ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่มี Mindset เดียวกันคือหัวใจของความสำเร็จ
เรื่องจริงที่คนทำธุรกิจระหว่างประเทศต้องเจอ
การผลิตสินค้าระดับลักซ์ชัวรี่ ที่ต้องมีสแตนดาร์ดสูง เพื่อนำไปตีตราเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานละเอียดยิบและไม่ใช่เพียงแค่บริษัทของเราที่ต้องมีมาตรฐานสูง คู่ค้าหรือซัพพลายเออร์ก็ต้องมีมาตรฐานในระดับเดียวกัน การค้นหาคู่ค้าที่จะกลายมาเป็นพาร์ตเนอร์ที่ไว้ใจได้และมีแนวคิดเดียวกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปถ้าเราเข้าถูกช่องทาง การมีพาร์ตเนอร์ที่เชื่อใจได้ ก็เหมือนมีเพื่อนที่ดีที่จะจับมือไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน
Mass Product ที่พิเศษทุกชิ้น
“เราไม่ได้อยู่ในธุรกิจกล่องธรรมดาทั่วไป กล่องของเราอยู่ด้วย reputation ของแบรนด์ที่แปะอยู่บนกล่อง บางกล่องอาจมีแค่ครั้งหนึ่งในชีวิตที่คนบางคนจะได้ใช้หรือสวมใส่ ทุกกล่องที่ผลิตมาจากโรงงานต้องให้ความสำคัญทุกชิ้นทุกใบ กล่องที่เป็น mass production เราต้องทรีทเป็นกล่องพิเศษทุกๆ ใบ ด้วยความที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก” คุณท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ซีอีโอบริษัท ไอพีดี แพคเกจจิ้ง จำกัด บริษัทผู้ผลิต ส่งออก สินค้าประเภทแพคเกจจิ้งระดับลักซ์ชัวรี่ ให้กับ แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เล่าให้เราฟังถึงความพิถีพิถันในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าระดับไฮเอนด์ เมื่อสินค้าทุกชิ้นที่ออกจากโรงงานต้องมีมาตรฐานสูง คุณท็อปจึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับคู่ค้ากับซัพพลายเออร์เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าธุรกิจที่ทำอยู่คืออะไร เราอยู่จุดไหน อะไรคือลักซ์ชัวรี่ ทำไมจึงต้องการสเปคที่สูง เพื่อสร้างความเข้าใจให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกันเพื่อสามารถเดินหน้าไปสู่จุดหมายเดียวกันได้
ด่านโหดที่ต้องผ่านในการผลิตสินค้าลักซ์ชัวรี่
“อย่างถ้าเป็นกระดาษเราต้องใช้กระดาษที่เป็น FSC เท่านั้น ดังนั้นการที่จะมีสเปคหรือมีชื่อ FSC ภายใต้โรงงานต้องผ่านการตรวจสอบเยอะมาก นี่แค่เรื่องกระดาษ แต่ถ้าบางแบรนด์ที่เป็นสเปคยุโรปจะต้องผ่าน certification ต่างๆ เช็คกันตั้งแต่พนักงานทำงานสะอาดมั้ย เข้างานกี่ชั่วโมง บริษัทมีสวัสดิการอะไรให้พนักงานบ้าง ประตูหนีไฟมีกี่บาน มีห้องน้ำกี่ห้อง มีแยกแบ่งหญิงชายหรือไม่ คอนดิชั่นของโรงงานเป็นอย่างไรมีฝุ่นเยอะมั้ย โรงงานมีบรรยากาศอย่างไร เรื่องพวกนี้จะถูกเช็คหมด อย่างตอนนี้ผมไปลงทุนโรงงานที่พม่า คำถามแรกผมโดนถามเลยว่าพนักงานที่นั่นอายุเท่าไหร่ มีเด็กมั้ย