รวมข้อดีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ที่ใช่ สำหรับคนใส่ใจโลก

           อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาโลกร้อนและมลภาวะในอากาศใช่มั้ย? ถ้าใช่รถคันใหม่ของคุณต้องนี่เลย รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สงสารโลก สงสารเรา ปัจจุบันปัญหามลภาวะทวีความรุ่นแรงมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะโลกร้อนที่เป็นวาระระดับโลกและปัญหาฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ที่บั่นทอนสุขภาพจนถึงขั้นเป็นมะเร็งได้เลย และหนึ่งในตัวการหลักที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศก็คือควันจากท่อไอเสียรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงนั่นเอง


           แม้สิ่งนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของโลกเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 1900 แล้ว แต่เพิ่งเริ่มได้รับความสนใจและพัฒนาอย่างจริงจังในช่วงศตวรรษที่ 21 หรือในยุคปัจจุบันนี่เอง เพราะทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลโลกใบนี้ให้สะอาดและน่าอยู่ขึ้น


           รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคือรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Electric Vehicle หรือเรียกสั้นๆ ว่า EV เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์โดยใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบอื่นๆ และด้วยข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดได้ทันทีทำให้รถชนิดนี้มีอัตราเร่งที่เรียบและเร็ว และเหนือกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันรวมถึงการลดมลภาวะทางอากาศเพราะไม่ปล่อยควันพิษมาจากท่อไอเสีย นอกเหนือจากเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้วรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังมีข้อดีอื่นๆ อีกดังนี้

1. ความเงียบและอัตราเร่งที่ได้ดั่งใจ

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อทำการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงของการทำงานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นเงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และสามารถทำให้มีอัตราเร่งเป็นอย่างที่ใจต้องการ เพราะไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์อีกต่อไป จึงทำให้สามารถตอบสนองในการขับขี่ได้ตามความต้องการของผู้ขับ


2. ประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมบำรุง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะช่วยคุณประหยัดเงินค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง เพราะใช้พลังงานไฟฟ้ามาแทนที่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูง เช่นเดียวกันกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่า เพราะไม่มีเครื่องยนต์และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จึงทำให้การดูแลไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรมีประกันรถ EV ไว้ในกรณีฉุกเฉินหรือเสียหายจากอุบัติเหตุ

 
3. ไม่ต้องเสียเวลาไปปั๊มน้ำมันเพราะสามารถชาร์จแบตได้ที่บ้าน

การต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัญหากวนใจหลายคน แต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น สามารถชาร์จแบตได้ที่บ้าน ซึ่งสามารถชาร์จได้ระหว่างที่นอนหลับ เมื่อตื่นเช้ามารถก็จะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียเวลาที่สถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป

ด้วยข้อดีเหล่านี้ จึงทำให้รัฐบาลหลายๆ ประเทศ ต่างพากันสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ จีน เยอรมนี อังกฤษ หรือญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศที่มีผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่และพยายามที่จะผลักดันนโยบายให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตที่ทั้งโลกหันมาใช้ และสำหรับประเทศไทยนั้นก็มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว เช่น การติดตั้งจุดชาร์จไฟสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

           การชาร์จรถพลังงานไฟฟ้ามีทั้งการชาร์จแบบเร็ว QUICK CHARGER ด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จาก 0%-80% ได้ในเวลาประมาณ 40-60 นาที เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน  แบบที่ 2 การชาร์จแบบธรรมดา แบบ DOUBLE SPEED CHARGE (เครื่องชาร์จ WALL BOX) โดยชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charging) เช่น ตู้ชาร์จติดผนังติดตั้งที่บ้านหรือตามห้างสรรพสินค้า ระยะเวลาการชาร์จจะลดลง อยู่ที่ประมาณ 4-7 ชั่วโมง โดยการชาร์จด้วยตู้ชาร์จติดผนังสามารถชาร์จได้รวดเร็วกว่าการต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง และสุดท้ายการชาร์จแบบธรรมดา NORMAL CHARGE ซึ่งจะชาร์จไฟจากการต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง มิเตอร์ไฟของบ้านต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าขั้นต่ำ 15(45)A และเต้ารับไฟในบ้านต้องได้รับการติดตั้งใหม่ เป็นเต้ารับเฉพาะการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า  เนื่องจากการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่สามารถใช้เต้ารับแบบธรรมดาได้ การชาร์จในลักษณะนี้มักจะเป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ จึงใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 12-15 ชั่วโมง

 

           ในอนาคตการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะสะดวกและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเทคโนโลยีการชาร์จในปัจจุบันสามารถติดตั้งตู้ชาร์จได้ที่บ้าน  อีกทั้งสถานีบริการพลังงานไฟฟ้าของผู้ให้บริการต่างๆ ก็มีแผนจะทำจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นและสามารถเติมพลังงานได้ทุกที่ที่ต้องการ

          เห็นข้อดีของรถ EV กันมาแล้ว หลายๆ คนคงอยากจะถอยมาเป็นเจ้าของสักคัน เพื่อมีส่วนในการรักษ์โลก และคุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ เพราะตอนนี้ในไทยมีรถพลังงานไฟฟ้าจำหน่ายแล้วหลายรุ่น หลายค่าย ไล่ไปตั้งแต่ MG ZS EV รถ SUV จากค่ายเอ็มจี ราคาอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท,  Nissan Leaf จากค่ายนิสสัน ซึ่งเป็นรถนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น ราคา 1.99 ล้านบาท,  FOMM ONE เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด แต่สามารถรองรับที่นั่งได้ถึง 4 ที่นั่ง  ราคา 664,000 บาท,  Audi e-tron จากค่ายอาวดี้ ราคาประมาณ 5 ล้านบาท, Jaguar I-PACE จากค่ายจากัวร์ สนนราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5.4 บาท,  BYD E6 รถยนต์นำเข้าจากจีน ราคา 1.89 ล้านบาท,  Hyundai Ioniq Electric จากค่ายฮุนได นำเข้าทั้งคัน ราคา 1.75 บาท,  Kia Soul EV รถสไตล์ครอสโอเวอร์ทรงกล่อง 5 ที่นั่ง  ราคา 2.3 ล้านบาท และแบรนด์รถสปอร์ตสุดหรูอย่าง Porsche Taycan ราคา  6.99 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563)


        จะเห็นว่าราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรายังมีราคาที่ค่อนข้างสูง ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตรัฐบาลจะให้การสนับสนุนรถยนต์ประเภทนี้เพื่อให้ราคาอยู่ในระดับจับต้องได้มากขึ้น แต่ถ้าใครไม่อยากรออยากจะเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตอนนี้สักคัน SCB พร้อมสนับสนุนให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดโลกร้อน ด้วยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ที่ให้วงเงินสูง และผ่อนได้นานสูงสุดถึง 84 เดือน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและลองคำนวณอัตราการผ่อนชำระรายเดือนได้ที่ https://car.scb/new-car


อ้างอิง

https://www.autospinn.com/2020/01/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F-%E0%B8%B2-ev-76408

https://www.nissan.co.th/experience-nissan/e-power-technology/education.html?cid=sem_p02f_keyword-generic_always-on_education