6 Steps เก็บเงินแบบไม่เครียด

เทคนิคการเก็บเงินที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมีวิธีการที่ค่อนข้างคล้ายกันก็คือ การแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน แต่สำหรับใครที่ทุกวันนี้แค่บริหารรายรับให้พอเพียงกับรายจ่ายก็แทบหืดขึ้นคอแล้ว ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีพื้นฐานแบบเก็บเท่าที่ไหวกัน แต่จะเก็บแบบไหนมาดู 6 ขั้นตอนนี้ได้เลย

 

1 เปิดบัญชีเงินเก็บแยกออกจากบัญชีเงินใช้

ขั้นตอนนี้คือการแยก “เงินเก็บ” กับ “เงินใช้” ออกจากกันให้ชัดเจน ด้วยการเปิดบัญชีเงินเก็บขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันการเปิดบัญชีสะดวก และง่ายขึ้นมาก สามารถทำผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย เช่น เงินฝากออมทรัพย์ อีซี่ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ปกติ ดูวิธีเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/digital-banking/scb-easy/open-account.html

 

2 ตั้งกฎเหล็ก บัญชีเงินเก็บห้ามถอนเด็ดขาด

การเปิดบัญชีเพื่อการเก็บเงินแยกไว้โดยเฉพาะ ช่วยให้ติดตามการงอกเงยของเงินในบัญชีได้ง่ายขึ้น เปิดดูเมื่อไหร่ก็จะต้องชื่นใจ เพราะบัญชีนี้มีข้อแม้คือ ฝากได้ แต่ห้ามถอน ดังนั้นจึงควรบริหารส่วนของ “เงินใช้” ให้เพียงพอ เช่น ประหยัดให้มากขึ้น ลด ละ เลิก สิ่งที่ไม่จำเป็น แต่หากตัดรายจ่ายทุกอย่างออกไม่ได้จริงๆ ก็ต้องหารายได้เพิ่มให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย โดยไม่ไปหยิบยืนเงินในบัญชีเงินเก็บมาใช้

happy-step-saving-1767227042

3 ตั้งเป้าหมายระยะสั้น

การตั้งเป้าหมายที่ดี ต้องมีความท้าทายนิดๆ ไม่ง่ายจนเกินไป และไม่ยากจนขาดความเป็นไปได้จริง ที่สำคัญต้องวัดผลได้ โดยระบุให้ชัดเจนว่าจะเก็บเงินเท่าไหร่ ในระยะเวลาแค่ไหน ซึ่งควรเริ่มจากเป้าหมายระยะสั้นก่อน เช่น ภายใน 1 - 3 เดือน และเมื่อทำได้ตามเป้าหมายแรกแล้ว ค่อยตั้งเป้าหมายถัดไป เพราะการพิชิตเป้าหมายแรกได้สำเร็จ จะสร้างแรงจูงใจ และความเชื่อมั่นในการพิชิตเป้าหมายต่อๆ ไปได้ด้วย

 

4 ลงมือทำให้ได้ตามเป้าหมาย

เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว ก็ขอให้เริ่มลงมือทำทันที ด้วยการหักเงินเข้าบัญชีเงินเก็บทันทีที่มีรายได้เข้ามา หากใครที่มี Mobile Banking อย่าง SCB EASY App ก็ยิ่งง่าย สามารถโอนเงินจากบัญชีรายรับของเรามาเข้าบัญชีเงินเก็บได้เลย โดยจำนวนเงินมากน้อยไม่สำคัญ แต่ต้องทำให้สม่ำเสมอ ทุกครั้งที่มีรายได้เข้ามา หักเงินส่วนหนึ่งไปไว้ในบัญชีเงินเก็บเป็นอย่างแรก เพียงแค่นี้เราก็จะมีเงินออมมากขึ้นทุกเดือนแล้ว

 

5 ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำได้ตามเป้าหมาย

การให้รางวัลกับตัวเองเป็นอีกวิธีที่ช่วงสร้างแรงจูงใจในการทำภารกิจให้สำเร็จ   โดยรางวัลนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น กิจกรรมพิเศษ อาหารมื้อพิเศษ แต่หากต้องแลกมาด้วยการใช้จ่ายเงิน ก็อย่าให้มากเกินไปจนเป็นอุปสรรคต่อการเก็บเงินในเป้าหมายถัดไป

 

6 ทำวนไป พิชิตเป้าหมายถัดไปให้สำเร็จ

เมื่อภารกิจแรกสำเร็จลุล่วงแล้ว ให้ตั้งเป้าหมายต่อไปในทันที โดยเป้าหมายใหม่นั้นอาจใช้เวลาเท่าเดิม แต่เพิ่มยอดเงินเก็บให้มากขึ้น หรือจะเพิ่มระยะเวลาในการเก็บเงิน และเพิ่มยอดเงินที่ต้องการเก็บควบคู่กันไปก็ได้ แต่หากเจอจังหวะฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุทางการเงิน สามารถตั้งเป้าน้อยลงจากภาวะปกติได้ เพราะหัวใจสำคัญในการเก็บเงินนั้นอยู่ที่ความสม่ำเสมอ ไม่ใช่อยู่ที่จำนวนเงินที่ออมได้


ยอดเงินในบัญชีที่โตขึ้นทุกเดือนจะเป็นสิ่งพิสูจน์ความตั้งใจในการเก็บเงิน แม้วันนี้เงินจะโตน้อย แต่หากไม่หยุดออม ก็สามารถเป็นเจ้าของเงินหมื่น เงินแสน ได้ไม่ยาก เมื่อมีเงินเก็บมากพอ ค่อยแบ่งมาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก หากทำได้แบบนี้ อนาคตทางการเงินที่สดใสอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน