ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เคยเป็นมั้ย? หาเงินค่าเทอมลูกไม่ทัน มีทางแก้
หัวอกคนเป็นพ่อแม่ แค่อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือในโรงเรียนที่ดี ได้รับโอกาสทางการศึกษาเพื่อที่ในอนาคตจะได้เติบโตมีอาชีพหน้าที่การงานหาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ลำบาก แต่ความคาดหวังย่อมตามมาด้วยภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลที่กว่าจะฟูมฟักเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบใหญ่ ทั้งค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ค่าหนังสืออุปกรณ์ ค่ากินค่าอยู่ ยังไม่รวมไปถึงค่ากิจกรรมของโรงเรียนตามเทศกาล เพราะค่าใช้จ่ายในการส่งเสียลูกเล่าเรียนมีมาก ทำให้ในช่วงใกล้เปิดเทอมพ่อแม่หลายคนจึงเกิดความกังวลใจว่าจะหาเงินจากที่ไหนเพื่อมาจ่ายค่าเทอม ยิ่งในช่วงนี้ลำบากกันจริงๆ เศรษฐกิจฝืดเคือง แถมยังเจอโรคระบาดเข้าไปอีก ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองวิ่งหาเงินค่าเทอมกันแทบไม่ทัน เมื่อใกล้จะถึงวันขีดเส้นตายต้องทำอย่างไร ขอแนะนำวิธีหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ลูกอย่างทันท่วงทีมาฝากกัน
1. หยิบยืมญาติสนิท
แน่นอนว่าเมื่อถึงวันขีดเส้นตาย การจะหาเงินได้รวดเร็ว
ไม่มีวิธีการไหนที่จะเร็วไปกว่าการหยิบยืมเงินจากคนใกล้ชิดที่เป็นญาติสนิท
แต่การที่จะเอ่ยปากหยิบยืมกับใครสักคนเป็นเรื่องที่ต้องทำใจ
เพราะคนส่วนใหญ่มักมีอัตตาทิฐิมานะถ้าไม่ลำบากเข้าตาจนจริงๆ
มักจะไม่ทำกัน
แต่การหยิบยืมเงินจากญาติสนิทมีข้อดีคืออย่างไรเสียคนให้ยืมเงินก็ยังมั่นใจได้ว่าเราเป็นญาติโอกาสจะเบี้ยวหนี้มีน้อย(แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี)
ที่สำคัญเมื่อยืมเงินใครแล้ว
ต้องมีสัจจะให้สัญญาว่าจะจ่ายเงินคืนเมื่อไหร่ วันไหน
ก็จะทำให้ทั้งผู้ให้ยืมและผู้ยืมสามารถมองหน้ากันได้สนิทใจ
ซึ่งวิธีการนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเงินสดขาดมือจริงๆ
ไม่ใช่เอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
เพราะคนที่เป็นญาติสนิทกันก็มักจะรู้จักนิสัยใจคอของผู้ยืมอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร
ถ้าหากเบี้ยวหนี้อาจทำให้มีปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวตามมาได้ซึ่งไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
2. จ่ายค่าเทอมด้วยบัตรเครดิต
การจ่ายค่าเทอมด้วยบัตรเครดิตทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินสดของตัวเองในทันที
แถมยังมีระยะเวลาในการหาเงินมาหมุนเพื่อจ่ายเงินให้ทันตามรอบบิล
ซึ่งการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตถือเป็นการจ่ายเงินที่ถูกสุด
เพราะบัตรเครดิตมีโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากกว่าการชำระเงินแบบอื่น
เพราะมีคะแนนสะสมทุกการใช้จ่าย โดยยอดใช้จ่ายทุก ๆ 25
บาทจะได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน มีค่าเท่ากับเงินคืนประมาณ 0.4%
ของยอดใช้จ่าย และบางบัตรยังได้รับคะแนนสะสมสูงกว่าปกติก็ยิ่งคุ้มค่าเข้าไปใหญ่
ซึ่งคะแนนสะสมสามารถนำไปแลกของรางวัล บัตรกำนัล
รวมไปถึงใช้เป็นส่วนลดได้ทันที
โดยใช้แลกคะแนนเท่ายอดซื้อสินค้าอีกด้วย -สนใจสมัครบัตรเครดิต SCB-
3. ขอสินเชื่อส่วนบุคคล
เมื่อถึงวันขีดเส้นตายกำหนดจ่ายค่าเทอมจะหาเงินจากที่ไหนได้ทัน
ลองใช้สินเชื่อส่วนบุคคลดูเพราะวัตถุประสงค์ของสินเชื่อส่วนบุคคลคือการอนุมัติเงินก้อน
โดยไม่จำเป็นต้องระบุวัตถุประสงค์ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร
