มนุษย์เงินเดือนเริ่มขายออนไลน์ยังไงดี

มนุษย์เงินเดือนที่รู้จักหลายคนมักอยากทำอาชีพเสริมด้วยสาเหตุหลายประการบางคนฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง บางคนอยากหารายได้เสริมเพราะเงินเดือนไม่พอใช้และบางคนก็รู้สึกว่าหน้าที่การงานไม่มั่นคงอีกต่อไปจึงอยากหาแผนสำรองเผื่อไว้ในอนาคต และอาชีพเสริมส่วนใหญ่ที่ทุกคนมักจะนึกถึงเป็นอย่างแรกก็คือการขายของออนไลน์เพราะทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้เงินทุนมากมาย ขอแค่มีของมาขายและเรียนรู้การใช้โซเซียลมีเดียหรือมาร์เก็ตเพลสเป็นช่องทางขายก็ทำให้สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ไม่ยาก เราจึงมักเห็นมนุษย์เงินเดือนบางคนไลฟ์ขายของในตอนกลางคืนจนประสบความสำเร็จกลายเป็นอาชีพหลักในที่สุด วันนี้ขอแชร์วิธีเริ่มต้นการขายของออนไลน์เพื่อเป็นทางลัดให้มนุษย์เงินเดือนที่กำลังมองหาอาชีพเสริมใช้เป็นเส้นทางใหม่สู่อาชีพที่สองให้กับตัวเอง

online1

1. หาสินค้ามาขายยังไง

การเริ่มขายสินค้าควรเริ่มจากสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ถนัดหรือมีประสบการณ์การใช้งานก็จะทำให้ง่ายต่อการขายของซึ่งการหาสินค้ามาขายก็ไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อนที่ต้องออกไปเดินหาตามแหล่งขายส่ง แต่ยุคนี้สามารถสั่งของออนไลน์จากแหล่งผลิตให้มาส่งถึงบ้านได้เลยหรือจะนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายโดยสั่งซื้อผ่านแอปหรือเว็บไซต์ เช่น Alibaba, AliExpress, Taobao, Ezbuy, Vcanbuy ,WeShopChina เป็นต้น


นอกจากนี้ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ DropShip ที่ให้บริการสินค้าพร้อมขาย โดยผู้ที่อยากขายของออนไลน์สามารถเข้าไปสมัครเป็นตัวแทนขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ ไม่ต้องสต๊อกของหรือจัดส่งสินค้าเอง แค่มีหน้าร้านขายหรือหาลูกค้ามาซื้อสินค้า เมื่อขายของได้ก็ส่งชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของลูกค้าไปให้ผู้ให้บริการ DropShip ก็จะจัดส่งสินค้าไปให้กับลูกค้า ส่วนผู้ขายจะได้ค่านายหน้าจาก DropShip จากการขายสินค้าได้ ดูรายละเอียดได้ที่ dropshippop.com หรือ smadropship.com

2. ขายของออนไลน์ต้องมีชื่อร้าน

การตั้งชื่อร้านค้ามีหลักการง่ายๆ คือ อ่านง่าย-จำง่าย-เจอง่าย อ่านง่าย คือ ชื่อต้องอ่านได้ง่าย สะกดได้ไม่ยาก ออกเสียงง่าย หากใช้ภาษาต่างประเทศควรเป็นคำที่คนไทยคุ้นหูหรือรู้จักเป็นอย่างดีเพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำร้านได้ง่ายหรือแนะนำร้านให้กับคนอื่นได้ง่าย จำง่าย คือ เป็นชื่อที่ทำให้ลูกค้าจำได้ทันที หรือการตั้งชื่อร้านให้สอดคล้องกับสินค้าที่ขาย ตัวอย่าง “เครื่องสำอางเกาหลี by เจ๊ปาน” เจอง่าย คือต้องเสิร์จผ่านgoogle หรือ facebook แล้วค้นหาเจอได้ทันที โดยอาจลองเสิร์จคำที่คนกำลังค้นหาในปริมาณมากที่ google แล้วนำคำนั้นมาตั้งชื่อร้านก็ได้ ทำให้มีโอกาสหาร้านของเราเจอง่ายขึ้น

