อิสรภาพทางการเงินเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน และต้องการคว้าเอาไว้ให้เร็วที่สุด เพื่อการก้าวสู่ชีวิตที่ต้องการอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่เรารัก ใช้เวลาพักผ่อนตามใจปรารถนา ไม่ต้องกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย และสามารถมีความสุขตามที่เราเลือกได้ โดยปราศจากข้อจำกัดใด ๆ ดังนั้น ลองมาดูกันว่า มีสัญญาณอะไรบ้างที่แสดงว่าเราเข้าใกล้คำว่าอิสรภาพทางการเงินบ้าง

ชีวิตปลอดหนี้ มีเงินสะสมใกล้ถึงเป้าหมาย

หลายคนคงเคยเป็นหนี้กันมาบ้าง ทั้งหนี้จากการซื้อทรัพย์สินแบบผ่อนชำระ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถ หรือหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ไม่ว่าเราจะเคยประสบปัญหาการเป็นหนี้แบบไหนมา แต่หากวันหนึ่งพบว่า เราสามารถบริหารจัดการเรื่องเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถปลดหนี้ได้แล้ว ทรัพย์สินที่เคยผ่อนชำระรายเดือนเริ่มทยอยผ่อนหมดจนเป็นเจ้าของได้อย่างเต็มตัว และเข้าสู่ภาวะการปลอดหนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องการผ่อนชำระในแต่ละเดือน ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการก้าวเข้าสู่อิสรภาพทางการเงินได้ตามที่ฝันไว้ นอกจากนี้ เราควรคำนวณการใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ ว่าในแต่ละเดือนต้องใช้เงินเท่าไหร่  รวมแล้วถ้าอยากมีอิสรภาพทางการเงินต้องมีเงินก้อนทั้งหมดเท่าไหร่ เมื่อเรามีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน และคอยประเมินอย่างต่อเนื่องจนพบว่าเงินเก็บทั้งจากการออมและการลงทุนที่มีใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว นั่นเท่ากับว่าเราเข้าใกล้อิสรภาพทางการเงินมากขึ้น

มี Passive  Income สร้างรายได้ แม้ไม่ทำงาน

หากจะพูดถึงเรื่องอิสรภาพการเงิน นอกจากการปลอดหนี้สินแล้ว เราต้องมีเงินไว้สำหรับใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอตลอดชีวิต ซึ่งอีกหนึ่งหนทางในการสร้างรายได้ให้งอกเงย แม้เราจะไม่ได้ทำงานแล้วก็คือ การสร้าง Passive Income ซึ่งสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือน และเพียงพอต่อการใช้ชีวิตตามแผนที่วางไว้ รวมถึงสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ทั้งนี้ หากเราสร้าง Passive Income จากการลงทุนในตราสารหนี้ กองทุน หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ ก็จะทำให้เงินทำงานสร้างความงอกเงยได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล ที่แค่เราทำงานให้สำเร็จเพียงครั้งเดียว ก็สามารถสร้างรายได้ได้อย่างไม่รู้จบ เช่น การทำคอร์สออนไลน์ขายความรู้เฉพาะทางต่าง ๆ  การขายไฟล์ภาพดิจิทัล การทำ Ebook เป็นต้น หากเราเริ่มเห็นรายได้จากการสร้าง Passive Income อย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน นอกจากนี้ ยังสะสมจนสามารถใช้ชีวิตไปได้ตลอดแม้ไม่ต้องทำงาน นี่คือสัญญาณการเริ่มมีอิสรภาพทางการเงินของเราแล้ว

มีแผนสำรอง พร้อมรับมือความเสี่ยงรอบด้าน

ในชีวิตเรามักเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น โดยเราไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็น การเจ็บป่วย ทุพพลภาพกะทันหัน อุบัติเหตุ  เกิดภัยพิบัติทำให้บ้านพังเสียหาย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว หลายครั้งที่เราต้องใช้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ดังนั้น หากเรามีแผนสำรองในการรับมือกับความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น เงินสำรองฉุกเฉินที่มีสภาพคล่อง หรือประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัยต่าง ๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัยบ้าน หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ความคุ้มครองของประกันที่เราทำเอาไว้ ก็จะทำหน้าที่ชดเชยค่าเสียหาย หรือจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนเรา ทำให้ลดปัญหาการเงินที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งหากเราใกล้จะมีอิสรภาพการเงินแล้ว แต่ลืมเตรียมแผนสำรองเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอาจทำให้เรากลายเป็นหนี้สิน และหนทางการสร้างอิสรภาพทางการเงินในชีวิตจะยิ่งห่างไกลมากยิ่งขึ้นไปอีก

ออกแบบชีวิตได้ตามฝัน ไร้ข้อจำกัดเรื่องเงิน

เราคงเคยได้ยินหลายคนบ่นว่าทุกวันนี้ทำงานเพื่อเงิน ไม่ได้รักในงานที่ทำอยู่ แต่ต้องการนำเงินที่ได้จากการทำงานมาใช้จ่าย แต่หากวันนึงเราสามารถปลดล็อกตัวเองออกจากงานที่ต้องทำเพราะความจำเป็นในชีวิตได้ และเลือกออกแบบชีวิตที่ต้องการโดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องเงินเป็นหลัก เปลี่ยนไปทำงานที่ตัวเองรัก และกล้าก้าวออกจากข้อจำกัดต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน สามารถเลือกทำงานที่ฝันและมีความสุข กับชีวิตที่เราต้องการได้เต็มร้อย โดยไม่มีปัญหาความเดือดร้อนใด ๆ เพราะมีความมั่นคงทางการเงินเพียงพอแล้ว นี่แหละคืออิสรภาพของชีวิต ที่เป็นผลของการมีอิสรภาพทางการเงินนั่นเอง

หนทางการมีอิสรภาพทางการเงินคงไม่ไกลเกินฝัน หากเรามีตัวช่วยดี ๆ ที่พร้อมเปลี่ยนการลงทุนให้เป็นเรื่องง่าย มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี และทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น ใครที่สนใจลงทุนหลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง ทำได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่แบนเนอร์การลงทุนที่แอป SCB EASY ก็สามารถเลือกลงทุนได้ในแบบของคุณ