เทรนด์ “Cashless Society” หรือ “สังคมไร้เงินสด” เดินทางมาแนะนำตัวให้ได้รู้จักกันสักพักแล้ว หลายคนอาจยังสงสัย ว่าจะไปทดลองใช้ชีวิตแบบนี้ได้ที่ไหนบ้าง วันนี้เรามี 5 สถานที่คูลๆ ที่เปิดให้ใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด ทั้งในไทยและต่างประเทศมาแนะนำกัน

ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ใกล้ตัวที่หลายคนมีโอกาสไปชอปปิ้งกันบ่อยครั้ง สำหรับตลาดนัดสวนจตุจักร แต่รู้กันหรือเปล่าว่า ร้านค้าที่นี่ไม่ธรรมดา! เพราะหลายร้านใช้ระบบ Merchant POS (Point of Sale) รองรับการจ่ายเงินด้วยพร้อมเพย์และ QR Code แล้ว ใครจะซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้อะไร ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินสดขาดมือระหว่างช้อป จนต้องหอบตัวเองไปต่อคิวกดเงินสดหน้าตู้เอทีเอ็มอีกต่อไป เพียงแค่ยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาสแกน QR Codeหรือโอนพร้อมเพย์ง่ายๆ ที่หน้าร้าน เท่านี้ก็เรียบร้อย

ที่สำคัญ ตลาดนัดสวนจตุจักรยังมีแอพพลิเคชัน Chatuchak Guide เป็นทั้งแผนที่ช่วยให้ไม่หลงทางในตลาดอันกว้างขวาง แถมยังสามารถใช้ค้นหาร้านที่รองรับระบบ Merchant POS ให้ได้ใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดกันชิลๆ อีกด้วย มีทั้ง iOS และ Android ดาวน์โหลดได้ที่ iTunes และ Play Store เลยค่ะ

สังคมนิสิตกับชีวิต Cashless เป็นนิสิตที่นี่ ชีวิตก็จะแอดวานซ์หน่อยๆ เพราะที่มหาวิทยาลัยเจ้าของงานเกษตรแฟร์แห่งนี้ กำลังมุ่งหน้าสร้างสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มที่ มี KU App รองรับการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยนิสิตทุกคนจะมี QR Code เป็นของตัวเอง เอาไว้ชำระบริการภายในและภายนอกรั้วมหาวิทยาลัย แถม QR Code ตัวนี้ ยังเอาไว้ใช้เช็กชื่อเข้าคลาสเรียนได้ด้วย

แน่นอนว่านิสิตมี QR Code กันพร้อมขนาดนี้ ร้านค้าภายในมหาวิทยาลัยฯ ย่อมต้องได้รับการสนับสนุนให้มี QR Code กันถ้วนหน้าอยู่แล้ว ใครแวะเวียนไปหาญาติสนิทมิตรสหาย หรือไปเดินงานเกษตรแฟร์เมื่อไรล่ะก็ ลองไปส่องๆ ชิมลางการใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดกันดู

ร้านค้า-บริการปักป้าย "ไม่รับเงินสด" จีนเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามียักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอันดับต้นๆ ของโลกหลายเจ้า จึงไม่น่าแปลกใจว่าเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้ จะกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของสังคมไร้เงินสดที่ขึ้นชื่อว่าแอดวานซ์ขั้นสุด เพราะทุกวันนี้ ทั้งคนค้าขายและคนทั่วไปในเซี่ยงไฮ้ แทบทุกคนต่างมี QR Code เป็นของตัวเอง แถมร้านค้าจำนวนหนึ่งยังติดป้ายประกาศแสดงจุดยืนชัดเจนเลยว่า “ไม่รับเงินสด”

ไม่เฉพาะร้านค้า บริการต่างๆ ก็ล้วนปรับตัวสู่สังคมไร้เงินสดไม่แพ้กัน เช่น การเช่าจักรยาน ที่เซี่ยงไฮ้ไม่ต้องเช่ากับคนแล้ว แค่ไปที่จุดจอดจักรยานเช่า ซึ่งมีอยู่ทั่วๆ ไป แล้วก็ยิง QR Code ที่รถจักรยาน ระบบก็จะคิดอัตราค่าบริการในราคาเบาๆ แค่ 1 หยวนเท่านั้น ใครจะขึ้นรถไฟฟ้า ก็สามารถใช QR Code สแกนผ่านประตูทางเข้าออกเพื่อชำระเงินได้เลย เรียกว่าชีวิต 24 ชั่วโมงในเซี่ยงไฮ้ สามารถไปไหนมาไหนแบบไม่ต้องพกเงินสดกันเลยทีเดียว

ไม่ต้องรอซัมเมอร์เซล  แค่ชอปไม่ใช้เงินสดที่แดนกิมจิ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมุ่งมั่นและเห็นทิศทางกันชัดเจน เพราะเกาหลีใต้ประกาศตัวเลยว่า จะก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดในปี 2563 ตอนนี้ทั้งประเทศเลยมีระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) และระบบจ่ายเงินผ่านทางสมาร์ทโฟนให้ได้เห็นกันทั่วๆ ไป

ด้วยความมุ่งมั่นจะเป็นสังคมไร้เงินสดให้ได้ เกาหลีใต้จึงพยายามจูงใจคนทั่วไปด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ส่วนลดค่าสินค้า เพื่อให้คนหันมาใช้จ่ายเงินทางออนไลน์แทน ใครมีแผนไปทัวร์เกาหลี เตรียมบอกลาการพกเงินสดเป็นฟ่อนๆ ไปได้เลย

ขณะที่ทั่วโลกมีค่าเฉลี่ยการใช้เงินสดอยู่ที่ประมาณกว่า 70% ของกิจกรรมที่ต้องใช้จ่ายเงินทั้งหมด ประเทศสวีเดนกลับมีค่าเฉลี่ยการใช้เงินสดอยู่ไม่ถึง 20% พูดให้ชัดกว่านั้นคือ กว่า 80% ของการใช้จ่ายเงินในสวีเดน เกิดขึ้นผ่านบัตรเครดิต บัตรเติมเงิน และระบบโมบายล์เพย์เมนต์ของแอพพลิเคชันต่างๆ

สาเหตุที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นได้ เพราะตอนนี้บรรดาผู้ค้าปลีกในสวีเดนมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการปฏิเสธการรับเงินสดจากลูกค้า รถโดยสารในสวีเดน ไม่สามารถจ่ายค่าโดยสารได้ด้วยเงินสด ทุกคนทั้งร้านค้าและผู้ซื้อไม่ต้องมีต้นทุนในการพกเงินสด เรียกว่าเป็นสวรรค์ของการใช้ชีวิตแบบ Cashless จริงๆ

ทัวร์มาครบทั้ง 5 ที่แล้ว จะเห็นว่าสังคมไร้เงินสดไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ หากมีโอกาสล่ะก็ ลองแวะไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตในจุดหมายที่เราแนะนำ แบบไม่ต้องพกเงินสดกันได้เลย

อ้างอิงข้อมูล :

https://thumbsup.in.th/2017/08/scb-digital-ventures-product-of-chatuchak/

https://www.youtube.com/watch?v=gysKE3POUv0

https://www.koreatimes.co.kr/www/news/biz/2016/03/488_199146.html

https://www.theguardian.com/business/2016/jun/04/sweden-cashless-society-cards-phone-apps-leading-europe