ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ดวงอาทิตย์ขึ้นใหม่ทุกวันที่ “ศรีพันวา”
"ศรีพันวา" ที่พักในฝันอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยเสน่ห์ของห้องพักที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว รายล้อมด้วยธรรมชาติ ความสวยงามของทะเล อาหารอร่อย และการบริการที่ยอดเยี่ยม ห้องพักของศรีพันวาจึงถูกจองเต็มโดยตลอด กลยุทธ์การบริหารโรงแรมในแบบคุณวรสิทธิ์ อิสสระ (ปลาวาฬ) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเม้นท์ จำกัด ทำให้โรงแรมมีการเติบโตอย่างมั่นคง มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะช่วงโควิดที่ภูเก็ตถูกล็อคดาวน์ คุณปลาวาฬมีวิธีคิดเพื่อรับมือกับสถานการณ์ และการบริหารพนักงานโรงแรมอย่างไร ที่ผู้ประกอบการควรศึกษาเพื่อเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจ
เมื่อ “ศรีพันวา” ต้องหยุดพักเพราะโควิด
ศรีพันวา บ้านพักบ้านพักตากอากาศและโรงแรมสุดหรูสไตล์พูลวิลล่าตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวปลายสุดของแหลมพันวาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ตบนพื้นที่กว่า 80 ไร่ ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 40–60 เมตร ด้วยความสวยงามของวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง จึงทำให้ศรีพันวาได้รับรางวัลการันตีจากสถาบันต่างๆ อาทิ “โรงแรมที่วิวสวยที่สุดในโลก”จาก Beach Tomato – The Best Beach Property Awards 2011 ประเทศอังกฤษ “หนึ่งในสามของบีชบาร์ที่ดีที่สุดในโลก” จาก CNN Go 2011 ไม่แปลกใจเลยว่าที่นี่จะเป็นเดสติเนชั่นที่นักท่องเที่ยวอยากมาพักเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองภูเก็ต
และเมื่อมีสถานการณ์โควิด เกิดการล็อคดาวน์ประเทศ ศรีพันวารับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร คุณปลาวาฬได้เล่าว่า เมื่อมีข่าวโควิดระบาดที่จีนในตอนนั้น ผมมองข้ามช็อตไปเลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นตามมาบ้าง นักท่องเที่ยวจีนจะหดหาย จะมีการคืนห้องพักจำนวนมาก และคาดว่าโควิดจะลุกลามไปทั่ว ในตอนนั้นคุณปลาวาฬเลยเกิดไอเดียว่าก่อนที่การระบาดจะมาถึงไทย ต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด สิ่งแรกคือจะต้องมีการยกเลิกจองที่พักจากลูกค้าจีน เลยแก้ไขโดยให้สามารถเลื่อนการจองออกไปได้เพื่อลดการคืนเงินจอง สิ่งที่สองคือทำอย่างไรที่จะเพิ่มยอดขายก่อนที่โรงแรมจะต้องปิดตัว เลยคิดทำโปรโมชั่นขายแพ็กเกจให้ลูกค้าชาวไทยในช่วงปิดเทอม รีบกระตุ้นยอดขายก่อนล็อคดาวน์ซึ่งได้ผลตอบรับดีมากมียอดจองเข้ามากว่า 180 แพ็กเกจ และเมื่อเกิดการระบาดในไทยทำให้ต้องหยุดให้บริการในที่สุด คุณปลาวาฬเล่าต่ออีกว่า ตอนปิดโควิด 3 เดือน สำหรับคุณปลาวาฬมีความสุขมากเพราะตลอด 15 ปีแทบไม่ได้หยุดพัก เลยเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสถือเป็นการ Renovate โรงแรมใหม่ ทั้งทาสี จัดสวน เพิ่มแอร์ฯลฯ
