เรื่องจริงที่คนทำธุรกิจระหว่างประเทศต้องเจอ

ในอดีตการส่งสินค้าออกไปขายต่างประเทศ การก้าวออกไปตีตลาดโลกอาจเป็นเรื่องยาก แต่ในโลกปัจจุบันเมื่อมีเทคโนโลยีที่ย่อโลกให้แคบลง คุณกรวิกา วงศาริยวานิช CIO บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะมาพูดคุยกับเราในการใช้เทคโนโลยีที่ทำให้เรื่องที่เคยยากกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค ทำให้คนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ต่างกฎเกณฑ์ในการทำธุรกิจ มีความเข้าใจกันและกัน สามารถติดต่อค้าขายกันสะดวกขึ้น และนี่เป็นโอกาสของผู้ประกอบการส่งออกไทยที่จะก้าวไปผงาดในตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น

ตลาดการส่งออกยางล้อของไทยยากง่ายอย่างไร

คุณกรวิกา วงศาริยวานิช CIO บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด  ผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่ของประเทศไทย บริษัทคนไทย 100% เล่าว่าในภาพรวมการส่งออกยางรถยนต์ของคนไทย โดยพื้นฐานไม่ใช่เรื่องยากนักเพราะในตลาดต่างประเทศยอมรับสินค้าที่แปรรูปจากยางของไทยอยู่แล้ว เพราะตัวยางธรรมชาติของไทยเรามีคุณภาพที่ดี  แต่ในอดีตก็ต้องยอมรับว่าการส่งออกมีความยากกว่าปัจจุบันมากเพราะยังไม่มีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วย “จะออกไปขายก็คือการหิ้วสินค้าไปเข้าในงานแฟร์ต่างๆ ที่เขาจัดกัน เราก็จะมีปัญหาว่า เมื่อเราพบคู่ค้าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคู่ค้าคนนี้คือ The right partner” คุณกรเล่า ซึ่งต่างกับปัจจุบันที่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมทั้งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกของแต่ละประเทศ รวมทั้งข้อมูลคู่ค้าทั่วโลกเข้ามาช่วยให้ผู้ส่งออกทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น 

เทรดแฟร์วิธีการหาคู่ค้าแบบเดิมที่มีข้อจำกัด

คุณกรมองว่าการไปออกงานเทรดแฟร์มีเรื่องค่าใช้จ่าย การไปครั้งหนึ่งบางครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ในขณะที่อาจไม่ได้อะไรกลับมาเลย โดยเฉพาะการหาพาร์ตเนอร์ที่ใช่จริงๆ “เป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะรู้ว่าในประเทศนี้การที่คนๆ หนึ่งที่เข้ามาในบูธของเราเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้หรือไม่ มันมีขั้นตอนหลังจากนั้นที่ต้องตรวจสอบค่อนข้างเยอะ แล้วในหลายต่อหลายครั้งมันตรวจสอบไม่ได้” คุณกรเล่าถึงข้อจำกัดของการหาพาร์ตเนอร์ที่เชื่อถือได้จากเทรดแฟร์  อย่างไรก็ตามเธอยังมองว่าการไปเทรดแฟร์ ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ แต่ผู้ประกอบการควรหาเครื่องมือเสริมที่จะช่วยต่อยอดการไปเทรดแฟร์ให้มีประสิทธิภาพขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเครื่องมือที่ว่าก็คือการหาข้อมูลว่าคู่ค้าคนนี้เป็นใครมาจากไหน เชื่อถือได้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถเช็คได้จากหลายๆ แหล่ง เช่น Trade Insurance ที่จะสามารถบอกได้ว่าคู่ค้าคนนี้สถานะทางการเงินเป็นอย่างไร แต่ในการทำ Trade Insurance นั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามาอีก “แต่ปัจจุบันนี้ SCB มีการเปิดตัวโปรแกรม SCB Trade Club ขึ้นมาซึ่งสามารถเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะตรวจสอบว่าลูกค้าคนนี้มีตัวตนจริงหรือไม่ ก่อตั้งมานานแค่ไหนและมียอดขายเท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาได้” คุณกรเล่าถึงเครื่องมือตัวใหม่อย่าง SCB Trade Club ที่สามารถต่อยอดการไปเทรดแฟร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพแต่ยังเข้าถึงได้ไม่ดี มีสาเหตุจากอะไร

