ต้องยอมรับกันว่าปัจจุบัน Facebook เป็นหนึ่งในเครื่องมือตัวท็อปๆ ที่แม่ค้า พ่อค้าออนไลน์เลือกใช้เป็นช่องทางในการขายสินค้า เพราะ Facebook มีผู้ที่ใช้งานเป็นประจำทุกวันจำนวนมหาศาล และที่เด็ดกว่านั้น Facebook มีเครื่องมือในการโฆษณาที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างแม่นยำ ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Facebook Ads ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะทำให้ขายดิบขายดีเพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญกว่านั่นคือตัวสินค้าเอง และที่สำคัญตัวคอนเทนต์ในแต่ละโพสต์ ซึ่งจริงๆ แล้วมีความสำคัญกว่าการยิงแอดได้อย่างถูกต้องแม่นยำเสียอีก จุดเริ่มต้นของทฤษฎีนี้ต้องมาจากคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมก่อน ต่อให้ยิงแอดเซียนแค่ไหนก็ไม่สามารถยิงแอดให้ดีโดยมีคอนเทนท์ที่แย่ได้ และสำคัญคือทุกคอนเทนท์ ไม่ได้ต้องการแค่ engagement อย่างเดียว คือปังอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องเป็นคอนเทนท์ที่ทั้ง “ปังและได้เงินด้วย!”

วิธีทำคอนเทนต์คือ บอกสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ก่อน แล้วค่อยบอกในสิ่งที่เขาควรรู้  และปิดด้วยข้อเสนอที่เขามิอาจปฏิเสธได้

ขั้นที่ 1 คือบอกสิ่งที่เขาอยากรู้ก่อนนั่นคือ อย่าเพิ่งเปิดด้วยนำเสนอสินค้าตรงๆ แต่ให้พูดถึงสิ่งที่เขาต้องการ ผลลัพธ์ที่เขาได้จากสินค้าเราก่อน

ขั้นที่ 2 คือ บอกสิ่งที่เขาควรรู้นั่นคือนำเสนอ product ของเรา ที่เป็นตัวยืนยันว่าขั้นแรกที่เราสื่อสารไป สิ่งเหล่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยสินค้าของเรานั่นเอง

ขั้นที่ 3 “ปิดท้ายด้วยข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้” อาจใช้ประโยคปิดการขาย ให้มีเรื่องอารมร์ความรู้สึกผสมอยู่ด้วย ซึ่งโดยทั่วไปส่วนใหญ่มักใช้ประโยค เช่น สมัครเลย สนใจสั่งซื้อคลิก ขอรายละเอียดทัก Inbox เป็นต้น แต่การใช้ประโยคที่มีอารมณ์ผสมอยู่ ควรเป็นประโยคที่มาจากความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เช่น ขายแหวน ยิงแอดไปหาผู้ชายที่มีแฟน และใช้ประโยคปิดการขายว่า “นานเท่าไหร่แล้วที่คุณไม่ได้ซื้อของขวัญล้ำค่า ให้คนที่คุณบอกรักทุกวัน ซื้อแหวนที่ผู้หญิงทุกคนจะดีใจเมื่อได้รับมัน...

เมื่อมีคอนเทนต์ที่ดีแล้ว ก็เหมือนเรามีกระสุนที่ยอดเยี่ยม พร้อมที่จะยิงแอดออกไป ในการยิงแอดนางฟ้าคือแอดตัวเดียวที่ดีใช้ได้ยาวทั้งปี เขามีแอดหลายตัวที่เปิดยาวได้ทั้งปี แต่ต้องยอมรับว่าบางครั้งมันก็เป็นนางฟ้า ทำกำไรให้มากมายแต่บางช่วงเวลามันก็เป็นคนธรรมดา ที่สร้างยอดขายได้เฉยๆ และก็มีบางทีที่มันเป็นผีสิงเหมือนกันที่ยิงไปแล้วขาดทุนต้องปิดพักไว้ก่อนก็มี

แยกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือตัวแปรเพิ่ม กับตัวแปรลด

ตัวแปรเพิ่มมี 3 ตัวหลักๆ

1. ปริมาณคนที่ทักเข้ามา คือ จำนวนคนที่ติดต่อเข้ามา ไม่ว่าจะทาง Inbox หรือ LINE@ หรือ แม้แต่โทรมาก็ตามแต่ ยกตัวอย่างเช่น มีคน Inbox มา 60 คน ทักเข้ามาใน LINE@ 30 คน โทรมาอีก 20 คน (ต้องนับจากโฆษณาทุกแคมเปญของวันนั้นรวมกัน)