ที่สำคัญรู้ผลอนุมัติไวเพียงแค่ 3 วัน
แต่ต้องยื่นเอกสารสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลให้ครบถ้วน
ธนาคารก็จะอนุมัติสินเชื่อบุคคลอย่างรวดเร็ว
ดีกว่าการไปกู้สินเชื่อนอกระบบที่ดอกเบี้ยแพงและไม่มีกฎหมายควบคุม
สินเชื่อส่วนบุคคลยังมีข้ออีกคือ สามารถใช้หนี้หมดได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทำให้คิดคำนวณและควบคุมค่าใช้จ่ายได้
ที่สำคัญ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน
สามารถรับเงินสดเข้าบัญชีธนาคารได้ทันที พร้อมวงเงินสูงสุด 5
เท่าของรายได้ และสะดวกสบายกับหลายช่องทางการผ่อนชำระ
วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 20,000-3,000,000 บาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 72
เดือน ชำระคืนเป็นรายเดือนๆ ละเท่าๆ กัน
แถมยังคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก -สนใจสมัครสินเชื่อ Speedy Loan-
และถ้าหากเป็นลูกค้า SCB อยู่แล้วและมี SCB EASY App
ยิ่งง่ายเข้าไปอีก สามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้ทันที
ดูเพิ่มเติมที่บทความ Mobile Banking App : ทางเลือกของคนอยากกู้ (เงิน) เงียบๆ
คนเดียว
4. เข้าโรงรับจำนำ
เมื่อหาค่าเทอมลูกไม่ทันพรุ่งนี้ ที่พึ่งอย่างดีของพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็คือโรงรับจำนำ ขอแค่มีทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นแหวนเพชร, สร้อยทอง,
เครื่องประดับที่มีค่า, กระเป๋าแบรนด์เนม, เครื่องใช้ไฟฟ้า, นาฬิกา,
มือถือ, เครื่องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ สามารถนำมาจำนำได้หมด
แถมดอกเบี้ยยังถูกกว่าเงินกู้นอกระบบอีกด้วย ไม่ต้องส่งดอกทุกเดือน ไม่มีคนคอยตามทวงเงิน มีระยะเวลานาน 4 เดือนในการนำเงินมาไถ่ หากยังไม่พร้อมสามารถยืดระยะเวลาออกไปได้อีก 1 เดือน ถ้าไม่ไปไถ่คืนของก็จะถูกยึด แล้วโรงรับจำนำก็จะนำสินค้าออกมาขาย ซึ่งวิธีการนี้มีข้อเสียคือ ต้องออกจากบ้านไปยังโรงรับจำนำซึ่งไม่เหมาะกับสถานการณ์ปิดเมืองในช่วงนี้ แถมสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยอาจรู้สึกตะขิดตะขวงใจและยังอายอีกต่างหากที่ต้องเข้าออกโรงรับจำนำ
นอกจากวิธีการหาเงินมาจ่ายค่าเทอมอย่างทันใจแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองอาจใช้การเจรจาต่อรองกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อขอยืดระยะเวลาชำระค่าเทอมออกไป หรืออาจขอแบ่งจ่ายออกเป็นงวดๆ ก็จะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยพ่อแม่ผู้ปกครองให้หาเงินมาหมุนได้ทัน ที่สำคัญควรมีการวางแผนหาเงินค่าเทอมลูกไว้แต่เนิ่นๆ ด้วยการเตรียมค่าใช้จ่ายล่วงหน้า โดยศึกษาว่าตลอดทั้งปีในแต่ละเทอมว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แล้ววางแผนเก็บเงินในแต่ละเดือนจำนวนเท่าๆ กัน เพื่อที่จะสามารถหมุนเงินและจ่ายค่าเทอมลูกได้ทันเวลา และควรตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการศึกษาของลูก เช่น ให้ลูกอ่านหนังสือเตรียมสอบเองแทนการเรียนพิเศษ หรือประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อ Gadget ที่ไม่จำเป็นให้ลูก หรือชุดนักเรียนใหม่หากของเดิมยังใช้ได้ดีอยู่ก็ไม่ควรซื้อ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองควรเปิดอกพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับสถานะการเงินของที่บ้านเพื่อที่ลูกจะได้ตระหนักว่าควรจะปรับตัวและทำอย่างไรเพื่อที่จะได้ช่วยกันประหยัดและไม่สร้างภาระให้กับพ่อแม่เกินความจำเป็น
ข้อมูล