ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
วิถีการลงทุนแบบใหม่ ลงทุนในหุ้นยั่งยืน
หากเลือกได้ ใครๆ ก็ต้องการความมั่งคั่งร่ำรวย อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครต้องการที่จะมีเงินทองแค่เพียงฉาบฉวย หากแต่ต้องการความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนมากกว่า บทความนี้จะมานำเสนอกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในแถบเอเชีย และประเทศไทย ซึ่งกลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่จะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดีและมีแนวโน้มที่เติบโตเท่านั้น แต่บริษัทนั้นยังต้องดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ Environment, Social, Governance (ESG) เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าเงินลงทุนนั้นจะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาวนั่นเอง
การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนนั้นเป็นอย่างไร?
การดำเนินธรุกิจอย่างยั่งยืน หมายถึง การที่บริษัทประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการเติบโตของผลกำไร ควบคู่ไปกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือที่เรียกว่า “ESG” ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 ด้าน ได้แก่
1.
สิ่งแวดล้อม (Environment)
หมายถึง การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
2.
สังคม (Social)
หมายถึง การจัดการด้านสังคม มีการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ดูแล ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงาน รวมถึงมีสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนรอบด้าน
3.
ธรรมาภิบาล (Governance)
หมายถึง การจัดการด้านธรรมาภิบาล ผ่านนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ต่อต้านการทุจริต คอรัปชั่น มีการดำเนินงานอย่างโปร่งใส และดูแลผลประโยชน์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท
ทำไมต้องลงทุนในหุ้นยั่งยืน?
จากผลการศึกษาต่างๆ ระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG และความเสี่ยงด้านตลาด(Market Risk) โดยบริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าและมีต้นทุนของเงินทุน (Cost of Capital) ต่ำกว่าบริษัทที่ไม่ให้ความสำคัญด้าน ESG รวมถึงมีความได้เปรียบในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดังนั้นแม้ว่าราคาหุ้นของบริษัทที่คำนึงถึงความยั่งยืนอาจมีสภาวะขึ้นลงตามสภาพแวดล้อมของตลาด แต่การลงทุนในหุ้นของบริษัทเหล่านี้จะมีความผันผวนน้อยกว่าในระยะยาว
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาล และหน่วยงานด้านการกำกับดูแล ที่จะเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนอย่างยั่งยืนมากขึ้น เช่น การออกกฎเกณฑ์การบริหารเงินลงทุนของหน่วยงานภาครัฐที่ให้นำประเด็นด้าน ESG มาใช้ประกอบการพิจารณา การประกาศมาตรการหรือข้อแนะนำให้ผู้ลงทุนสถาบันต้องคำนึงถึงปัจจัยด้าน ESG ในการลงทุน เป็นต้น
ในปัจจุบันนักลงทุนเริ่มหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับบริษัทที่ดี มีการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด ESG เพราะ ESG เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่แสดงถึงความมั่นคงอย่างยั่งยืนของธุรกิจ อีกทั้งการลงทุนในโครงการที่มีการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเนื่องจากมีการบริหารความเสี่ยงสำคัญของโครงการ และยังสามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนให้มีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมากขึ้น
โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดทำ Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือรายชื่อหุ้นยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวทางของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment)
หุ้นใน THSI จะถูกคัดเลือกจากบริษัทจดทะเบียนที่สมัครใจเข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืนที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยการประเมินจะครอบคลุมคำถามในมิติ ESG ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการทบทวนแบบประเมินทุกปีให้สอดคล้องกับบริบทและแนวโน้มด้านความยั่งยืน (Sustainability Trends) ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ โดยรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่ประกาศในเดือนตุลาคมของทุกปี จะใช้เป็นเกณฑ์คำนวณดัชนี SETTHSI เพื่อส่งเสริมการลงทุนในหุ้นยั่งยืน สามารถดูรายละเอียดรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ THSI ปีล่าสุด ได้ที่
http://www.setsustainability.com/libraries/710/item/thailand-sustainability-investment-lists
)
แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป คาดว่าจะมีความผันผวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดโรคระบาด และสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนที่พิจารณาจากบริษัทที่มีการมุ่งเน้นแนวทาง ESG จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะในระยะยาว บริษัทเหล่านี้จะกลายเป็น บริษัทที่มีความยั่งยืน และคาดว่าจะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนคาดหวังที่ดีให้กับนักลงทุนได้
บทความโดย : นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP®, ACC นักวางแผนการเงินอิสระ นักเขียนและวิทยากร