ถ้าหากพูดถึงแอปที่มาแรงแซงโค้งในช่วงนี้  คงไม่มีใครไม่รู้จัก TikTok แอปพลิเคชั่นผลิตคลิปวิดีโอขนาดสั้น  ที่ล่าสุดจากรายงานของ Sensor Tower  มียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับ 1 (ยกเว้นกลุ่ม Game) เฉพาะในเดือนพฤษภาคม 2020  มีการดาวน์โหลดถึง 111.9 ล้านครั้ง  โตขึ้นสองเท่าจากปี 2019  รองลงมาคือ Zoom และ Whatapp ตามลำดับ  นับได้ว่าความนิยมใน TikTok ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ จนทำให้เจ้าพ่อ Facebook อย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ถึงกับจับตามองแอปสัญชาติจีนตัวนี้ แอปนี้มีดีอย่างไรไปทำความรู้จักกัน

จากแอปจีนสู่สตาร์ทอัพมูลค่าสูงสุดของโลก

TikTok เป็นชื่อที่คนทั่วโลกรู้จักกัน แต่ต้นกำเนิดของแอปตัวนี้มาจากประเทศจีนมีชื่อว่า Douyin และเพื่อให้ผู้ใช้งานนอกประเทศสามารถจดจำได้ง่ายจึงตั้งชื่อว่า TikTok  พัฒนาโดยบริษัท ByteDance เปิดตัวเมื่อปี 2016 โดยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานอยู่ที่ 700  ล้านคนต่อวัน  มูลค่ากิจการ 75,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท) และยังเป็น Startup ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก จากการเข้ามาลงทุนโดย SoftBank บริษัทด้านไอทีของญี่ปุ่น สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของแอปนี้คือวัยรุ่นอายุ 16-24 ปี  แม้ว่าในช่วงแรก TikTok จะเจาะตลาดวัยรุ่นฝั่งเอเชียเป็นหลัก  แต่จากรายงานล่าสุดของแอป Qustodio (แอปที่ช่วยผู้ปกครองควบคุมพฤติกรรมการใช้ออนไลน์ชองบุตรหลาน)  ได้ทำการสำรวจในสหรัฐอเมริกา  สหราชอาณาจักร และสเปน จำนวน 60,000 ครัวเรือน พบว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 – เมษายน 2020  เด็กชาวอเมริกันใช้ TikTok เฉลี่ยวันละ  95 นาที เป็นรองแค่ Youtube ที่เฉลี่ยวันละ  99 นาที  และมีอีกตัวเลขที่น่าสนใจ คือ  TiKTok กลายเป็นแอปยอดนิยมของเด็กทั้ง 3 ประเทศ  โดยการใช้งานของเด็กอเมริกันอยู่ 82 นาที เพิ่มขึ้น 116%  สหราชอาณาจักร  69 นาที เพิ่มขึ้น 97% และสเปน 60 นาที เพิ่มขึ้น 150%  จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า TikTok กลายเป็นแอปที่มาแรงที่สุดสำหรับกลุ่มเจน Z ในขณะนี้

เจาะตลาดอย่างไรโดนใจคนเจน Z

ในช่วงแรกของการทำตลาด TikTok มุ่งเป้าไปที่กลุ่มเจน Z   ด้วยการสร้าง Influencer ขึ้นมาโดยคัดเลือกคนหน้าตาดี  แต่งตัวมีระดับ  ไลฟ์สไตล์ดูทันสมัย  เพื่อให้คนสนใจติดตามและเกิดการแชร์ต่อ  รวมทั้งเชิญ Influencer ที่เริ่มมีชื่อเสียงในแอปให้มาร่วมงานและช่วยโปรโมตให้ดังมากขึ้น  ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 10,000 ล้านหยวน  โดยมีเป้าหมายให้ Influencer ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน  1,000 คน ให้มียอด Followers เพิ่มขึ้นเป็น 1,000,000 คน  และเมื่อรวมกันยอด Followers จะมีมากถึง 1,000 ล้านคน  เมื่อสร้าง Influencer  ที่ทรงพลังได้สำเร็จ  TikTok จึงได้จับมือกับพันธมิตรในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ ด้วยการสร้าง Challenge ให้  Influencer ทำคลิปให้คนทำตาม  เช่น  ร้านหม้อไฟ Hai Di Lao  โดยคิดค้นทำเมนูแปลกๆ  แน่นอนว่ากลยุทธ์นี้ได้ผล  ร้านหม้อไฟขายดีมียอดขายถล่มทลาย  นอกจากนี้ตัวแอปยังมีจุดแข็งอยู่ที่การพัฒนา User Interface  ที่ใช้งานง่าย  มีฟีเจอร์ลูกเล่นทั้งเอฟเฟกซ์  ฟิลเตอร์  Template  ปรับสปีด  แต่งเสียง  ใส่เพลงประกอบ  ที่ไม่ต้องมีทักษะในการถ่ายคลิปหรือตัดต่อก็สามารถครีเอทคลิปได้อย่างง่ายดาย ด้วยกลยุทธ์เจาะตลาดที่แหลมคมทำให้หลังจากการเปิดตัวไม่ถึงปีมียอดผู้ใช้งานมากถึง 100 ล้านคน นี่คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของความสำเร็จของ TikTok