ที่นั่นเราจะรับประกันได้อย่างไรว่าสแตนดาร์ด คนที่นั่นกับคนที่นี่เหมือนกัน เรามีการจัดการยังไง มันละเอียดมาก” คุณท็อปบรรยายถึงความยากและมาตรฐานต่าง ๆ ที่ต้องผ่าน ซึ่งทั้งหมดที่ว่าไม่ใช่แค่โรงงานของคุณท็อปเองแต่โรงงานของซัพพลายเออร์หรือโรงงานต่าง ๆ ที่อยู่ในเชน ก็ต้องมีมาตรฐานในระดับเดียวกัน จึงต้องมีการส่งคนไปตรวจสอบแต่ละโรงงานซึ่งต้องใช้เวลา “แต่ง่ายที่สุดถ้าเขามีเอกสารที่จะยืนยันได้ว่าเขาผ่านสแตนดาร์ดเหล่านี้แล้ว มันก็คุยกันง่ายขึ้น” คุณท็อปกล่าว และนั่นจะง่ายขึ้นถ้าเราสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลคู่ค้าที่ได้รับการคัดเลือกและรับรองมาแล้วว่ามีมาตรฐาน
เครดิตทางการเงินของคู่ค้าเรื่องสำคัญที่ยากจะรู้
“จริงๆที่ผ่านมาเครดิตในเรื่องการเงินนั้นเช็คไม่ค่อยได้ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาใช้ชื่อบริษัทไหน บัญชีเขาเปิดที่ประเทศไหนและการเงินเขาเป็นอย่างไร ค่อนข้างลำบากเหมือนกันถ้าจะพูดถึงเรื่องการเงิน” ซึ่งที่ผ่านมาคุณท็อปจะใช้ความรู้สึกมากกว่าว่าเวลาไปพบคู่ค้าแต่ละรายแล้วรู้สึกยังไง หรือใช้เรื่องของชื่อเสียงว่าบริษัทนี้อยู่ในตลาดมานานขนาดไหน พอจะไว้ใจได้หรือไม่ หรือมีการ reference ผ่านคนรู้จัก “แต่ตอนนี้ SCB Trade Club สามารถจะมาช่วยเราได้เป็นตัว Verify ว่าบริษัทนี้ มีบัญชีธนาคาร จริงๆ ในประเทศนั้นๆ และยืนยันได้ว่าเครดิตดี ก็เป็นการสกรีนในด้านการเงินไปแล้ว ซึ่งผมสบายใจว่าเขามีต้นตอ รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและเขาก็มีเครดิตในเรื่องการทำธุรกิจด้วย” คุณท็อปเล่าถึงประโยชน์ของตัวช่วยอย่าง SCB Trade Club ที่ช่วยให้การค้นหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองมาแล้วว่ามีเครดิตที่ดีได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
กว่าจะจับมือเดินหน้าไปด้วยกันต้องผ่านการทดสอบ
การหาคู่ค้าของคุณท็อปเริ่มจากเพื่อน เริ่มจากคู่ค้าหรือลูกค้าที่จะส่งต่อให้รู้จัก ซึ่งไม่มีทางรู้ว่าจะทำให้ได้รู้จักกับคู่ค้าคนใหม่ที่ดีและน่าไว้ใจมากแค่ไหน ซึ่งคุณท็อปก็จะใช้การค้นหาไปเรื่อยๆ และกว่าคุณท็อปจะตกลงทำธุรกิจกับคู่ค้าแต่ละรายต้องผ่านการทดสอบในหลายปัจจัย เพราะคู่ค้าที่จะเดินไปด้วยกันต้องไว้ใจกันได้ ต้องรู้เค้ารู้เรา “เหมือนการคบแฟน บางทีเราต้องทำความรู้จักกันมาสองสามปีก่อนจะที่จะมาทำธุรกิจร่วมกัน” เช่น มีการทดสอบการส่งของกลับไปกลับมา ทำไประยะหนึ่ง จนกระทั่งมีความมั่นใจ จึงเริ่มการเป็นพาร์ตเนอร์กันจริงจัง “เมื่อไหร่ธุรกิจของผมมีการ kick off มันย้อนกลับมาไม่ได้ ผมต้องการันตีแล้วว่าของของผมต้องถูกส่งตรงเวลา” คุณท็อปเล่าต่อไปถึงปัญหาเมื่อของถูกส่งไม่ตรงเวลาว่า ต้องส่งทางเครื่องบินแทนอย่างเดียว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพงมาก “ดังนั้นถ้าเรามีพาร์ตเนอร์ที่เราไว้ใจได้ว่าจะส่งของได้ตามกำหนด มีเครดิตการเงินดี ไม่ใช่แค่ดีกับเราแต่ต้องดีกับคู่ค้ารายอื่นของเขาด้วย ความเสี่ยงในเรื่องการติดขัดระหว่างการผลิตก็จะไม่มี”