ในส่วนพนักงานในเครือโรงแรมศรีพันวาที่มีกว่า 800 ชีวิต เมื่อไม่มีงานปกติให้ทำคุณปลาวาฬบริหารเรื่องทรัพยากรบุคคลอย่างไร “ผมไม่มีการเอาคนออก แต่ลดเงินเดือนทั้งผู้บริหารและพนักงานโดยจ่ายเงินให้ 35% ลดวันทำงาน บางคนก็ขอ Leave without pay เพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดีจะได้มีโอกาสดูแลลูก นอกจากนี้ ให้พนักงานแสดงสปิริตอาสาสมัครเข้ามาทำงานจัดสวนก็มีคนเข้ามากว่า 150 คน รวมทั้งใช้เวลาว่างในช่วงนี้เทรนเชฟอาหารญี่ปุ่นให้ทำโอมากาเสะให้อร่อยขึ้นมากกว่าเดิม สิ่งนี้คือเทคนิคในการรับมือกับวิกฤตของศรีพันวา นั่นคือการเตรียมปรับปรุงโรงแรมและบุคลากรให้พร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหลังเปิดล็อคดาวน์
แม้ว่าศรีพันวาจะปิดตัวช่วงโควิด แต่ก็ไม่หยุดที่จะสร้าง Brand Awareness ในโลกออนไลน์ คุณปลาวาฬเล่าว่า พอดีมีเพื่อน 18 คนอพยพมาอยู่ที่ศรีพันวา เลยบอกว่ามาอยู่ได้เราจะดูแลคุณอย่างดี แต่มีข้อแม้ว่าต้องแลกด้วยการโพสต์หรือแชร์โมเมนต์ต่างๆ ในศรีพันวา เพราะเพื่อนส่วนใหญ่เป็นคนมีชื่อเสียงมียอด Followed จำนวนมาก เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนอยากเข้าพักหลังจากโควิดสิ้นสุด เรียกได้ว่าไม่เคยปล่อยโอกาสให้เสียไปในการทำมาร์เก็ตติ้งแม้ในช่วงโควิด
วิวที่สวยที่สุดในโลก จุดกำเนิด “ศรีพันวา”
หากมองย้อนกลับไปถึงที่มาของศรีพันวา คุณปลาวาฬเล่าว่า ในตอนนั้นทำงานที่ต่างประเทศเป็น Property analyst พอดีคุณพ่อกำลังมีโครงการจะสร้างบ้านพักตากอากาศระดับลักชัวร์รี่ 30 หลังขายราคาหลังละ 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เลยอาสามาช่วยดูแลวิเคราะห์โครงการให้เมื่อไปดูที่ดินกับคุณพ่อรู้สึกว่าน่าเสียดายถ้าจะทำเป็นบ้านพักตากอากาศเพื่อขายเพียงอย่างเดียว เพราะวิวของที่นี่สวยมากๆ อยากให้คนได้มาเห็นเยอะๆ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการบ้านพักตากอากาศพร้อมโรงแรมสุดหรู ในตอนนั้นคุณปลาวาฬกลับมาทำงานกับคุณพ่อได้เงินเดือน 25,000 บาทขณะงานที่ต่างประเทศได้เงินเดือน 7,000 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 270,000 บาท) แต่ก็ตัดสินใจกลับมาเพราะเป็นธุรกิจของครอบครัว ในที่สุดก็ได้พิสูจน์ฝีมือของตัวเองจนเป็นที่ยอมรับ และกลายเป็นหัวเรือใหญ่ในการบริหารศรีพันวาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับแนวคิดในการสร้างศรีพันวา คุณปลาวาฬาเล่าว่า อยากครีเอทสิ่งใหม่ที่เมืองไทยไม่เคยมี “สังเกตมั้ยโรงแรม 5 – 6 ดาวในไทยมักทำแบบไทยมาก พนักงานใส่ชุดไทย แคะขนมครก เปิดเพลงไทย ซึ่งแบบนี้คนไทยก็น่าจะไม่มาเพราะเบื่อแล้ว แต่ของศรีพันวาจะวางแบรนด์ Positioning ที่แตกต่าง ยังคงเป็นโรงแรมระดับลักชัวร์รี่ที่มีกลิ่นไอความเป็นไทย มีความเป็นครอบครัว ถอด DNA คนไทยที่รักความสนุกสนานออกมาในแบบร่วมสมัยแล้วใส่เข้าไปในทุกรายละเอียดของโรงแรม ทำให้ศรีพันวามีข้อได้เปรียบที่สามารถจับกลุ่มลูกค้าได้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ
Baba Beach Club น้องชายแสนขี้เล่นของศรีพันวา
