ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เจาะลึก Silicon Valley ศูนย์รวม Startup และ Tech companies ระดับโลก
Google, Facebook, Apple, eBay, Adobe, Yahoo, Netflix, Oracle และอีกหลากหลายบริษัทชื่อก้องโลก... ยังจำวันนั้นได้ดี วันที่นั่งรถวิ่งเอื่อยๆ ผ่านหุบเขาแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันดับหนึ่งของโลกเป็นครั้งแรก อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ที่ได้มาเห็นสำนักงานใหญ่ตัวจริงเสียงจริง ของบริษัท Technology companies ชื่อก้องที่หลายบริษัทเราเองก็เป็นหนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ทีใช้งานอยู่ทุกวัน วันละหลายๆ รอบ ที่นี่จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก Silicon Valley หุบเขาแห่งเทคโนโลยี ที่ทอดตัวอยู่ทางใต้ของ San Francisco Bay ในมลรัฐ California วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Silicon Valley กันว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร และอะไรทำให้หุบเขาอันแสนโมเดิร์นแห่งนี้ที่เป็นศูนย์กลางของเหล่า Startup และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก
ความยิ่งใหญ่ของ Silicon Valley
ศูนย์รวมของความไฮเทคแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกโดยเฉพาะด้านคอมพิวเตอร์ โซเชียลมีเดีย อินเทอร์เนต ซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ เส้นใยแก้ว หรือแม้กระทั่งเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทมากกว่า 30 แห่ง ที่ติดอันดับอยู่ใน Fortune 1000 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้สูงสุด และหลายบริษัทเป็นผู้นำในเทคโนโลยีด้านนั้นๆ ของโลก เช่น Google เป็นผู้นำด้าน Search Engine ที่ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น หรือ Facebook เจ้าพ่อแห่งโซเชียลมีเดียของโลก Silicon Valley ยังเป็นศูนย์รวมของ Startup หลายพันบริษัท และหนึ่งในสามของของ Venture capital หรือบริษัทที่ลงทุนใน Startup ในสหรัฐก็อยู่ใน Silicon Valley ทำให้หุบเขาที่ที่ดินราคาแสนแพงแห่งนี้เป็น Hub และเป็น Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ ของ Startup ในด้านนวัตกรรม IT และวิทยาศาสตร์หลายสาขา
เป็นศูนย์รวมของแรงงานคุณภาพในด้าน IT กล่าวคือมีจำนวนพนักงานด้าน IT ใน Silicon Valley กว่า 250,000 คน เรียกว่ามีความหนาแน่นและกระจุกตัวของทั้งตัวบริษัทและพนักงานด้าน IT มากที่สุดในอเมริกา ชื่อ Silicon Valley ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ American High-Technology ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล และในระดับโลกคำๆ นี้ เป็นตัวแทนของผู้นำในด้านเทคโนโลยีชั้นสูง การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมโดยเฉพาะด้าน IT นอกจากนั้น Silicon Valley ยังมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจต่อสหรัฐอย่างมากทั้งในแง่ของการจ้างงาน รายได้ ซึ่งตามมาด้วยรายได้จากการเก็บภาษี และมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ที่มาของชื่อ Silicon Valley
หลายๆ คนอาจเข้าใจผิดว่า Silicon Valley เป็นชื่อเมือง แต่จริงๆ แล้ว Silicon Valley เป็นพื้นที่ที่รวมหลายเมืองในบริเวณใกล้เคียงไว้ด้วยกัน โดยเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือ San Jose และเมืองอื่นๆ ที่ประกอบกันเป็น Silicon Valley เช่น Santa Clara, Sunnyvale, Mountain View, Menlo Park , Palo Alto โดย San Jose ยังเป็นเมืองที่มี GDP per capita หรือรายได้ต่อหัวของประชากรมากเป็นอันดับสามของโลก รองจาก Zurich และ Oslo
ชื่อ Silicon Valley เกิดขึ้นโดย Don Hoefler ผู้ที่เรียกพื้นที่ในหุบเขาแห่งนี้เป็นครั้งแรกว่า Silicon Valley ในบทความของเขาชื่อ "Silicon Valley USA" ในปี 1971 ซึ่งชื่อนี้เกิดเพราะในยุคเริ่มต้นที่นี่มีการผลิต semiconductor computer chips จำนวนมากซึ่งใช้ซิลิคอนเป็นส่วนประกอบหลัก หลังจากนั้นในช่วงต้นของปี 1980 ชื่อนี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นหลังจากการเกิดขึ้นของ IBM รวมทั้งการผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์จากหลากหลายบริษัทเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ทำไม Silicon Valley ถึงประสบความสำเร็จ
มีหลายเหตุผลด้วยกันที่ทำให้ Silicon Valley ประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
นอกจาก Stanford มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ เช่น University of California at Berkeley, San Jose State University ก็มีบทบาทสำคัญในการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งสร้างทรัพยากรบุคคลด้านเทคโนโลยีป้อนสู่ตลาดแรงงานด้วย
บริษัทชื่อดังที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน Silicon Valley
เนื่องจากที่นี่เป็นที่ตั้งของหลายบริษัทชื่อดังระดับโลก จึงกลายเป็นอีกจุดหนึ่งในแคลิฟอร์เนียที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ตัวอย่างบางส่วนของบริษัทชื่อดังที่มีสำนักงานใหญ่ใน Silicon Valley พร้อมเมืองที่ตั้ง เผื่อใครอยากจะแวะไปเยี่ยมชม
จะเห็นว่าความสำเร็จของ Silicon Valley จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดการสนับสนุนจากสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพและมีปรัชญาในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาสังคม พัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมอย่างมหาวิทยาลัย Stanford ก็ได้แต่หวังว่าสักวันระบบการศึกษาและสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยจะก้าวไปสู่จุดนั้นในการเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ใครที่สนใจอยากไปเยือน Silicon Valley สักครั้งก็ไม่ยาก ถ้าบินไปลงที่ San Francisco อยู่แล้วขับรถแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว นอกจากตัวบริษัทดังๆ ในบริเวณนั้น ยังมีพิพิธภัณฑ์ดีๆ ให้เข้าไปเยี่ยมชมอีกหลายแห่ง อาทิ Computer History Museum, Children’s Discovery Museum of San Jose, The Intel Museum, Moffett Field Historical Society Museum
อ้างอิง