3. เปิดร้านออนไลน์

ถ้าหากเริ่มเปิดร้านครั้งแรกควรเริ่มต้นที่ Facebook ก่อนเพราะเป็นช่องทางที่คนนิยมมากสุดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากที่สุด ตามมาด้วย Instagram ที่เน้นขายสินค้าผ่านรูปภาพสวยๆ แต่ควรมีทักษะในการถ่ายภาพที่ดีด้วยจะช่วยให้สินค้าน่าสนใจมากขึ้น เมื่อยอดขายเริ่มไปได้สวยแล้ว ร้านค้าออนไลน์ควรมีครบทุกแพลตฟอร์ม Social Media และควรขยายไปยัง Marketplace เช่น Lazada, Shopee , Line@ เป็นต้น เพราะการมีหลายช่องทางก็เหมือนกับการมีสาขาเป็นจุดเชื่อมไปยังลูกค้าที่หลากหลาย สร้างโอกาสให้ลูกค้าได้เจอร้านค้ามากที่สุด


4.เงินลงทุนสิ่งสำคัญไม่ควรมองข้าม

แน่นอนว่าการขายของออนไลน์ นอกจากค่าสินค้าแล้ว ยังมีค่าแพ็กสินค้า ค่าจัดส่ง และค่าโฆษณา ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นอาจลงทุนไม่สูงนักเพื่อที่จะได้ทดลองตลาดถึงความเป็นไปได้ในการขายสินค้าตัวนั้น และควรวางแผนให้ดีว่าเงินทุนที่มีจะสามารถดำเนินการได้ไปยาวนานแค่ไหน ที่สำคัญอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจลาออกจากงานประจำจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าร้านค้าของเรามียอดขายสม่ำเสมอและติดตลาดแล้ว หากคุณมีไอเดียขายสินค้าแต่ไม่มีเงินลงทุนลองสมัครสินเชื่อ Speedy Loan วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท* ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน รับเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร พร้อมวงเงินสูงสุด 5 เท่ของรายได้ หลายช่องทางการผ่อนชำระ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ สมัครออนไลน์ทันที

5. โปรโมทร้านให้โลกรู้

แม้ว่าร้านค้าจะมีสินค้าดีมีคุณภาพ ขายถูกกว่าท้องตลาด แต่ถ้าไม่มีใครรู้จักร้านก็ไม่มีทางที่จะขายสินค้าได้ แล้วควรทำอย่างไรดี วิธีการง่ายๆ แบบบ้านๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นทำออนไลน์แต่ยังไม่มีงบยิงแอดโฆษณา เช่น ใน Facebook วิธีการง่ายที่สุดคือการเข้าไปอยู่ตาม Facebook Group เพียงแค่ใช้การเสิร์จหากลุ่มเกี่ยวข้องกับสินค้าที่เราขายที่มีทั้งกลุ่มคุณแม่ ผู้สูงอายุ คนรักสุขภาพ สัตว์เลี้ยง ฯลฯ กลุ่มมาร์เก็ตเพลสสถาบันการศึกษาฯลฯ กลุ่มเหล่านี้มีลูกค้าอยู่มหาศาล มีความต้องการใกล้เคียงกันเป็นการทำการตลาดที่ไม่ต้องใช้งบประมาณแต่ได้ผลมหาศาล หรือการตาม Instagram ของดาราคนดังที่ใจดีอนุญาตให้โพสต์ขายสินค้าได้ก็เป็นวิธีการง่ายๆ ในการโปรโมทร้านหรือสินค้าให้โลกรู้จักโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท เมื่อร้านเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นมองเห็นกำไรอาจแบ่งกำไรบางส่วนไปซื้อแอดโฆษณา Facebook เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็จะทำให้เพิ่มการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายได้มากขึ้น


6. ช่องทางชำระเงิน

สำหรับมือใหม่หัดขายออนไลน์อย่าลืมเรื่องช่องทางการชำระเงินก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งปัจจุบันโอนเงินผ่านมือถือไม่มีค่าธรรมเนียมทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายและโอนเงินได้รวดเร็วขึ้น สามารถเลือกเปิดบัญชีกับธนาคารใดก็ได้เพื่อรับเงินโอนจากลูกค้า แต่อย่าลืมว่าควรสมัครใช้บริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออกบัญชีด้วยจะได้รู้ยอดเงินโอนค่าสินค้าจากลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ อย่าง SCB มีบริการ LINE Connect แจ้งเตือนทุกการเคลื่อนไหวบัญชีออมทรัพย์เมื่อมีเงินเข้า- เงินออก ตั้งแต่บาทแรก แถมไม่มีค่าใช้จ่ายเหมาะกับการเริ่มต้นค้าขายออนไลน์ได้รับเงินแล้วมี LINE แจ้งเตือนก็ส่งของได้ทันที สนใจเปิดบัญชีออนไลน์