เมื่อพี่ใหญ่อย่างศรีพันวาได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงแรมสุดหรูระดับไฮเอนด์ที่มีบริการดีเยี่ยม ติดหนึ่งในสามของบีชบาร์ที่ดีที่สุดในโลกและได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงแรมที่วิวสวยที่สุดของโลกมาแล้ว สำหรับคุณปลาวาฬยังไม่หยุดอยู่แค่นั้นยังมี Passion จากความรักในเสียงดนตรีและชอบการสังสรรค์เป็นชีวิต จึงเกิดไอเดียใหม่สร้างโรงแรมสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลงใหลในเสียงดนตรี ชอบปาร์ตี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel ทำให้ถือกำเนิด Baba Beach Club ภูเก็ตและหัวหินขึ้นมาเป็นโรงแรมและวิลล่าสไตล์บีชคลับสุดหรูหรา ที่มี Character สนุกสนานร่าเริง ขี้เล่น คุณปลาวาฬ เล่าว่า “ที่ Baba Beach จะอีกบรรยากาศต่างจากศรีพันวา ที่นี่ดนตรีจะดังกระหึ่ม มีสีสัน ชีวิตชีวา สนุกสนาน แขกที่มาพักจะเป็นแบบอาร์ตติสท์ ปาร์ตี้เลิฟเวอร์ รักเสียงเพลง ชอบแฮงเอ้าท์ ขณะที่ศรีพันวาบุคลิกจะดูสุขุมรักความเป็นส่วนตัวมากกว่า ดังนั้นแม้แต่การเลือกพนักงานคุณปลาวาฬยังเลือกให้เหมาะกับ Character โรงแรม อย่างของ Baba Beach จะต้องแสบหน่อย อึดหน่อย ขณะที่ศรีพันวาจะเป็นพวกนักเรียนดีเด่นทุกอย่างต้องเป๊ะ
จากความรักในเสียงเพลงและอยากให้ Baba Beach Club เป็น Music Destination ที่อยู่ริมชายหาดส่วนตัวจึงเป็นที่มาของการจัดงานเทศกาลดนตรีริมชายหาด ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งจากภาครัฐและคนในท้องถิ่น เพราะเป็นงานที่รวบรวมคนรักเสียงเพลงจากทุกมุมโลกจึงทำให้เกิดเม็ดเงินมหาศาลไหลมาสู่ท้องถิ่นและชุมชนใกล้เคียง ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบเกื้อกูลที่เอื้อประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วนและทุกคนในชุมชน
นักแจก Warning การบริหารสไตล์ปลาวาฬ
ในอีกมุมหนึ่งที่คนภายนอกมักจะมองว่าคุณปลาวาฬเป็นคนสนุกสนานสายปาร์ตี้ชอบสังสรรค์เฮฮา แต่ในมุมของการเป็นผู้บริหารโรงแรมสุดหรู คุณปลาวาฬกลับมองว่าตัวเองว่าเป็นสายป่วนจอมโหด “ลูกน้องมองผมเป็นตัวยุ่ง ผมจะเล่นบทโหดเกือบ 70% ในการบริหารโรงแรม เหมือนปกครองทหาร พลาดไม่ได้ หละหลวมไม่ได้ เรื่องงานผมจะสติ๊กมาก ดูทุกรายละเอียด ผมจะแจก Warning หรือคำเตือน พนักงานเป็นประจำไม่เคยปล่อยผ่าน เจออะไรที่ไหนผิดพลาดก็จะถ่ายรูปส่งเข้ากรุ๊ป ผิดครั้งแรกไม่เป็นไร ครั้งที่สองโดนแจก Warning ทันที ถ้าลูกน้องทำผิดพวกเมเนเจอร์ก็ต้องโดนด้วยเพราะสอนลูกน้องไม่ดี” เพราะเป็นคนละเอียดทุกกระเบียดนิ้วนี่เอง แม้ว่าในบางครั้งพนักงานจะทำผิดพลาดและลูกค้ามองไม่เห็น ถ้าเป็นคนอื่นอาจปล่อยผ่านไป แต่สำหรับคุณปลาวาฬไม่ได้เลย “ผมจะไม่ยอมถ้าผมเห็นพนักงานทำผิดพลาดจะโดนแจก Warning ทันที”
