ในยุค New Normal การช้อปปิ้งออนไลน์หรือ e-commerce ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ร้านค้า ซุปเปอร์มาเก็ตหรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่เป็น Physical store ต้องปรับตัวให้ทันโดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่และทำให้การจับจ่ายซื้อของของลูกค้าสะดวก ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในโลกยุคดิจิทัลได้

ตัวอย่างในการปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าในซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งที่จังหวัด Chiba จังหวัดที่อยู่ติดกับกรุงโตเกียว ซุปเปอร์มาเก็ตนี้ได้นำ smart shopping cart หรือรถเข็นอัจฉริยะเข้ามาใช้ โดยเจ้ารถเข็นอัจฉริยะนี้จะมีหน้าจอมอนิเตอร์และตัวอ่านบาร์โค้ด รวมทั้งเชื่อมต่อกับระบบ prepaid card  ลูกค้าสามารถเช็คราคาสินค้าก่อนหย่อนลงตะกร้า สินค้าที่ใส่ลงตะกร้าจะแสดงรายการบนหน้าจอ ซึ่งทำให้ผู้ซื้อสามารถทราบยอดรวมราคาสินค้าที่อยู่ในรถเข็นได้ตลอดเวลาว่ายอดรวมเกินงบประมาณที่ตั้งไว้หรือไม่ ถ้าไม่ต้องการสินค้าตัวไหนแค่หยิบออกจากรถเข็นระบบก็จะจัดการลบรายการนั้นออกทันที นอกจากนี้ยังนำเอาระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละราย เพื่อสามารถแนะนำสินค้าอื่นๆ ที่ลูกค้ารายนั้นๆ น่าจะสนใจควบคู่กันขึ้นที่หน้าจอ ในซุปเปอร์มาเก็ตยังมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก เพื่อตรวจสอบว่าสินค้าในเชลฟ์ไหนขาดไปทำให้สามารถเติมสินค้าได้ทันท่วงที รวมทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าว่าสามารถหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายหรือยากอย่างไร เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าเสร็จก็สามารถเดินออกจากร้านได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเข้าคิวรอแคชเชียร์เพื่อชำระเงิน ไม่ต้องมีการสัมผัสหรือใช้เงินสดหรือแม้กระทั่งบัตรเครดิต โดยยอดซื้อจะตัดจากบัตร prepaid ในทันที ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์โควิดในปัจจุบันที่ผู้คนต้องการสัมผัสเงินหรือติดต่อกับคนอื่นให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงหากติดเชื้อโควิด

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ smart shopping cart ของ Amazon ที่ชื่อว่า Dash Cart ซึ่งรถเข็นอัจฉริยะนี้จะมีหน้าจอ touch screen  ที่มีเซ็นเซอร์ กล้องถ่ายรูปและระบบอัลกอริทึ่ม ที่สามารถบอกได้ว่าสินค้าที่ถูกเลือกใส่ลงในรถเข็นคือสินค้าอะไร รวมทั้งบอกราคาได้เสร็จสรรพ ผู้ซื้อสามารถเห็นราคาสินค้าในแต่ละไอเท็มและราคารวมได้เลย ในการเริ่มใช้งานรถเข็นอัจฉริยะเมื่อมีรถเข็นว่างอยู่ระบบจะส่ง OR code เข้าไปที่ Amazon app ผู้ที่ต้องการใช้งานเพียงแค่ sing in และเริ่มใช้งานได้เลยระบบจะทำการเชื่อมต่อบัญชี Amazon และบัตรเครดิตเข้ากับ Dash Cart   รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อกับ Alexa เพื่อดูช้อปปิ้งลิสต์ นอกจากนั้นยังสามารถสแกนคูปองส่วนลดได้ด้วยถ้ามี เมื่อช้อปปิ้งเสร็จก็ไม่ต้องเข้าแถวจ่ายเงินกับแคชเชียร์ให้เสียเวลา โดยระบบจะตัดเงินผ่านบัตรเครดิตที่ผูกกับบัญชีของ Amazon ได้ทันที และระบบจะส่งใบเสร็จรับเงินให้ทางอีเมล เป็นระบบที่เรียกว่า Just Walk Out ซื้อของเสร็จแล้วออกมาได้เลยไม่ต้องติดต่อหรือสัมผัสกับใคร โดยเจ้า Dash Cart นี้ได้นำไปใช้จริงแล้วที่ ซุปเปอร์มาเก็ต Amazon's Woodland Hills ในรัฐ California

จะเห็นว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในโลกยุค New Normal ที่คนต่างหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเงินโดยตรง รวมทั้งการติดต่อสัมผัสกับคนอื่นให้น้อยที่สุดอันเนื่องจากความกังวลด้านสุขอนามัย ส่วนในโลกของการเงินก็แสนจะสะดวกสบาย ทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยไม่ต้องเดินทางไปสาขา ไม่ต้องสัมผัสเงินสด SCB EASY App ให้ลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา ในทุกรูปแบบไม่ว่าโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ จ่ายบิลค่าบัตรเครดิตและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ชำระสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ แลกของรางวัลจากคะแนนในบัตรเครดิต ขอสินเชื่อ สมัครบัตรเครดิต เปิดบัญชีธนาคารรวมไปถึงการลงทุนและการซื้อประกัน ชีวิตสะดวก สบาย ง่าย ปลอดภัยในแอปเดียว

ข้อมูล

https://www.forbes.com/sites/lanabandoim/2020/07/17/amazons-new-smart-shopping-cart-is-pushing-cashierless-checkout-in-physical-stores/?sh=2e4a22d75e11

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/tv/bizstream/20201212/2074088/?cid=wohk-fb-org_site_bs_tt-202012-001&fbclid=IwAR0D5PeYJWf3NLMzt0vsSrpXoaMVj5HrJhRWjspyU8CaSUz8QxJrxsbUsU0