ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ทำไมโลกยุคนี้ ยิ่งแชร์ยิ่งได้
นิยามของโลกธุรกิจที่เคยได้ยิน คือการขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน แต่เมื่อสังคมเปลี่ยน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท แม้จะยังต้องแข่งขัน แต่การหันมารับฟังและแบ่งปันกับเพื่อนร่วมธุรกิจ กลับเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์มากกว่าการฟาดฟันสถานเดียว เราจึงเห็นการจับมือเป็นพันธมิตรสร้างการเติบโตด้วยกันมากขึ้น เพราะการสู้รบคนเดียวในยุคนี้ เชื่อไหมว่ามีโอกาส “แพ้มากกว่าชนะ"
1. เปลี่ยนด้านลบเป็นด้านบวก
ปรับมุมมองตัวเองใหม่ เปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร จึงไม่แปลกที่เราเห็นความร่วมมือทางธุรกิจ (Collaboration) ระหว่างแบรนด์ดังมากขึ้น แม้กระทั่งธุรกิจข้ามอุตสาหกรรมก็ดึงจุดแข็งของแต่ละคนมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ และยิ่งดีกว่าการคิดโดยลำพังเสียอีก เพราะโลกนี้ไม่มีใคร Super Productive ได้หลายอย่างในเวลาเดียว
2. โลกหมุนไว ต้องใช้แรงหนุนจากเพื่อนช่วยไล่ตาม
ธุรกิจปัจจุบันต้องคอยอัพเดทติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไวฉับไว หลายคนตามไม่ทันก็กลายเป็นล้าหลังตกขอบไปโดยปริยาย สิ่งนี้แก้ไขได้ด้วยการการเปิดใจรับฟังเรื่องราวดีๆ จากเพื่อนร่วมธุรกิจที่มีการแบ่งปันหรือสื่อสารออกมาเป็นระยะ หรือหากเรามีประสบการณ์บางอย่างที่มีค่าก็ควรบอกเล่า เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่อาจสานสัมพันธ์กันต่อได้ในอนาคต ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คนรู้ช่วยคนไม่รู้ องค์กรใหญ่ช่วยองค์กรเล็ก คนมีช่วยคนไม่มี วันหนึ่งที่คุณก้าวไม่ทันหรือพลาดพลั้ง ก็อาจมีเพื่อนช่วยประคับประคองขึ้นมา
3. ยิ่งแบ่งปันข้อมูลการทำงานระหว่างกันในองค์กร.. ยิ่งได้
เราไม่อาจเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันของมนุษย์ระหว่างทำงาน แต่การได้แชร์ความคิดเห็น ปัญหา หรือความในใจที่มีต่อกัน เหมือนได้ปิดเกมคาใจกันในที่ประชุม จะเป็นรูปแบบการทำงานที่ดีและสร้างประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหมาะกับการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ที่เน้นการสื่อสารตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม เพียงแต่ต้องสร้างวัฒนธรรมการรับฟังที่เข้มแข็ง และต่อยอดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกจริงๆ
4. เปิดกว้างให้ผู้อื่นถือกระจกสะท้อนตัวเรา
วัฒนธรรมหนึ่งของธุรกิจสตาร์ทอัพที่น่าจะเป็นแบบอย่างได้ดี คือการเชิญชวนคนที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวด้านไหนด้านหนึ่งมาแลกเปลี่ยนให้ทีมงานฟังด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง เพราะการแบ่งปันประสบการณ์และแนวความคิดของผู้ที่เคยลองถูกลองผิดมาก่อน เป็นการเรียนทางลัดที่ดีของผู้ที่กำลังเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ จากนั้น คนทำงานก็ร่วมกันแบ่งปันความคิด คัดกรองมูลเหตุและคิดค้นวิธีการจัดการปัญหา พร้อมแชร์สิ่งที่บริษัทหรือทีมงานกำลังเผชิญอยู่ไว้เป็นบทเรียนใหม่ๆ สุดท้ายรอบวงการสนทนานั้น ทุกคนจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
5. ยิ่งให้ ยิ่งได้ ยิ่งมีความสุข
ทุกโลกการแข่งขันที่ดุเดือด เรามักเห็น “ผู้ให้” ที่โดดเด่นและยังประสบความสำเร็จในธุรกิจของตัวเองเสมอ เพราะผู้ที่เป็นอาสาสมัคร มักมาจากการเห็นคุณค่าในตัวเอง (self-esteem) มากกว่าคนทั่วไป มีสุขภาพจิตดี มีความสุขจากที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น และพร้อมส่งต่อพลังบวกจากการได้ลงมือช่วยเหลือผู้คนในวงกว้าง วันนี้ถ้าลองเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ให้ดูบ้าง พร้อมแบ่งปันให้ผู้อื่นก่อน อาจนำมาซึ่งการสร้างรอยยิ้มในใจตัวเอง และช่วยก่อร่างมิตรภาพที่ยั่งยืนกลับมาในแบบที่ไม่เคยสัมผัสอีกด้วย
คำกล่าวที่ว่า “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย” สร้างความสำเร็จจริงได้ในโลกธุรกิจ โดยเฉพาะกับโลกปัจจุบันที่มีการแข่งขันที่สูงปรี๊ด การมีเพื่อนคู่คิดคอยแลกเปลี่ยนสิ่งดีๆ ร่วมกัน จะทำให้เราอยู่บนโลกธุรกิจนี้ได้โดยไม่โดดเดี่ยวเหงาหงอยจนเกินไป
ที่มา
https://www.thumbsup.in.th/collaboration-brand
https://www.prachachat.net/prachachat-hilight/news-385701
https://thematter.co/brandedcontent/the-more-you-give-the-more-you-receive/48191
https://www.facebook.com/The-Case-Study-100949748263522
https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/jigsawforgoodlife-ep11