สมองกล TikTok  ทำงานอย่างไร

คนที่คุ้นเคยกับ Facebook  จะรู้ว่าถ้าหากต้องการให้มียอดไลค์เพจและมีส่วนร่วมกับเพจมากขึ้น นอกจากวิธี Organic ทั่วไปแล้ว  ทุกวันนี้ยังต้องซื้อโฆษณาเพื่อให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นเพจได้มากขึ้น   สำหรับ TikTok นั้น ยอด Followers ไม่ได้มีผลต่อการเข้าถึงคอนเทนต์หากคลิปโดนใจคนดูโอกาสที่จะแสดงให้เห็นในวงกว้างไม่มีข้อจำกัด   ตัวอย่างเช่นเมื่อมีคนอัปโหลดคลิปใหม่เข้ามา  ระบบจะแสดงให้เห็นเฉพาะผู้ใช้งานบางคนเท่านั้น  โดยดูจากประวัติ  Engage  ต่างๆ ว่าน่าจะถูกใจกับคลิปตัวนี้หรือมีความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้อง จากนั้นระบบจะดูว่ามีคนหยุดดูไหม  กดไลค์  เม้นท์  แชร์  แค่ไหนก็จะนำไปพิจารณาต่อว่าควรจะแสดงคลิปนี้ให้คนเห็นมากขึ้นหรือไม่  นั่นหมายความว่า  ถ้าหากทำคอนเทนต์ได้ดีโดนใจ โอกาสที่ระบบจะแสดงผลให้ผู้อื่นเห็นก็จะมีมากขึ้นโดยระบบจะดูว่าใน 10 คนที่เห็นคลิปจะต้องมีคนไลค์ 1 คน และถ้าหากภายใน 1 วัน มีคนกดไลค์มากกว่า 40% ของยอดวิว  คลิปตัวนั้นก็จะถูกกระจายออกไปให้คนเห็นในวงกว้างมากขึ้น  เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องมียอด Followers เยอะๆ ขอแค่ทำคอนเทนต์ให้ดีและโดน คนเห็นต้องกดไลค์ โอกาสที่คลิปนั้นจะกลายเป็นไวรัลมีคนดูหลักล้านเป็นไปได้ชั่วข้ามคืน  ซึ่งต่างกับ Facebook  หรือ Youtube ที่ต้องมียอดแฟนหรือ Subscribe จำนวนมากถึงจะมีโอกาสเห็นมากกว่า

ปั้นคอนเทนต์อย่างไรให้กลายเป็นดาว TikTok

การเป็นดาว TikTok  ไม่ใช่เรื่องยาก  เพราะอย่างที่กล่าวมาแล้วว่ายอด  Followers ไม่สำคัญเท่ากับความน่าสนใจของคอนเทนต์  เพียงแต่ครีเอเตอร์จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

