หากพูดถึงเวียดนามกลาง หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สายคอนเทนต์ห้ามพลาดเลยก็คือ บานาฮิลส์ (Ba Na Hills) สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสในยุคอาณานิคม มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ปัจจุบันการเดินทางมายังบานาฮิลล์สะดวกสบายสุดๆ นั่งรถยนต์จากตัวเมืองดานังมาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยการนั่งกระเช้าไฟฟ้ามาตรฐานระดับโลก ขึ้นไปด้านบนแบบ Non-Stop อีกประมาณ 20 – 30 นาที ก็จะถึงดินแดนที่หลายคนเรียกกันว่าเป็นหมู่บ้านฝรั่งเศสแห่งเวียดนามแล้ว

กระเช้าไฟฟ้าแห่งนี้ยังได้รับการบันทึกสถิติว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่มีระยะทางยาวที่สุดในโลกอีกด้วย หากใครมาพักที่โรงแรมบนบานาฮิลส์ ก็สามารถขึ้นกระเช้าในโซนของโรงแรมได้เลย ระหว่างทางเราก็จะได้ชมวิวป่าเขา ลำธาร และน้ำตกในมุมสูงแบบเห็นได้ 360 องศาทีเดียว บางจังหวะจะมีเสียวๆ ช่วงกระเช้าขึ้นลงอยู่บ้าง ใครที่มีอาการวิงเวียนคลื่นไส้ ก็สามารถหยิบถุงกระดาษเคลือบพลาสติกที่มีให้บริการอยู่ในกระเช้ามาเตรียมพร้อมไว้ก่อนได้ แต่โดยรวมแล้วถือว่ากระเช้ามีความโคลงเคลงน้อยมาก สามารถนั่งปล่อยอารมณ์ ชมธรรมชาติได้สบายๆ 

พอขึ้นมาถึงด้านบน ความรู้สึกเหมือนเราหลุดมาอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์เลยทีเดียว ภาพที่เห็นด้านหน้าคือปราสาทสไตล์ยุโรปที่ซ่อนตัวอยู่ในสายหมอก เรามาที่นี่ช่วงต้นเดือนธันวาคม วิวที่เห็นก็จะดูละมุน ๆ ตามภาพเลย แต่ถ้าใครชอบถ่ายรูปแบบฟีลฟ้าใส ไม่ต้องลุ้นกับสภาพอากาศปิดมากนัก แนะนำให้มาช่วงเดือนมีนาคม ไปจนถึงกันยายน ซึ่งนักท่องเที่ยวในช่วงนี้ก็จะเยอะเป็นพิเศษเช่นกัน

ไฮไลท์สำคัญของบานาฮิลส์ก็คือ Golden Bridge ซึ่งเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองดานัง มีความยาวเกือบ 150 เมตร นักท่องเที่ยวจะเรียกกันติดปากว่าสะพานมือ เพราะมีประติมากรรมมือยักษ์ที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนกับว่ากำลังประคองตัวสะพานไว้ท่ามกลางท้องฟ้า และขุนเขา ถือเป็นจุดเช็กอินอันดับหนึ่งของบานาฮิลส์ที่ใคร ๆ ก็ต้องมาเก็บภาพคู่กับสะพานในจุดที่มองเห็นมือยักษ์คู่นี้

ที่นี่ยังมีโซนวัดจีน สวนสนุก โรงเก็บไวน์ สวนดอกไม้แนวแฟนตาซี รวมถึงมีร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกช้อป ชิม ชิล ตามจุดต่าง ๆ ด้วย บางร้านสามารถจ่ายด้วยบัตรเติมเงินหรือบัตรทราเวลการ์ดได้เลย

ส่วนตัวเราพกบัตร PLANET SCB มา ก็แค่เติมเงินบาทเข้าไปในบัตร PLANET SCB ผ่านทางแอป SCB EASY แค่นี้ก็เอาไปใช้จ่ายตามร้านที่รับบัตร VISA ได้เลย หรือจะเอาบัตรไปกดเงินสดจากตู้ ATM ที่เวียดนาม ที่มีสัญลักษณ์ VISA ออกมาใช้จ่ายก็ยังได้ ที่สำคัญทุกการใช้จ่ายจะมีการแจ้งยอดเงินที่ตัดไปผ่านทาง LINE SCB Connect ให้ทันที สะดวก รวดเร็วมาก ๆ

เราจองโรงแรมเพื่อพักค้างคืนที่นี่ด้วย คนที่ไม่ได้พักค้างคืนก็จะต้องนั่งกระเช้ากลับลงไปด้านล่าง ทำให้ช่วงเย็น และช่วงเช้าๆ สามารถเดินเล่นชิลๆ หามุมถ่ายรูปได้สบายๆ ส่วนห้องพักแต่ละตึกจะตกแต่งสไตล์ยุโรป มีอุปกรณ์และเครื่องใช้ในห้องน้ำให้ครบครัน ส่วนหมวกคลุมผมอาบน้ำต้องเตรียมมาเอง ในห้องมีไดร์เป่าผม และฮีตเตอร์ให้ใช้ด้วย ห้องน้ำจะไม่มีกลอนประตู ซึ่งเป็นมาตรฐานห้องน้ำตามโรงแรมยุโรปทั่วไปอยู่แล้ว ข้อดีอีกอย่างของห้องพักที่นี่ก็คือ มีแยกห้องอาบน้ำ ห้องส้วม และอ่างล้างหน้าแปรงฟันไว้คนละโซนกัน ใครอยากอาบน้ำ ใครอยากแปรงฟัน หรือคนไหนอยากทำธุระส่วนตัว ก็แยกกันทำได้เลย ไม่ต้องรอกัน

บางช่วงแม้จะเจอสภาพอากาศปิด หมอกเยอะ มีฝนโปรย ก็ไม่ได้ทำให้ทริปบานาฮิลส์น่าเบื่อ ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเราได้เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ ได้เดินฝ่าสายหมอก สลับกับฝนที่โปรยปรายบ้างก็สนุกดี แต่ถ้าเจอมรสุม ฝนตกหนัก ก็อย่าเพิ่งน้อยใจในโชคชะตา เพราะที่นี่มีโซนเครื่องเล่น พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง บ้านผีสิง ภาพยนตร์ 4 - 5 มิติ และกิจกรรมการแสดงต่างๆ รอเราอยู่ในตัวอาคารอีกเพียบ รับรองว่าสนุกไม่มีเบื่อแน่นอน