ธุรกิจต้องทำเพื่อ Purpose
Mindset เป็นอีกเรื่องที่คุณท็อปให้ความสำคัญมากเพราะเขามองว่าการทำธุรกิจทุกวันนี้ไม่ใช่การทำเพื่อเงินอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องทำเพื่อ purpose ทำเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง “ผมว่าธุรกิจที่ทำเพื่อเงินมันอาจจะไม่ได้ยั่งยืนอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก” คุณท็อปจึงให้ความสำคัญกับการได้เจอได้พูดคุยกับเจ้าของหรือผู้บริหารของพาร์ตเนอร์เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีคิดและวิธีการทำงานว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ มีทัศนคติที่เป็นบวก มองว่าธุรกิจมีความเป็นไปได้ “เพราะผมเชื่อว่าถ้าคุณอยากจะทำก็ทำได้ทั้งหมด เหมือนที่เค้าบอกว่าถ้ามันมี will มันก็จะมี way เลยอยากจะมองในเรื่องของวิธีการคิดหรือ mindset ของคนที่เราจะทำงานด้วย ว่าเขาได้เห็นความเป็นไปได้หรือเห็นโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกันหรือเปล่า” ถ้าเจอพาร์ตเนอร์ที่คุยกันแล้วเข้าใจในกันและกัน เห็นโอกาสเหมือนกัน การทำธุรกิจด้วยกันก็จะง่ายขึ้นมาก
พาร์ตเนอร์คือเพื่อนที่ต้องไว้ใจได้
“สำหรับผมคู่ค้าเปรียบเสมือนพาร์ตเนอร์ คือเพื่อนที่เราไว้ใจ ในชีวิตหนึ่งเรามีคนรู้จักเยอะแยะมากมาย แต่คนที่เราจะสนิทและไว้ใจได้จริงๆ มันใช้นิ้วนับได้ มีอยู่ไม่กี่คน ผมก็มองเช่นเดียวกันกับธุรกิจ เราไม่จำเป็นต้องมีเยอะมากมาย เพราะถ้ามีเยอะมันก็ควบคุมคอนโทรลอะไรยากขึ้นด้วย” ดังนั้นคุณท็อปจึงเน้นที่คุณภาพ การมีพาร์ตเนอร์ที่ดี มี mindset เหมือนกัน มีวิธีคิดเหมือนกัน มีเป้าหมายเหมือนกัน “ผมว่าเราเก็บคนกลุ่มนี้ไว้ดีกว่าแล้วเราจะโตไปด้วยกัน” เช่นเดียวกันกับพนักงาน ที่มีการลงทุนในการพัฒนาเพราะว่าทั้งบริษัทและพนักงานจะมาสร้างการเติบโตของบริษัทไปด้วยกัน ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มองทุกอย่างเป็นเรื่องธุรกิจ หรือเรื่องการเติบโตในเรื่องของตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่เน้นเรื่องการเติบโตในมุมของประสบการณ์ การเติบโตในเรื่องของการทำงาน การคิด “ผมมองว่ามันเป็นการบริหารในรูปแบบของมนุษย์ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัว ถึงแม้ว่าบริษัทผมจะมีคน 2-3 พันคน ผมอยากให้เป็นในรูปแบบของครอบครัว อบอุ่นและใกล้ชิดและเติบโตไปด้วยกัน”
สร้างความสัมพันธ์สำคัญกว่าตัวเลข