ด้วยเพราะโรงแรมมีพื้นที่ขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 80 ไร่ทำให้คุณปลาวาฬต้องควบคุมทุกจุดอย่างเข้มงวดไม่มีปล่อยผ่าน เช็คทุกรายละเอียดเมื่อพบข้อผิดพลาดต้องแก้ไขทันที และเพราะการดูแลธุรกิจอย่างใกล้ชิด เข้าไปบริหารทุกแผนกในโรงแรมในแบบ Micro Management จึงทำให้ได้คลุกคลีกับทีมงาน ทำให้รู้จุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองและพนักงานเป็นอย่างดี จึงมีการตั้ง KPI ให้พนักงานเพื่อให้ตื่นตัวมีเป้าหมายร่วมกัน แม้ว่าในการบริหารงานจะดูเข้มงวดแต่ในอีกมุมหนึ่งคุณปลาวาฬก็ให้ความสนิทสนมกับพนักงาน “ผมสนิทกับพนักงานเหมือนคนในครอบครัว เพราะผมอยู่กับพนักงานมากว่า 15 ปี และจะสื่อสารกับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ”
ห้ามเลิกเห่อกับธุรกิจของตัวเอง
งานบริหารโรงแรมระดับหรูต้องรักษามาตรฐานบริการขั้นสุดและเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ยิ่งโรงแรมที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่กว่า 80 ไร่ ย่อมต้องเจอกับปัญหาอุปสรรคร้อยแปดเข้ามาทุกวัน และเป็นโรงแรมระดับลักชัวร์รี่ที่มีความคาดหวังของลูกค้าสูงมาก ความผิดพลาดต้องไม่มีหรือกลายเป็นศูนย์ ทำให้สร้างความปวดหัวกับคุณปลาวาฬไม่น้อย เมื่อถามว่ารู้สึกเบื่อบ้างมั้ย คุณปลาวาฬบอกว่า “ห้ามเลิกเห่อในธุรกิจของตัวเอง เหมือนเราเลิกเห่อแฟน เพราะผมต้องดูแลพนักงานจำนวนมากธุรกิจต้องเดินต่อไป และงานเป็นชีวิตของผม ผมมี Passion ในงานที่ท ผมสร้างศรีพันวาให้เป็นสิ่งที่ผมอยู่ได้ ผมจะเอาตัวเองเป็น Benchmark เข้าไปฝังอยู่ในห้องที่ถูกที่สุด ถ้าผมอยู่ไม่ได้ผมจะไม่สร้าง ผมจะไม่ขายวิญญาณเพื่อไปทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองหรือเพื่อเงิน” นี่คือสิ่งที่คุณปลาวาฬยึดถือตลอดมาในการทำธุรกิจจึงไม่แปลกใจเลยว่าโรงแรมในเครือศรีพันว่าได้รับการยอมรับทั้งมาตรฐานและการบริการระดับโลก
ก่อนจากกันคุณปลาวาฬได้ฝากข้อคิดถึงคนทำธุรกิจโรงแรมในช่วงวิกฤตโควิดว่า อย่าพึ่งตลาดจีนมากเกินไปต้องออกจาก Comfort Zone เปิดตลาดใหม่ อย่างทีม Sale โรงแรมผมจะบอกเสมอว่า อย่าทำเป็นเสือนอนกิน ต้องเป็นเสือหิวหาโอกาสใหม่อยู่เสมอ เพราะหลังเปิดล็อคดาวน์ไทยจะกลายเป็นเดสติเนชั่นที่ทุกคนอยากมาเที่ยวเพราะเราเป็นประเทศที่ติดอันดับโลกในการควบคุมโควิดได้ คนไทยมีวินัยและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามเกิดวิกฤตเป็นสิ่งที่ทั่วโลกมองเห็น ตอนนี้ต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างในโรงแรม เพื่อรอเปิดรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวไทยใหม่อีกครั้ง
เพราะความมุ่งมั่นทุ่มเทในการสร้างศรีพันวาให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุด ด้วยวิวที่สวยที่สุดจึงไม่แปลกใจเลยว่าศรีพันวาจึงเป็นโรงแรมสุดหรูที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างใฝ่ฝันว่าจะต้องมาเยือนโรงแรมนี้ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตก็ยังดี
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.bababeachclub.com/
ที่มา: SCB TV ซีรีส์ The Next Destination ตอน "ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นใหม่ทุกวัน" คุณวรสิทธิ์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บ. ศรีพันวา แมเนจเมนท์ฯ ดูย้อนหลังทาง SCB Thailand -ที่นี่-