2. อัตราการปิดการขาย

ข้อนี้เข้าใจไม่ยากคือ อัตราการปิดการขาย คิดง่ายๆ คือ จากข้อ 1 คนทักเข้ามา 100 คน เราปิดได้กี่ % สมมติ 40% ก็เท่ากับว่าเรา ปิดการขายได้ 40 ออเดอร์

3. กำไรต่อออเดอร์ สำหรับ คนที่เป็นตัวแทน

สำหรับคนที่เป็นตัวแทนข้อนี้ คือปัจจัยในการเลือกสินค้า สำหรับตัวแทนจำหน่ายสายยิงแอด คุณสต๊อกของมาในราคา 300 จากราคาขายปลีก 500 บาท

เท่ากับว่าคุณได้กำไรต่อชิ้น 500-300 = 200 บาท/ชิ้น

จะมีสูตรการตั้งเรทราคาขายเป็นชุด เพราะ ไม่ว่าคุณจะ ปิดการขายไม่ได้เลย หรือปิดได้ 1 ชิ้นต่อ 1 ออเดอร์ หรือแม้กระทั่ง 10 ชิ้นต่อ 1 ออเดอร์ คุณก็จะมีต้นทุนค่าโฆษณาเท่าเดิม เพราะฉะนั้นจะขายต้องขายให้คุ้ม

4. ต้นทุน

นอกเหนือจากตัวสินค้า ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนวณเพิ่ม ลองเอามาคำนวณดีๆ ถ้าให้คิดเร็วๆ ก็ค่าโฆษณาที่จ่ายให้กับ Facebook  แต่จริงๆ แล้วมันแฝงด้วยค่าจ้างแอดมิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าเช่าสำนักงาน สารพัดค่า  หลายธุรกิจตกม้าตาย เพราะว่า คิดต้นทุนไม่ครบ ไม่คิดเงินเดือนตัวเอง ค่าใช้จ่ายที่เราต้องควักเงินจ่ายออกไปนั้น คิดเป็นต้นทุนหมด

หลังจากเรารู้จักตัวแปรทั้ง 4 ตัวแล้วเรามาเข้าสูตรกัน

ขั้นตอนการสร้าง “แอดนางฟ้า”

1. Tracking : สร้าง Pixel Funnel เพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียด
คุณต้องรู้ให้ได้ว่าโฆษณาที่ยิงไป มีคนอ่านจบกี่คน มีคนอ่านไม่จบกี่คน แต่ละคนอ่านถึงส่วนไหนบ้าง มีต้นทุนต่อการขายเท่าไหร่ และขายได้เงินเท่าไหร่แล้ว ถ้ารู้ได้ลึกขนาดนี้ คุณก็จะปรับปรุงคอนเทนต์ได้ตรงจุด จะได้รู้ว่าต้อง “ยื่นข้อเสนออะไร ข้อความแบบไหน” และจะพัฒนาให้สองส่วนแรกในสมการขายดีของสมบูรณ์แบบขึ้นได้อย่างไร “ข้อเสนอที่ใช่”  “ข้อความที่ใช่” สิ่งนี้จะทำให้คอนเทนต์โฆษณาชิ้นนั้น กลายเป็นคอนเทนต์นางฟ้าที่เฟสบุ้คมองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ดี แต่… ถึงแม้จะมีคอนเทนต์ดีแค่ไหน ถ้ายิงไปไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช่มันก็จะไม่สร้างผลลัพธ์

2. Conversion : ยิงแอดด้วยแคมเปญคอนเวอร์ชั่น แทนที่จะยิงแอดหา “คนที่ชอบส่งข้อความ” ต้องยิงแอดหา “คนที่ชอบซื้อ” และนั่นคือการยิงแอดด้วยแคมเปญ Conversion ถ้าคุณมีข้อมูลจาก Pixel Funnel จะตั้งค่าแคมเปญ Conversion ให้ตรงกับสิ่งที่ต้องการได้ ในภาพคือการตั้งค่าบอก Facebook ว่าให้ยิงแอดไปหา “คนที่มีพฤติกรรมชอบคลิกซื้อ  ซึ่งน่าจะตรงวัตถุประสงค์มากกว่าเท่านี้ Facebook ก็จะรู้แล้วว่าจริงๆแล้ว คุณต้องการคนที่ซื้อสินค้า ไม่ใช่แค่คนทักนี่คือการทำให้สมการขายดีสมบูรณ์ขึ้นอีก คนที่ใช่ และยอดขายก็จะตาม ยิ่งไปกว่านั้น แอดของคุณจะเข้าถึงคนที่สนใจจริงๆ ซึ่งก็จะทำให้คะแนนโฆษณาดีขึ้น และ Engagement ดีขึ้นตามไปด้วย นั่นแหละคือที่มาของแอดนางฟ้าที่จะสร้างยอดขายให้ได้ยาวๆ