• โชว์ทักษะที่คุณมีให้โลกเห็น ต้องถามตัวเองก่อนว่าทักษะที่มีอยู่นั้นคืออะไร  มีความรู้ความสามารถด้านไหนเป็นพิเศษ เช่น  ภาษา  ทำอาหาร  How to  ออกกำลังกาย   ความรู้เฉพาะด้าน  อาหารสมองฯลฯ  หรือถ้าหากคิดว่าไม่มีจริงๆ  ลองอาศัยความกล้าบ้าบิ่นที่อยู่ในตัวคัฟเวอร์เพลงฮิต แต่อาจใส่ลูกเล่นให้สนุกสนานตลกโปกฮาหรือจะแปลกแหวกแนวไปเลยก็ได้ เพราะคลิปที่โดนมักจะไม่เหมือนใคร ที่สำคัญกลุ่มผู้ใช้แอปหลักคือเจน Z  ที่ชื่นชอบความสนุกสนาน  ตลกขบขัน การทำคลิปแนวบันเทิงมีโอกาสแจ้งเกิดสูงกว่าคลิปที่ให้ความรู้หรือมีสาระประโยชน์  เหนือสิ่งอื่นใดการแสดงออกควรเป็นตัวของตัวเองที่สุดมีจุดขายก็จะทำให้คนสนใจและกดติดตาม
  
  
• ทำให้คนอยากมีส่วนร่วมหรือมีอารมณ์อยากร่วมด้วย เช่น  การ  Challenge  ให้คนดูรู้สึกอยากจะทำตามหรืออยากจะเลียนแบบหรือดูแล้วอยากจะ Challenge ต่อไปยังเพื่อนฝูง พี่น้อง  แฟน ก็จะทำให้เกิดเป็นไวรัลได้ เช่น  คลิปส้มหยุดของคุณแม่สิตางศุ์
  
  
• เลือกเพลงประกอบวิดีโอที่กำลังฮิต เลือกดูได้จาก Discover ที่ TikTok ได้คัดเลือกและจัดหมวดหมู่มาให้  เพื่อเพิ่มโอกาสให้คลิปถูกแนะนำไปยังผู้ใช้คนอื่นในหน้า “For You”  ก็จะทำให้คนเห็นคลิปมากขึ้น  อย่างการคัฟเวอร์เพลงซุปเปอร์วาเลนไทน์  เจน-นุ่น-โบว์ ที่เกิดเป็นกระแสจนคนทำตามไปทั่ว
  
  
• เลือก Effects ครีเอทวิดีโอที่คนกำลังนิยม เลือกได้จากเมนู  Hot  นั่นหมายความว่าโอกาสที่คลิปของเราจะถูกแนะนำให้เห็นก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
  
  
• ใส่ # Trending Hashtag เวลาจะเขียนหัวข้อหรือคำบรรยายวิดีโอ ให้หาแฮชแท็กที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ ดูได้จาก Discover  ก็จะช่วยให้คนมีโอกาสพบเห็นคลิปมากขึ้น  แต่ไม่ใช่ว่าแฮชแท็กไหนดังก็จะใส่ทั้งหมด  ต้องเป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องด้วยเพราะระบบ TikTok จะเข้าไปดูความเหมาะสมก่อนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื้อหาเป็นอย่างไรแล้วค่อยส่งขึ้นไป  หรือก่อนจะทำคลิปอาจลองค้นดูว่าแฮชแท็กไหนกำลังเป็นที่นิยมมีคนดูเยอะก็สามารถเอามาเป็นไอเดียในการครีเอทคอนเทนต์ต่อไปได้ วิธีการนี้จะช่วยให้คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับแฮชแท็กเข้าถึงคนดูได้เยอะขึ้น เพิ่มโอกาสการมองเห็นและอาจกลายเป็นไวรัลได้ตามกระแสของแฮชแท็กนั้นไปด้วย

จากความฮอตไม่หยุดของ TikTok  ทำให้หลายแบรนด์และนักการตลาดต่างมุ่งหน้าเข้าหาและเรียนรู้ที่จะใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อเจาะใจคนเจน Z ที่ในอีก  4-5 ปีข้างหน้า พวกเขาเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้บริโภคหลักและเป็นตัวจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกต่อไปในอนาคต.

ข้อมูล

https://ahead.asia/2020/06/08/us-uk-spain-kids-watch-tiktok-as-much-as-youtube/

https://www.billionmindset.com/tik-tok-going-rocket/

https://stepstraining.co/social/how-to-be-famous-video-creator-in-tiktok

https://www.thumbsup.in.th/sommark-creater-tik-tok

https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/tiktok-strategy-from-local-social-media-to-global-social-media/