ต้อกระจก รู้ไวรักษาได้ ช่วยลดภาวะตาบอด

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ประเมินว่า “ต้อกระจก” เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะตาบอดของประชากรทั่วโลก สำหรับประเทศไทย “ต้อกระจก” คือ สาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้คนไทยตาบอดมากที่สุด ซึ่งการรักษา “ต้อกระจก” มีเพียงวิธีการเดียว คือ การผ่าตัด แต่เนื่องจากปัจจัยหลายประการส่งผลให้ผู้ป่วยในประเทศไทย ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาผ่าตัดได้แต่เนิ่น ๆ  เนื่องจากข้อจำกัดในด้านจักษุแพทย์เฉพาะทาง เครื่องมือผ่าตัด ปริมาณของผู้ป่วยที่มากขึ้นตามการเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศ จากสถิติของไทยพบว่ามีผู้ป่วยรอเข้ารับการผ่าตัดรักษากว่า 26,000 รายต่อปี ทำให้การเกิดการรอคิวเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน  และถ้าหากผู้ป่วยไม่รีบเข้ารับการรักษาตั้งแต่เริ่มเป็น ปล่อยให้เป็นมากจนติดเชื้อหรือมีโรคแทรกซ้อนอาจทำให้เกิดตาบอดได้ 

1464185027

สาเหตุของโรคต้อกระจก

  1. การเสื่อมของแก้วตาตามวัย มักจะพบในคนวัย 50 ปีขึ้นไป  และพบได้เกือบทุกคนในหมู่ผู้สูงอายุ  
  2. การจ้องแสงสว่างมากเกินไปเป็นระยะเวลานาน เช่น แสงจากจอคอมพิวเตอร์, แสงจากจอมือถือตอนกลางคืน, แสงจากการเชื่อมเหล็ก, แสงจากดวงอาทิตย์ เป็นต้น
  3. การเกิดอุบัติเหตุที่กระทบดวงตาอย่างรุนแรง มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
  4. การติดเชื้อในตา การอักเสบของดวงตา
  5. สายตาสั้นมาก ๆ
  6. การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน
  7. จากพันธุกรรม

อาการต้อกระจก

  1. มองเห็นภาพไม่ชัด เหมือนสายตาสั้นเพิ่มขึ้น
  2. มองเห็นภาพเหมือนมีหมอกควันมาบังหรือบางคนเห็นเป็นภาพซ้อน
  3. ค่าสายตาเปลี่ยนบ่อย
  4. เวลากลางวันจะมองเห็นภาพไม่ชัด  แต่ขณะเวลากลางคืนจะมองเห็นได้ชัดกว่า
  5. เวลาขับรถตอนกลางคืนจะเห็นแสงกระจายออกจากดวงไฟ
  6. เห็นสีต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
  7. รูม่านตาเริ่มมีสีขาวขุ่น


หากมีอาการดังกล่าวข้างต้นหรืออาจมีอาการคล้ายกับต้อกระจก ไม่ควรละเลยหรือปล่อยทิ้งไว้นาน ควรรีบไปปรึกษาจักษุแพทย์ทันที เพราะถ้าหากเจอในระยะเริ่มต้นจะสามารถรักษาได้ง่ายกว่า

วิธีการรักษา

โดยการผ่าตัด มี  2 แบบ ได้แก่   1. แผลเปิดกว้าง (Extracapsular Cataract Extraction) โดยนำเลนส์เดิมออกมา แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทน ข้อเสียคือแผลค่อนข้างกว้าง ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นนาน  2. ผ่าตัดด้วยการสลายต้อกระจก (Phacoemulsification) ใช้เครื่องมือเข้าไปสลายต้อที่เลนส์ตา วิธีนี้ไม่ต้องตัดไหม สามารถกลับบ้านได้เลยหลังผ่าตัด และยังสามารถแก้ไขค่าสายตาพร้อมกับการรักษาต้อกระจกได้ในคราวเดียวกัน  ทั้งนี้ โรคต้อกระจกไม่ใช่โรคร้ายแรงสามารถรักษาได้ แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นานจะเกิดอันตรายเพราะภาวะแทรกซ้อนทำให้ติดเชื้อ เกิดเป็นต้อหิน หรือตาบอดได้ในที่สุด

 

ธนาคารไทยพาณิชย์และมูลนิธิสยามกัมมาจล ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ “ราษฎรสุขใจ พลานามัยสมบูรณ์” ภายใต้กิจกรรม “ผ่าตัดรักษา ๑ ดวงตา จาก ๑ น้ำใจ” ขับเคลื่อนการผ่าตัดแก่ผู้ป่วยต้อกระจก ซึ่งมีผู้ป่วยรอรับการผ่าตัดรักษากว่าสองหมื่นรายต่อปี ให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเปิดโอกาสให้สามารถร่วมสนับสนุนโครงการ โดยการสแกน QR Code บริจาคอิเล็กทรอนิกส์ e-Donation ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้ทุกธนาคาร เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานแพทย์อาสาในการออกหน่วยเคลื่อนที่รักษาผู้ป่วยต้อกระจกได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ขาดแคลนแพทย์เฉพาะทาง ส่งเสริมสุขอนามัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่คนไทย ทุกยอดสมทบทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า และการสมทบทุนทุก 8,000 บาท เพื่อใช้ในการผ่าตัด 1 ดวงตา สามารถขอรับเกียรติบัตรได้ที่ โทร.08 3811 1111 หรือบริจาคผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อโครงการ 1 ดวงตา 1 น้ำใจ” เลขที่บัญชี 111-394932-7 ติดต่อขอรับใบเสร็จรับเงิน โดยส่งสำเนาโอนเงิน พร้อมระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลไปที่ donation@scb.co.th