ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ลงทุนซื้อที่ดินเปล่ายังไง? สร้างผลกำไรงาม
เมื่อพูดถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกจากการซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อปล่อยเช่าแล้ว ยังมีการซื้อที่ดินเปล่ารวมอยู่ด้วย แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าการซื้อที่ดินเปล่ากว่าจะได้กำไรหรือคืนทุนอาจต้องใช้ระยะเวลานานนับสิบปีราคาของที่ดินจึงจะขยับขึ้นสูง แถมในบางครั้งการที่ซื้อดินแปลงใหญ่ยังต้องให้เงินก้อนมหาศาลทำให้คนที่จะลงทุนในที่ดินมักจะต้องมีเงินเย็นที่ไม่ต้องรีบร้อนนำไปใช้ในเร็ววัน นอกจากนี้ยังมีพ่อแม่บางคนมักจะลงทุนซื้อที่ดินเพราะมองว่าที่ดินมีจำกัดยังไงเสียในอนาคตราคาต้องปรับขึ้นสูงอย่างแน่นอน จึงเลือกซื้อที่ดินสะสมเพื่อส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานเพราะหวังว่าในอนาคตราคาที่ดินจะปรับสูงขึ้นลูกหลานสามารถขายและได้รับเงินก้อนจากที่ดินมรดกนั้น แล้วจะเลือกซื้อที่ดินเปล่ายังไงที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต ติดตามได้จากบทความนี้
กลยุทธ์ซื้อที่ดิน
1.ซื้อและครอบครอง (Buy and Hold)
กลยุทธ์ซื้อและครอบครองไว้ เพื่อรอจังหวะราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นจากการขยายตัวของเมืองเลยทำให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นตาม โดยระหว่างรอราคาขยับสูงขึ้น เจ้าของที่ดินอาจปล่อยเช่าเพื่อหารายได้เสริมเข้ามา เช่น ให้ร้านสะดวกซื้อเช่าเพื่อเปิดกิจการ , ให้เช่าทำที่จอดรถ , ให้เช่าทำปั๊มน้ำมัน , ให้เช่าทำกิจการ และให้เช่าทำการเกษตร เป็นต้น โดยสามารถนำรายได้จากการปล่อยเช่ามาเสียภาษีระหว่างที่รอการขาย กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่มีเงินเย็นไม่ต้องรีบใช้เงินในระยะเวลาอันสั้น หรือซื้อเพื่อเก็บไว้เป็นมรดกเพื่อส่งต่อให้ลูกหลาน โดยกลยุทธ์นี้ ผู้ซื้อควรถือครอบครองที่ดินไว้อย่างน้อย 5 ปี และควรคัดเลือกที่ดินที่ในอนาคตมีแนวโน้มว่าเมืองจะขยับขยายมาตามแนวที่ดินหรือคาดว่าในอนาคตที่ดินแถวนั้นจะมีการพัฒนา เช่น มีถนนตัดผ่าน , มีระบบขนส่งมวลชนตัดผ่าน , มีสถานที่ราชการ , โครงการขนาดใหญ่มาตั้ง เป็นต้น นอกจากนี้ควรเลือกซื้อที่ดินในราคาที่เท่ากับราคาประเมินหรือถ้าซื้อได้ต่ำกว่าราคาประเมินก็ยิ่งดีใหญ่
2. ซื้อแปลงใหญ่แล้วแบ่งขายเป็นแปลงย่อยเพื่อทำกำไร (Divide and Profit)
กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับคนที่มีเงินทุนหนาหรือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะทำหมู่บ้านจัดสรรหรือจัดสรรที่ดินเพื่อให้ผู้ซื้อรายย่อยซื้อที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างบ้าน เป็นต้น โดยกำไรมาจากส่วนต่างของราคาที่ดินการซื้อที่ดินแปลงใหญ่จะได้ราคาต่อตารางวาถูกกว่าการซื้อที่ดินแปลงเล็ก แถมยังหาผู้ซื้อค่อนข้างยากเพราะใช้เงินทุนสูง แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่มีทุนหนาหรือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทำให้ผู้ขายต้องยอมตัดใจลดราคาที่ดินเพื่อให้ผู้ซื้อยอมจ่าย และเมื่อได้ที่ดินแปลงใหญ่ก็จะทำการแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงเล็กๆ เพื่อขายผู้ซื้อรายย่อยต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าราคาขายต่อตารางวาก็สูงกว่าการขายที่ดินแปลงใหญ่ กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนระยะสั้นและต้องการเงินทุนหมุนเวียน เช่น บ้านสัดสรรต่างๆ ซึ่งไม่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อย โดยกลยุทธ์นี้ ต้องเลือกซื้อที่ดินที่เป็นแปลงขนาดใหญ่ แล้วทำการแบ่งที่ดินออกแปลงย่อยและขายออกไปเพียงครึ่งเดียวส่วนที่เหลือถือเก็บไว้เพื่อขายในอนาคต
