ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
มีเงินแค่ไหนถึงมีความสุข และการวางแผนการเงินในวิถีพุทธ
ทุกวันนี้ คนเรามีความทุกข์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องเงิน มีเงินน้อยก็ทุกข์ มีเงินมากก็ทุกข์ เพราะเราปล่อยให้เงินกลายเป็นนายของเรา บางคนหาได้น้อย ก็ยอมทุจริตเพื่อให้ได้เงินมาก บางคนหาได้มากแต่ก็ยังไม่พอ อยากมีมากกว่าเดิม และบางคนก็ต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินเป็นรายวันเพื่อให้พอประทังชีวิต จะเห็นได้ว่าความทุกข์ของคนเรานั้น ส่วนหนึ่งล้วนมีเงินเป็นองค์ประกอบ
สำหรับมหาเศรษฐี เงินจำนวน 1 ล้านบาท อาจเป็นเพียงแค่เศษเงิน แต่สำหรับบางคน อาจหมายถึงเงินก้อนมหาศาล ที่สามารถใช้เลี้ยงดูตัวเองได้นานนับสิบปี เมื่อเป็นเช่นนี้ ชีวิตคนเราจะต้องมีเงินจำนวนเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่าเพียงพอและสามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ที่เกิดขึ้น จากสิ่งภายนอกกายที่ทุกคนเรียกว่า “เงิน” คำว่า “รวย” จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า แต่หมายถึง ความ “พอดี” และ “พอใจ” ของเราต่างหาก
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้ทรงสอน เรื่องการวางแผนการเงิน ตามหลักโภควิภาค 4 ได้ทรงสอนให้รู้จักการแบ่งทรัพย์สินออกเป็น 4 ส่วน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตแบบไม่ขัดสน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ดังนี้
นอกจากนี้ การใช้เงินแบบมีเหตุมีผล ให้เหมาะสมตามฐานะของแต่ละบุคคล จึงเป็นสิ่งสำคัญ มากกว่าการหาเงินให้ได้จำนวนมากๆ เพราะถ้าหากหาเงินได้มาก แต่ไม่รู้จักเก็บ ไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักทำให้งอกเงย เงินที่หามาได้นั้น ก็ไม่มีวันเพียงพอ ซึ่งในความเป็นจริง คนเราต้องการอาหารแค่วันละ 3 มื้อ ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อให้หลบแดดหลบฝน ต้องการเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเพื่อปกปิดเรือนร่างและให้ความอบอุ่น เพียงแค่นี้ คนเราก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้แล้ว