พอย่างเข้าหน้าหนาวทีไรอากาศเปลี่ยนแปลงอาจทำให้บางคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เช่น ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเกิดเจ็บป่วยไม่สบายได้ง่ายกว่าปกติ เพราะฤดูหนาวมักมาพร้อมกับเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เพื่อความไม่ประมาทมาดูว่าโรคที่มาพร้อมฤดูหนาวมีอะไรบ้างและควรมีวิธีป้องกันตัวเองอย่างไร
โรคไข้หวัด
-
เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ทุกฤดูหากร่างกายของเราอ่อนแอ แต่ในช่วงหน้าหนาวโอกาสที่จะเป็นไข้หวัดมีมากกว่าถึง 2 เท่าซึ่งโรคไข้หวัดมีเชื้อไวรัสหวัดหลายร้อยชนิดที่ทำให้เป็นโรคได้
-
อาการที่พบ มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก คัดจมูก จาม ระคายคอ โดยทั่วไปจะหายภายใน 1 สัปดาห์
-
การดูแลรักษา พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานยาลดไข้พาราเซตตามอล ยาลดน้ำมูกและยาแก้ไอ โรคนี้จะหายได้เองตามธรรมชาติหากไม่มีภาวะแทรกซ้อน
-
การป้องกัน ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และทานอาหารให้ครบ5 หมู่โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามินซีช่วยป้องกันโรคหวัดได้
โรคไข้หวัดใหญ่
-
ไข้หวัดใหญ่มักจะระบาดในช่วงฤดูหนาวเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) โดยส่วนใหญ่โรคนี้ไม่ได้อันตรายร้ายแรง แต่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง เบาหวาน โรคไตวาย อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้มาก
-
อาการที่พบ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ มักมีอาการมากในช่วง 3-4 วันแรก หลังจากนั้นอาจมี เจ็บคอ ไอแห้ง ๆ คัดจมูกน้ำมูกไหล โดยทั่วไปมีอาการอยู่ประมาณ 7-10 วัน
-
การดูแลรักษา ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
-
การป้องกัน เนื่องจากเป็นโรคที่ติดต่อจากทางเดินหายใจและจากสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปแหล่งชุมชน ล้างมือบ่อยๆ และฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี
ปอดบวมหรือปอดอักเสบ
-
เกิดจากที่ปอดมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียเข้าไปอยู่ตามถุงลม ทำให้เนื้อปอดบริเวณนั้นไม่สามารถรับออกซิเจนได้ตามปกติ
-
อาการที่พบ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ไอ มีเสมหะ มีไข้สูง มักพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่นผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคปอดเรื้อรัง บางรายอาจมีอาการกำเริบมากขึ้นในฤดูหนาว โดยเฉพาะหากติดเชื้อไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ร่วมด้วย
-
การดูแลรักษา ควรมาพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะและยาลดไข้ นอกจากนี้ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยลดเสมหะ
-
การป้องกัน ดูแลสุขภาพให้ดีเพื่อไม่ให้ติดไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ พบยาแก้หอบติดตัวและติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็จะเป็นอีกวิธีที่ป้องกันโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบได้
โรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า
-
เกิดจาก ไวรัสโรต้า (Rotavirus) ที่พบได้ง่ายในฤดูหนาว และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอายุ ต่ำกว่า 5 ปี
-
อาการที่พบ มีอาการอาเจียนมาก / ถ่ายมากผิดปกติ ซึม ไม่มีแรง มือเท้าเย็น ปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลยเกิน 6 ชม. ปากแห้ง ตาโหล ร้องไห้ไม่มีน้ำตา ในเด็กจะมีกระหม่อมบุ๋ม
-
การดูแลรักษา รักษาตามอาการ โดยดื่มน้ำเกลือแร่ชดเชยส่วนที่สูญเสียไป รับประทานยาแก้อาเจียนถ้ามีการอาเจียนบ่อย หากมีอาการขาดน้ำ ปัสสาวะออกน้อยหรืออาเจียนมากรับประทานไม่ได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยด่วน
-
วิธีป้องกัน รักษาสุขอนามัย การดูแลความสะอาดของอาหารน้ำดื่ม และล้างมือบ่อยๆ และหมั่นดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ และฉีดวัคซีนเพราะในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไวรัสนี้แล้ว
โรคหัด
-
เกิดจาก เชื้อไวรัสมักพบในเด็กเล็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากกว่าผู้ใหญ่ ติดต่อได้จากการ ไอ จาม น้ำลายของผู้ป่วย มีระยะฟักตัวประมาณ 10-14 วัน
-
อาการ มีไข้สูง และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีน้ำมูก ไอ ตาแดง พบจุดสีเทาขาวบริเวณกระพุ้งแก้มตรงข้ามกับฟันกรามซี่ใน โดยจะขึ้นในช่วง 2-3 วัน ที่เป็นโรค หลังจากนั้นจะหายไป นอกจากนี้จะมีผื่นเป็นปื้นสีแดง หลังจากเป็นไข้มาแล้ว 3-4 วัน โดยผื่นจะขึ้นจากบริเวณไรผม มาที่หน้า ลำตัว แขน และลงมาที่ขา และจะหายไปเอง ภายใน 7 วัน
-
วิธีรักษา เนื่องจากโรคหัดไม่ใช่โรคร้ายแรง การรักษาจึงสามารถรักษาตามอาการจนกว่าจะหาย
-
วิธีป้องกัน ฉีดวัคซีนสำหรับเด็กและสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
โรคภูมิแพ้
-
ช่วงฤดูหนาวคนที่มีโรคภูมิแพ้อากาศอยู่เดิมอาจมีอาการมากขึ้นได้ หรือบางคนที่แพ้ตัวไรในฝุ่นตามที่นอนในช่วงฤดูหนาวอาจมีอาการมากขึ้น
-
อาการ คันจมูก คันตา จามมีน้ำมูกใสๆ คัดจมูกอยู่ตลอดได้ ผู้ป่วยบางรายมีผื่นนูนคันเวลาอากาศเย็น (cold-induced urticaria) โดยมักมีอาการในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยน อาจมีตุ่มนูนคันขึ้นในบริเวณที่ถูกอากาศเย็นได้
-
วิธีรักษา ในรายที่มีอาการมากควรรับประทานยาแก้แพ้อากาศเพื่อลดอาการลง
-
การป้องกัน ควรดูแลสุขภาพให้สุขแรงด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ทำร่างกายให้อบอุ่นและหลีกเลี่ยงสารหรือสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ก็จะเป็นแนวทางในการป้องกันอีกทางหนึ่ง
ไม่ว่าฤดูไหนอากาศจะหนาวจะร้อนอย่างไร ถ้าหากเราหมั่นดูแลร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายอย่างเป็นสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานร่างกายของเราให้แข็งแรงสามารถลดความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยลงได้ และถ้าหากดูแลสุขภาพอย่างดีแล้วแต่เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาเหนือสิ่งอื่นใดควรมีประกันสุขภาพติดตัวไว้จะได้ไม่ต้องปวดใจเวลาจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล
สนใจทำประกันสุขภาพ ดูรายละเอียด -ที่นี่ -
ที่มา :
https://vibhavadi.com/health966
https://www.paolohospital.com
https://www.si.mahidol.ac.th/project/geriatrics/knowledge_article/knowledge_healthy006.html
https://www.chularat3.com/knowledge_detail.php?lang=th&id=513