3. Lookalike Audience (L): ให้ Facebook สร้างกลุ่มเป้าหมายให้ ข้อมูลจาก Pixel Funnel จะช่วยให้คุณมีข้อมูลของคนที่สนใจคุณจริงๆ คราวนี้คุณก็ไม่ต้องคิดไปเองสร้างกลุ่มเป้าหมายจากความสนใจอีกต่อไป

แค่นำข้อมูลของคนที่สั่งซื้อสินค้า หรือคนที่อ่านข้อความของคุณจนจบมาสร้าง Lookalike Audience

เท่านี้ Facebook ก็จะไปหากลุ่มคนที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่สนใจคุณจริงๆมาให้ เช่นการสร้าง Lookalike Audience  “คนที่คลิกซื้อภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา” นี่ยิ่งทำให้แอดวิ่งไปหา “คนที่ใช่” ได้แม่นยำขึ้นไปอีก

4. Retargeting (R): แสดงแอดจนกว่าจะถึงเวลาที่ใช่ ถึงจะมีแอดนางฟ้า ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เห็นครั้งแรกจะตัดสินใจซื้อสินค้าทันที  คุณต้องสร้างแอดเสริมขึ้นมา Retargeting ซัก 2 – 3 ตัว เคยยิงแอด Retargeting มาก่อนแล้วมันไม่ได้ผลหรือไม่ ซึ่งน่าจะเกิดจาก Retargeting ไปไม่ถูกคน จะ Retargeting ให้ได้ผล ต้องรู้จักพฤติกรรมของคนที่เห็นแอดคุณดีพอเสียก่อน ซึ่งคุณจะมีข้อมูลทั้งหมดนี้แล้ว จากการ Track ด้วย Pixel Funnel ในขั้นตอนที่ 1 ถ้าเขาอ่านโฆษณาของคุณไปครึ่งนึงแล้วไม่อ่านต่อ ลองยิง Ads ตัวเดิมไปให้เขาเห็นบ่อยๆ ถ้าเขาอ่านโฆษณาจนจบ แต่ไม่ซื้อ ลองยิง Ads แจกโปรโมชั่นจำนวนจำกัดให้เขาดู ถ้าเขาเคยซื้อสินค้าแล้ว ลองยิงแอดมอบส่วนลดเฉพาะ “ลูกค้าพิเศษ”  เมื่อคุณ Retargeting ไปถึงคนที่ใช่ ด้วยข้อความที่ใช่แบบนี้ แอดที่ยิงไปหาเขาซ้ำๆจะถูกส่งไปในเวลาที่ใช่เข้าจนได้ในที่สุด

กล่าวกันว่าจาก 100% ของการประสบความสำเร็จในการสร้างเพจให้ดังหรือปั้นยอดขายให้ปังนั้น ตัวแอดเองมีผลเพียง 20% ที่เหลือคือตัวสินค้าและคอนเทนต์ที่ดี และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งรวมกันเป็น 100% แต่อย่างไรก็ตามการยิงแอดได้ดี ได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยใช้เงินอย่างคุ้มค่า เป็นอีกเรื่องที่จะมองข้ามไปไม่ได้ หลายคนพุ่งเป้าไปที่การเพิ่มงบโฆษณา เพื่อให้ยอดขายเพิ่ม ซึ่งจริงๆ แล้วการอัดงบโฆษณา ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้กำไรเพิ่ม เมื่อรู้วิธีการสร้าง “แอดนางฟ้า”กันแล้ว ข้อเสนอที่ใช่ + ข้อความที่ใช่ + คนที่ใช่ + เวลาที่ใช่ ก็จะให้ผลลัพธ์เป็น “ยอดขาย” ที่ทุกธุรกิจต้องการนั่นเอง

อ้างอิง

https://adsidea.net/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%99-facebook/

https://www.incomeinclick.in.th/tclr-4-steps-running-effective-facebook-ads/

https://www.fbadsmaster.net/post/summarylivekhungap