เทคนิคเลือกที่ดิน
สำหรับนักลงทุนรายย่อยการซื้อที่ดินใจกลางเมืองย่านธุรกิจคงเป็นไปได้ยากเพราะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ควรเลือกที่ดินแถบชานเมืองที่มีแนวโน้มว่าจะมีการขยายเมืองออกไปในอนาคต ซึ่งราคาที่ดินย่านชานเมืองยังไม่สูงมากนัก ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนควรศึกษาและหาข้อมูลให้รอบด้านเพื่อประกอบการตัดสินใจเพราะการซื้อที่ดินเป็นการลงทุนเงินจำนวนมากและควรเป็นเงินเย็น และในบางครั้งถ้าหากเลือกผิดที่ดินที่คาดหวังว่าจะทำกำไรอาจไม่เป็นไปอย่างที่หวังก็ได้ ดังนั้นควรใช้เทคนิคในการเลือกซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนดังนี้
1. เลือกซื้อที่ดินติดถนน ไม่เลือกที่ดินตาบอด
แน่นอนว่าที่ดินตาบอดราคาจะถูกมาก แต่ถ้าไม่มีทางเข้าออกของตัวเองแล้วใครจะมาซื้อต่อ หรือถ้ามีคนจะซื้อต่อมักจะเป็นเจ้าของที่ดินข้างๆ ที่อยู่ติดกันและแน่นอนว่าราคาอาจโดนกดเพราะรู้อยู่ว่าโอกาสที่คนจะซื้อต่อมีน้อยมาก ดังนั้นจึงไม่ควรเห็นแก่ของถูก ควรเลือกที่ดินที่ติดถนนใหญ่แม้จะมีราคาแพงกว่าแต่ก็มีทางเข้าออกของตัวเองและที่ดินที่ติดถนนใหญ่มีโอกาสที่จะถูกพัฒนาและมีความเจริญมากกว่าที่ดินที่อยู่ห่างไกลถนนใหญ่
2.เลือกซื้อที่ดินอยู่ในแหล่งชุมชนหรืออยู่ใกล้แหล่งชุมชน
สูตรการซื้อที่ดินเปล่าใกล้แหล่งชุมชน สูตร 1 ที่ดินแปลงนั้นต้องตั้งห่างไม่เกิน 48 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางของแหล่งชุมชนที่มีจำนวนประชากรอาศัยตั้งแต่ 500,000 คนขึ้นไป สูตร 2 ที่ดินแปลงนั้นต้องตั้งห่างไม่เกิน 8 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางของแหล่งชุมชนที่มีจำนวนประชากรที่อาศัยไม่น้อยกว่า 50,000 คน โดยมีเงื่อนไขว่าทิศทางความเจริญของเมืองจะขยายมาทางที่ดินด้วย (ดูได้จากอัตราการเพิ่มของประชากรในพื้นที่นั้น)
3.เลือกซื้อที่ดินในพื้นที่ที่มีจำกัด
ซึ่งหมายถึงที่ดินที่พร้อมใช้ประโยชน์ได้ทันที เช่น ที่ดินติดถนน, มีสาธารณูโภคน้ำประปาไฟฟ้าเข้าถึง เป็นต้น ส่งผลให้มีการเพิ่มจำนวนของประชาชนที่เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการพื้นที่นั้นซึ่งจะส่งผลให้ราคาที่ดินปรับสูงขึ้นได้
4.เลือกซื้อที่ดินที่มีโอกาสทำกำไรเท่านั้น
วิธีการคือให้คุณไปสำรวจโครงการสาธารณะประโยชน์ของภาครัฐว่ามีแนวโน้มจะไปพัฒนาไปตามพื้นที่ไหนตรงจุดใด เช่น การก่อสร้างทางรถไฟ รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า ตัดถนนใหม่ ทางด่วน มอเตอร์เวย์ ท่าเรือ นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยต้องเริ่มมีการก่อสร้างให้เห็นเพื่อให้แน่ใจว่าที่ดินที่ซื้อนั้นจะสามารถทำกำไรได้ในไม่ช้า ไม่ใช่โดนหลอกจากข่าวลือข่าวลวงต่างๆ ว่าแถวนี้จะมีถนนเส้นใหม่ตัดผ่านให้รีบซื้อ เพราะมีหลายครั้งที่เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น
5. เลือกซื้อที่ดินจากผังเมือง คุณภาพดิน และสิ่งเเวดล้อม
