น้ำมันสกัดจากธรรมชาติเพื่อบำรุงผิวหน้าตามสภาพผิว

ผิวพรรณเปรียบเสมือนอาภรณ์ของเรือนร่าง และยิ่งผิวหน้าด้วยแล้วยิ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดที่จะสะท้อนความงามและความอ่อนเยาว์ ดังนั้นการปรนนิบัติบำรุงผิวหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งกิจวัตรที่ทั้งหญิงและชายต่างให้ความสำคัญ หลายคนลงทุนซื้อครีมบำรุงผิวราคาแพงเป็นหลักพันหลักหมื่นเพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิวหน้า แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ 100% ก็เป็นอีกตัวเลือกแสนพิเศษในการใช้ปกป้องความชุ่มชื่น สร้างความผ่องใสให้กับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี แถมปลอดภัยจากสารเคมีเพราะสกัดมาจากธรรมชาติ 100% ที่สำคัญราคาถูกกว่าครีมบำรุงผิวยี่ห้อดังๆ มากมาย แต่หลายคนกลัวและคิดไปเองว่าการใช้น้ำมันบำรุงผิวจะทำให้ผิวหน้ามันเกินไปหรือก่อให้เกิดสิว จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ถ้าใช้น้ำมันที่เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยลดความมันและลดการอุดตันของรูขุมขนที่ทำให้เกิดสิวเสียด้วยซ้ำ วันนี้เรามีออยล์หรือน้ำมันบำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิวมาฝากกัน


ผิวมัน

โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) เป็นออยล์ที่มีเนื้อบางเบา มีคุณสมบัติในการลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้าในขณะที่ให้ความชุ่มชื่น สร้างสมดุลให้ผิวหน้าไปพร้อมๆกัน

น้ำมันจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) เป็นออยล์ที่เหมาะกับผู้มีผิวมันเป็นอย่างมาก เพราะมีสารช่วยลดการผลิตน้ำมันของผิว จึงลดความมันของผิวได้ดีมาก ปรับผิวให้กลับมาสมดุลโดยไม่ต้องกลัวว่าผิวจะมัน มีความบางเบากว่าโจโจ้บาออยล์


ผิวแห้ง

น้ำมันอัลมอนด์ (Almond Oil) เป็นออยล์ที่ให้ความชุ่มชื่นสูงแต่อ่อนโยนต่อผิวแห้งที่บอบบางเหมาะกับคนที่ผิวแห้งถึงแห้งมาก นอกจากนั้นยังมีวิตามิน A สูง ซึ่งวิตามิน A เป็นสารตั้งต้นของเรตินอลซึ่งสามารถลดริ้วรอยเล็กๆได้ดี

น้ำมันมาลูร่า (Marula Oil) เป็นน้ำมันที่ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วโดยการนวดเบาๆ ที่ผิว เนื่องจากมีความชุ่มชื่นที่เข้มข้นจึงช่วยปกป้องผิวจากการขาดน้ำได้ดีและรักษาความชุ่มชื่นของผิวได้ตลอดวัน

oil

ผิวที่เป็นสิว

น้ำมันจากเมล็ดทับทิม (Pomegranate Oil) มีฤทธิป้องกันแบคทีเรียตามธรรมชาติ จึงช่วยลดแบคทีเรียในรูขุมขนและป้องกันการอักเสบของสิวและผิวหน้า นอกจากนั้นยังเป็นน้ำมันที่บางเบาไม่ก่อการอุดตัน

น้ำมันโรสฮิพ (Rosehip Oil) เหมาะมากกับผิวที่มีสิวอักเสบ มีผื่นแดง น้ำมันโรสฮิพให้ความชุ่มชื่นต่อผิวในระดับลึกแต่ไม่อุดตันรูขุมขน ช่วยลดสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว มีผู้เคยทดลองใช้น้ำมันโรสฮิพติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และพบว่าสามารถลดสิวบนใบหน้าได้เกลี้ยงเกลาจริงๆ


ผิวธรรมดา

น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) หลายคนเรียกน้ำมันอาร์แกนว่าเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ป้องกันน้ำมันระเหยออกจากผิว และดูดซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว มีส่วนผสมของวิตามิน E ในปริมาณที่สูง มีสารต้นอนุมูลอิสระ ที่ปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากมลภาวะ ทั้งจุดด่างดำต่างๆ ริ้วรอยเล็กๆ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นอย่างอ่อนโยน

น้ำมันเรตินอล (Retinol Oils) ช่วยให้ผิวเนียนเรียบ สว่างสดใส ลดริ้วรอยเล็กๆ ให้ความชุ่มชื่นต่อผิว แต่ไม่ระคายเคือง แนะนำให้ใช้เวลากลางคืนหลังจากทามอยเจอร์ไรเซอร์


ผิวบอบบาง

น้ำมันมะรุม (Moringa Oil) เป็นน้ำมันที่อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคียง และมีน้ำมันในปริมาณที่พอเหมาะช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นบนผิวได้ดี ลดการระคายเคือง เป็นน้ำมันที่มีความบางเบาแต่ให้ความชุ่มชื่นพอเหมาะสำหรับผิว สามารถใช้ก่อนการแต่งหน้าได้โดยไม่ทำให้หน้ามัน

น้ำมันจากว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Oil) อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และสารช่วยลดความระคายเคือง รวมทั้งมีสารที่ช่วยลดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ดังนั้นน้ำมันตัวนี้จะเหมาะกับผิวที่บอบบางและเป็นสิว


เห็นมั้ยว่าเราสามารถสร้างผิวสวยได้ด้วยน้ำมันสกัดจากธรรมชาติแต่ออยล์ต่างๆ เหล่านี้ไม่ใช่ยาผีบอกที่ทาแล้วจะแก้ปัญหาได้ทันที โดยเฉพาะถ้าใครมีปัญหาผิวที่หนักหนา เช่น ความหย่อนคล้อย ริ้วลอยที่ลึก ถ้าถึงขั้นนั้นแล้วอยากสวยเร็วทันใจคงต้องใช้เทคโนโลยีความงามต่างๆ จากคลินิกเสริมความงามเป็นตัวช่วย


อยากสวยไว SCB มีตัวช่วยกับ สินเชื่อ UP สนใจสมัครได้ที่ SCB EASY App หรือธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/up.html