดเมือง เรื่องแรกคือ การลงทุนจากจีน หรือ FDI ปีที่ผ่านมานักลงทุนจีนลงทุนที่ไทยสูงเป็นอันดับ 1 คาดว่าหลังจากโควิดและสืบเนื่องจากสงครามการค้าทำให้จีนมองหาการกระจายฐานการผลิตในประเทศต่างๆ และไทยนับเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงทั้งด้านภูมิศาสตร์และการรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนจากจีนจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจีนมีความตั้งใจที่จะลงทุน และยังมีการหาช่องทางการลงทุนเพิ่มขึ้นในไทย เรื่องที่สอง นักท่องเที่ยวจากจีน ถ้าหากไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้และกลับคืนสู่ภาวะปกติ ไทยยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวจีนอยากมาเที่ยว ดังนั้นภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยต้องเตรียมพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวจีนกลับมาอีกครั้ง ในเรื่องการปรับมาตรฐานด้านสุขอนามัย และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนไป เรื่องที่สาม โอกาสขายสินค้าไทยในจีน ไทยมีจุดแข็งในเรื่องสินค้าการเกษตรอาหารแปรรูป ยิ่งในช่วงนี้เป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะหาช่องทางขายของออนไลน์ในจีนให้มากขึ้นเพราะผู้บริโภคจีนใช้ออนไลน์เพิ่มขึ้น และไทยยังมีจุดแข็งเรื่องสุขภาพ นักธุรกิจไทยควรมองหาโอกาสลงทุนในกลุ่ม Health Tech ซึ่งกำลังมาแรงในจีนและได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ
คุณมาณพยังเสริมอีกว่านอกจากการส่งออกสินค้าพวกอาหารในจีนแล้ว ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคจีนที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ เช่น สินค้าแม่และเด็ก, แฟชั่น , เครื่องใช้ประจำวัน เป็นต้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องปรับตัวและหาโอกาสจากวิกฤตในครั้งนี้
บทเรียนจากแดนมังกร
จากวิกฤตโควิดในจีนได้เรียนรู้อะไรบ้าง คุณธนมนมองว่าเท่าที่เห็นคนส่วนใหญ่จะไม่เดือนร้อนแม้จะต้องหยุดงานไม่ได้รับเงินเดือน เพราะคนจีนได้รับการปลูกฝังวัฒนธรรมเรื่องการออมมาตั้งแต่เด็ก พอเกิดวิกฤตจึงทำให้คนจีนไม่ได้รับผลกระทบหรือขาดเงินใช้ยามฉุกเฉิน นอกจากนี้จีนยังมีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้ง Cashless Society การใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์ทั้งจาก Alipay , We Chat Pay ในการ Tracking และภาครัฐยังมีมาตรการช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความเป็นนักสู้ของคนจีนทำให้จีนฟื้นตัวได้รวดเร็ว ขณะที่คุณมาณพมีความเห็นว่าหลังจากวิกฤตโควิด-19 สิ้นสุดลง จีนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในเวทีโลกมากขึ้นในทุกมิติ ดังนั้นผู้ประกอบการไทย ควรติดตามตลาดจีนอย่างใกล้ชิดเพราะจีนจะมีอิทธิพลและส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจในไทยอย่างมีนัยสำคัญ
จากการที่จีนเป็นประเทศแรกที่เจอกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกได้มองเห็นศักยภาพ ความพร้อมในการรับมือกับวิกฤตที่แสนยากลำบาก มีผู้นำที่เข้มแข็งพร้อมนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้จีนได้รับการยอมรับจากนานาชาติและจะกลายเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกต่อไป ในส่วนของไทยสามารถนำบทเรียนจากจีนมาใช้ได้ทั้งในแง่ของภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้ทันกับ New Normal ของคนในสังคม รวมถึงไปวัฒนธรรมการออม การมีวินัยทางการเงิน ความเป็นนักสู้ของคนจีนที่ถูกปลูกฝังหยั่งรากลึกมาช้านานจนทำให้ไม่ว่าจะเจอกับวิกฤตหนักหนาสักกี่ครั้ง มังกรจีนตัวนี้ก็ยังสามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้อีกเสมอ
ที่มา : SCBTV ชีวิตคนจีนหลังเปิดเมือง บทเรียนจากประเทศจีน รายงานสดตรงจาก SCB Shanghai ทาง Facebook SCB Thailand วันที่ 5 พฤษภาคม 2563