ก่อนตัดสินใจซื้อที่ดินควรไปศึกษาเลยว่าตามผังเมืองที่ดินนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่สีผังเมืองใด เพื่อประเมินราคาและการใช้ประโยชน์จากที่ดินบริเวณนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่และเหมาะสม เนื่องจากพื้นที่แต่ละสีมีกฎหมายจำกัดการก่อสร้างระบุไว้ชัดเจน ดูรายละเอียดผังเมืองจากบทความ “ทำความรู้จักกับ ‘ผังเมือง’ โซนพื้นที่สีต่างๆ ที่นักลงทุนควรรู้” /th/personal-banking/stories/city-planning-color-zones.html เพื่อที่จะได้รู้ว่าการลงทุนในที่ดินแปลงนั้นคุ้มค่าเหมาะขายในเชิงพาณิชย์หรือไม่ รวมถึงต้องดูคุณภาพดินว่าจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการทำเกษตรกรรมหรือไม่ และควรดูสภาพแวดล้อมรอบที่ดิน เช่น มีมลพิษทางอากาศหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสที่จะขายที่ดินได้เป็นไปได้ยาก เป็นต้น
นอกจากนี้ต้องไปสำนักงานที่ดินเพื่อตรวจสอบหลักเขตรวมไปถึงภาระติดพัน ศึกษาข้อมูลจากการทางพิเศษและกรมทางหลวงว่าที่ดินนั้นติดแนวเวนคืนหรือไม่ หรืออยู่ในเขตวิทยุสื่อสารการบิน หรือติดต่อการไฟฟ้าเพื่อดูว่าที่ดินแปลงนั้นติดเเนวเดินสายไฟฟ้าเเรงสูงหรือไม่
6.เลือกซื้อที่ดินที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม
ที่ดินรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสถือเป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูงสุดหรือที่ดินรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่หน้ากว้างอยู่ติดถนนก็ถือว่าเป็นรูปทรงที่ดินที่ดี เพราะสามารถทำประโยชน์ใช้สอยในพื้นที่ได้มากกว่าที่ดินในรูปทรงอื่นๆ
7.เลือกซื้อที่ดินขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป
การซื้อที่ดินขนาดเล็กเพื่อลงทุนไม่สามารถที่จะทำประโยชน์ใช้สอยอะไรได้ต่อในอนาคตจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะซื้อที่ดินขนาดเล็ก ส่วนที่ดินขนาดใหญ่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากทำให้หาผู้ซื้อต่อได้ยากและส่วนมากผู้ซื้อต่อมักจะเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ที่มีอำนาจต่อรองทำให้ราคาซื้อขายอยู่ในกำมือผู้ซื้อมากกว่า แล้วควรซื้อที่ดินขนาดไหนจึงจะดี ที่ดินในเมืองอย่างต่ำควรจะมีขนาดประมาณ 150-200 ตารางวาขึ้นไปเพื่อซื้อต่อไปสร้างคอนโดได้ หรือพื้นที่ขนาด 2 – 3 ไร่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มีรถไฟฟ้าผ่านสามารถสร้างสำนักงานหรือโรงแรมได้ หรือที่ดินขนาด 200 – 400 ตารางวาสามารถใช้สร้างคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ได้และเป็นที่ต้องการของตลาด
ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อที่ดินเปล่าควรศึกษาหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนเพื่อที่คุณจะได้ลงทุนได้อย่างไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงน้อยที่สุด มิเช่นนั้นอาจสูญเงินลงทุนเงินก้อนโตออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะสามารถคืนทุนหรือขายที่ดินแปลงนั้นได้เมื่อไหร่ สนใจลงทุนซื้อที่ดินแต่ยังขาดเงินก้อน ลองใช้สินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash เปลี่ยนบ้านเป็นเงิน บ้านยังมีอยู่ ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อนสบายนานสุด 30 ปี ดูรายละเอียด https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/my-home-my-cash.html
ที่มา :
https://www.home.co.th/living/topic-52568