“ผมให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากกว่าตัวเลข เพราะคิดว่าตัวเลขมันไม่ยั่งยืน เราอาจจะกำไรวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะไม่กำไร ตัวเลขบางทีมันทำได้ บางทีมันก็หลอกเราด้วยซ้ำ” คุณท็อปมองว่าการสู้ด้วยตัวเลขเป็นเรื่องไม่สนุก แต่เน้นสู้ด้วยวิธีคิด ทำงานให้ด้วยสนุกและท้าทายดีกว่า เช่น เดียวกันกับพนักงาน ซึ่งคุณท็อปมองว่าถ้าพวกเค้าไม่ได้คิดเหมือนกัน ไม่เชื่อเหมือนกัน ก็ไปต่อไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนทุกระดับทั้งคนข้างในคือพนักงาน และคนข้างนอกคือพาร์ตเนอร์และลูกค้า พยายามทำให้ความคิดหรือความฝันของทุกฝ่ายไปในทิศทางเดียวกัน เห็นโอกาสในการเติบโตไปด้วยกัน จึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ดีกับพนักงาน พาร์ตเนอร์และลูกค้ามาตลอด “ผมว่าเรื่องนี้สำคัญมากถ้าให้ผมพูดเรื่องตัวเลขกับพนักงานตัวเลขไม่มี feeling ตัวเลขเปลี่ยนได้ตลอด แต่ความสัมพันธ์มันมีแต่การพัฒนาไปเรื่อยๆ” คุณท็อปทิ้งท้าย
SCB Trade Club ช่วยในเรื่องธุรกิจได้อย่างไร
“SCB ก็มีพาร์ตเนอร์กับธนาคารที่สวิสเซอร์แลนด์อยู่แล้ว ซึ่งธุรกิจของเราก็มาจากที่สวิสและฝรั่งเศส ดังนั้นการที่เอาตัวเราไปอยู่ใน Trade Club ทำให้เราได้รับการยอมรับอีกรูปแบบนึง เป็นการสร้าง awareness ว่าเราก็อยู่ตรงนี้ เครดิตบริษัทเราดีนะ” ซึ่งการเป็นสมาชิกของ Trade Club จะช่วยให้ชื่อของบริษัทเป็นที่รู้จักในต่างอินดัสทรีมากขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากอินดัสทรีเดิมที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ซึ่งอาจช่วยให้เกิดการขยายธุรกิจไปในสาขาอื่นๆ ได้อีกในอนาคต
การมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่ดีเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ จะอาศัยเพียงแค่การแนะนำหรือบอกต่ออย่างเดียวไม่พอ เพราะเราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนๆ นั้นหรือบริษัทนั้นน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ขนาดไหน วันนี้ไม่ต้องเสียเวลาลองผิด ลองถูกอีกแล้วเพราะ SCB Trade Club ได้รวบรวมคู่ค้าที่เชื่อถือได้ และได้รับการคัดเลือกและรับรองจาก 14 ธนาคารชั้นนำ มากกว่า 21,000 ราย จาก 51 ประเทศทั่วโลก อย่างน้อยคุณก็เบาใจได้ในระดับหนึ่งว่าเป็นคู่ค้าที่มีเครดิตที่ดี มีตัวตน แล้วค่อยมาต่อยอดสื่อสารกันต่อไปว่าใครจะเป็นพาร์ตเนอร์ที่มี Mindset ที่ใช่สำหรับคุณในอนาคต
ลูกค้าธุรกิจที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายธุรกิจระดับโลก SCB Trade Club สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ SCB Business Call Center 0 2722 2222
THE GLOBAL TRADE PLATFORM DESIGNED TO HELP YOUR BUSINESS EXPAND INTERNATIONALLY