คุณกรเล่าถึงตลาดที่มีศักยภาพและเป็นตลาดใหญ่ เช่น รัสเซียและประเทศในแถบอเมริกาใต้ ซึ่งผู้ประกอบการไทยยังทำตลาดได้ไม่ดีนัก เธอเล่าว่าทั้งสองกลุ่มมีคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างคล้ายกันคือ มีการปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศมาก และการตรวจสอบว่าลูกค้าเป็นอย่างไร เป็นใครมาจากไหนค่อนข้างที่จะทำได้ยาก ประกอบกับระบบการค้าขายของเขาก็ใช้วิธีการที่แตกต่างกับที่อื่น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ทำให้ตัดสินใจได้ยากว่าจะมีความปลอดภัยในการค้าขายไปในตลาดเหล่านั้นหรือไม่ มีการป้องกันตัวเองที่ดีเพียงพอหรือไม่ ซึ่งเธอมองว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ถ้ามีเครื่องมือมาช่วยเสริมในเรื่องข้อมูลคู่ค้าในประเทศนั้นๆ ให้รู้ว่าคู่ค้าแต่ละรายเขามีเครือข่ายอยู่จริง มีความน่าเชื่อถือ มีเครดิตทางการเงินที่ดีและอยู่ในรายชื่อของ SCB Trade Club ก็จะสามารถมั่นใจได้ระดับนึงว่าคู่ค้าคนนี้มีตัวตนอยู่จริงแล้วก็มีความสามารถในการบริหารธุรกิจจริง

Trade Club และ Trade Portal ช่วยผู้ส่งออกได้อย่างไรบ้าง

“เบื้องต้นในส่วนของข้อมูลที่ทาง SCB Trade Club ได้มีการรวบรวมไว้ใน Trade Portal ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลการส่งออกไปในแต่ละประเทศ สถิติการส่งออกไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นยางหรือสินค้าที่เกี่ยวข้อง ค่อนข้างมีประโยชน์มากเพราะมีข้อมูลเชิงลึกหลายๆ ตัว สามารถทำให้เรารู้ว่า ณ ปัจจุบันนี้ที่เราส่งออกถ้าเทียบกับภาพรวมของทั้งประเทศแล้วเราอยู่ในลำดับที่เท่าไหร่ ยังมีตลาดไหนที่มีโอกาสที่จะเข้าไปได้อีก และส่วนที่น่าสนใจมากๆ เลยก็คือในส่วนของ Supplier list และ Importer list ซึ่งตัวนี้ไม่ใช่เพียงข้อมูลของลูกค้าอย่างเดียว แม้กระทั่งวัตถุดิบที่เรามีการใช้มีการนำเข้า ส่งออก เราก็สามารถเช็คได้ว่า ณ ปัจจุบันนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงในลิสต์ ของ Supplier มีใครเกิดใหม่ มีใครเติบโตขึ้นใหม่อย่างไร และการชี้แจงเรื่องของ Import duty ค่าใช้จ่ายในการส่งออกนำเข้า กฎระเบียบที่พัวพันในเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้ก็ประทับใจที่ทาง SCB Trade Club รวบรวมข้อมูลมาได้ค่อนข้างเยอะและมีความละเอียด มีความถูกต้องเป็นไกด์ไลน์ได้” คุณกรเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อข้อมูลและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีใน SCB Trade Club และ Trade Portal

ถ้อยคำที่ว่า “มีความรู้เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน” ยังใช้ได้ดีในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะโลกของผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าที่ต้องอัพเดทข้อมูลทั้งเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ของแต่ละประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมทั้งข้อมูลตัวเลขต่างๆ ที่จะใช้ประกอบการตัดสินใจในการทำตลาด และอีกส่วนที่สำคัญมากคือข้อมูลคู่ค้าที่จะตัดสินใจจับมือเป็นพาร์ตเนอร์ทำธุรกิจร่วมกันว่ามีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน เพราะคงไม่มีใครอยากบาดเจ็บจากการเลือกพาร์ตเนอร์ผิด แต่วันนี้ไม่ต้องเสียเวลาลองผิด ลองถูกอีกแล้วเพราะ SCB Trade Club ได้รวบรวมคู่ค้าที่เชื่อถือได้ และได้รับการคัดเลือกและรับรองจาก 14 ธนาคารชั้นนำ มากกว่า 21,000 ราย จาก 51 ประเทศทั่วโลก เพื่อประหยัดเวลาในการหาข้อมูลและสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ

ลูกค้าธุรกิจที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายธุรกิจระดับโลก SCB Trade Club สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ SCB Business Call Center 0 2722 2222