นอกจากนี้ หากร้านออนไลน์ธุรกิจเติบโตมีลูกค้าจำนวนมากการเลือกใช้บริการ Pay Social ก็เป็นทางออกที่ดีเพราะเป็นบริการรับชำระเงินออนไลน์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อีเมลหรือช่องทางแชท ที่ผู้ขายสามารถใช้ Pay Social พาลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง มารวมไว้ในที่เดียวโดยการสร้างลิงก์ผ่าน Pay Social แล้วส่งให้ลูกค้ากดเลือกวิธีการชำระเงินตามที่ต้องการ มีทั้งการจ่ายเงินผ่านทาง Internet Banking, Paypal, Counter Service, บัตรเดบิต, บัตรเครดิต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตให้ลูกค้าสามารถเลือกผ่อน 0% ได้ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของได้ง่ายขึ้น จ่ายเงินง่ายขึ้น สมัครใช้บริการฟรีได้ที่ www.Pay.sn แต่มีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บเมื่อมีการชำระเงินเกิดขึ้น

7. ศึกษาก่อนขาย ตอบกลับรวดเร็วทันใจ

การขายสินค้าจะต้องรู้จักสินค้าที่ขายให้ละเอียดที่สุด เพราะเวลาลูกค้าทักเข้ามาจะได้ตอบอย่างรวดเร็ว ปิดการขายได้ทันที หากทิ้งไว้นานลูกค้าอาจเจอสินค้าจากร้านอื่นแล้วเปลี่ยนใจไปซื้อที่อื่นก็ได้ แต่ถ้าหากยังทำงานประจำอาจไม่สามารถตอบคำถามลูกค้าได้ทันทีซึ่งอาจเสียลูกค้าไป ควรใช้ระบบตอบกลับอัตโนมัติเพื่อไม่ให้เสียลูกค้าไปหรือควรใส่รายละเอียดของสินค้าให้มากที่สุดเพื่อลดข้อสงสัยของลูกค้า แถมยังช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้า ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อ และสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับร้านของเราทำให้หมดข้อสงสัยลดคำถามที่มาจากลูกค้าได้


เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อมนุษย์เงินเดือนเริ่มต้นทำธุรกิจต้องคิดไว้เสมอว่าเราทำได้ ต้องขยันอดทนมากกว่าคนทั่วไปเพราะว่าไม่ได้มีเวลาว่างตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่จะทำได้ในช่วงตอนกลางคืน ฉะนั้นการโปรโมทร้านและสินค้าต้องอาศัยความขยันเข้าไปใน Facebook กลุ่มต่างๆ ไปนำเสนอสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีคนทักสนใจสินค้าก็ต้องรีบตอบให้ไวเพื่อสร้างโอกาสในการปิดการขาย และเมื่อเริ่มเปิดร้านอาจเป็นไปได้ว่าในอาทิตย์แรกๆ จะไม่มีลูกค้าเลย ควรตรวจสอบว่าสาเหตุมาจากอะไรที่ทำให้ขายของไม่ได้ แล้วพยายามปรับเปลี่ยนหรือหาเทคนิคการขายสินค้าให้น่าสนใจมากกว่าเดิม เช่น การโพสต์ด้วยการใส่อารมณ์ขันเข้าไปหรือการเกาะติดกับกระแสต่างๆ เพื่อโปรโมทสินค้าก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยการขายได้ และลองปรับเปลี่ยนวิธีการเขียนโพสต์แบบใหม่เพื่อเช็คดูความสนใจของลูกค้าหรือไปตามดูร้านที่ประสบความสำเร็จว่าเค้าทำอย่างไรเพื่อเรียกลูกค้าก็จะเป็นแนวทางในการทำการโปรโมทร้านของพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ได้ ที่สำคัญอย่าท้อแท้หมดกำลังใจไปเสียก่อน ขอให้คิดเสมอว่าเส้นทางใหม่นี้คือความฝันของเรา ถ้าหากทำสำเร็จจะเป็นโอกาสให้ก้าวออกจากวิถีชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาสู่โลกใหม่ที่ได้เป็นเจ้านายของตัวเองอย่างแท้จริง

 

ที่มา

https://www.page365.net/9-things-for-starting-online-store