พลังงานสะอาด เทรนด์ทางเลือกและธีมการลงทุนรักษ์โลก

หนึ่งในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากที่สุดคือเรื่อง ปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่มีนักรณรงค์และผู้มีชื่อเสียงในหลากหลายแวดวงอย่าง เกรต้า ธันเบิร์ก  อดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ แบรด พิตต์ ลีโอนาร์โด ดิ คาร์ปริโอ ฯลฯ ที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เพราะภาวะโลกร้อน (Climate Change) ภาวะเรือนกระจก (Green House Effect) ฯลฯ ส่งผลเสียต่อสภาพความเป็นอยู่ของทุกชีวิตบนโลก และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน พลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ยิ่งทวีความสำคัญในการเปลี่ยนวิถีการใช้พลังงานของมนุษย์จากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบเดิมอย่างน้ำมัน มาเป็นพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่จะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้หมุนต่อไปได้อย่างยั่งยืน

green-energy-friendly-to-earth-01

ในปี 2018 พลังงานทดแทนถูกนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าทั่วโลกกว่า 6,586 เทระวัตต์ โดยพลังงานทางเลือกที่นำมาใช้มี 5 ประเภทได้แก่ 


1) พลังงานน้ำ  (Hydro)  เป็นพลังงานทางเลือกที่ถูกนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า (Hydroelectricity)  มากที่สุดถึง 63% พลังของกระแสน้ำทั้งจากแม่น้ำ ทะเลสาบ เขื่อน จะหมุนกังหันน้ำ (Turbine) และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

2) พลังงานลม (Wind)  มีทั้งลมทะเล (Onshore Wind) และลมนอกชายฝั่ง (Offshore Wind) ผลิตพลังงานด้วยกังหันลม และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเราจะเห็นภาพทุ่งกังหันลมในหลายประเทศ พลังงานลมถูกนำไปผลิตไฟฟ้าคิดเป็น 19% ของพลังงานทางเลือกทั้งหมด

3) พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) ที่เปลี่ยนพลังงานของแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานความร้อนโดยตรง 9% ของพลังงานไฟฟ้าในโลกที่ผลิตจากพลังงานทดแทนมาจากพลังงานแสงอาทิตย์

4) พลังงานชีวภาพ (Bio Energy)  การนำของเสียจากสิ่งมีชีวิตเช่นขยะที่เป็นสารอินทรีย์ไปหมักให้ย่อยสลายโดยปราศจากอ๊อกซิเจน จะได้ก๊าซมีเทนใช้เป็นเชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง ซึ่งพลังงานชีวภาพถูกนำไปผลิตไฟฟ้าคิดเป็น 8% ของพลังงานทางเลือกทั้งหมด

5) พลังงานใต้พิภพ (Geothermal)  เป็นพลังงานความร้อนที่เก็บกักอยู่ใต้ผิวโลกโดยความร้อนที่เกิดขึ้นภายในโลกส่วนใหญ่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตภาพรังสีที่มีเวลาครึ่งชีวิตยาวเช่น ยูเรเนียม ทอเรียม และโพแทสเซียม ที่สะสมในเปลือกโลก  1% พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทนมาจากพลังงานใต้พิภพ


เมื่อเร็วๆ นี้มีปัจจัยสนับสนุนธุรกิจพลังงานสะอาดให้เป็นที่จับตามองหลายปัจจัย ได้แก่ การที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้กลับมาเข้าร่วมข้อตกลง Paris Agreement ภายใต้ United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) เพื่อที่จะจัดการกับปัญหาก๊าซเรือนกระจก และรัฐบาลไบเดนก็ประกาศแนวทางชัดเจนที่จะสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม และมีเป้าหมายที่จะบรรลุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050  ความเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมของสหรัฐมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสหรัฐฯ ถือเป็นอีกหนึ่งในผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ และมีการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก 

ข้ามมาฝั่งยุโรป สหภาพยุโรปได้มีแผน European Green Deal ที่สนับสนุนให้การใช้ข้อบังคับและแคมเปญต่างๆ อย่างจริงจังเป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมสภาพอากาศอย่างยั่งยืน และผลักดันให้ประเทศในอียูเป็นสังคมที่ปลอดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใน 30 ปีข้างหน้า ที่สำคัญประเทศยักษ์ใหญ่ของเอเชียอย่างจีน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ก็แสดงจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 65% ภายในปี 2030 และในระยะยาวที่จะลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และเปลี่ยนมาเป็นการผลิตพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าใช้ภายในประเทศ


จากข้อมูล Renewable Energy Market Outlook – 2025 โดยเว็บไซต์ alliedmarketresearch.com คาดการณ์ว่ามูลค่าในตลาดพลังงานทดแทนทั่วโลกในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นแตะ 1,512.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากที่ในปี 2017 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 928 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราเติบโต 6.1% ต่อปี ซึ่งทางซีกโลกเอเชีย อย่างจีนและอินเดียนับเป็นภูมิภาคแห่งโอกาสของพลังงานทดแทนที่คาดว่าตลาดจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยปัจจัยการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร การพัฒนาอุตสาหกรรม และนโยบายเอื้อต่อภาคอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ซี่งในภาพรวมของธุรกิจไม่เพียงแต่กลุ่มผู้ผลิตพลังงานทดแทนเท่านั้น ยังรวมไปถึงผู้ผลิตอุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนด้วย

จากปัจจัยเรื่องความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและการที่รัฐบาลประเทศต่างๆ เห็นความสำคัญและมีนโยบายสนับสนุนเงินทุนให้ภาคอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และกฎข้อบังคับอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขวิกฤตเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่กล่าวมา ทำให้เรื่องพลังงานสะอาดเป็นเมกาเทรนด์ที่จะส่ร้างความเปลี่ยนแปลงโลกทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจการลงทุนในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน


สนใจลงทุนในกองทุนรวมด้วยแอป EASY INVEST ตัวช่วยให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย รวบรวมกองทุนรวมทั้งไทยและต่างประเทศ จาก 19 บลจ. ชั้นนำ กว่า 1,400 กองทุนรวม เปิดบัญชีเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่ม ข้อมูลเพิ่มเติม :  http://www.scbs.com/easyinvest หรือดาวน์โหลดแอป EASY INVEST -ที่นี่-