ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
LTF ปีสุดท้าย ควรจะต้องซื้อมั้ย?
สำหรับคนที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับ LTF มาตลอด คงจะรู้กันดีว่า ปี 2562 นี้ จะเป็นปีสุดท้ายที่เราสามารถลงทุนในกองทุนประเภท LTF เพื่อนำมาลดหย่อนภาษีได้ ถึงจะเป็นปีสุดท้าย มนุษย์เงินเดือนที่ต้องเสียภาษีอย่างเราก็ไม่ควรมองข้าม เพราะ LTF ยังสามารถใช้สิทธิ์ได้เหมือนปีก่อนๆ พอปีหน้าค่อยมองหาช่องทางลดหย่อนภาษีที่เหมาะสมกับตัวเองกันใหม่ ขอเน้นย้ำเลยว่า ตราบใดที่สิทธิ์นี้ยังมี เราก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองต้องเสียสิทธิ์ ลงทุนกันได้ ไม่ต้องกังวล นอกจากจะเป็นการเก็บเงินไว้ยามเกษียณแล้ว ยังช่วยลดหย่อนภาษีด้วย
สำหรับใครที่กังวลว่าพอกองทุน LTF ใช้ลดหย่อนภาษีไม่ได้แล้ว กองทุนเหล่านี้จะถูกปิดนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด นักลงทุนที่ยังไม่สามารถขายคืนได้ เนื่องจากติดเรื่องการต้องถือครองอีก 7 ปีปฏิทินนั้น กองทุนก็ยังคงอยู่ นักลงทุนยังได้ผลตอบแทนจากกองทุนเหล่านี้เหมือนเช่นเคย เพียงแต่อาจมีขนาดกองทุนที่เล็กลงไปบ้าง เพราะคนเอาเงินมาลงทุนน้อยลง และมีการขายออกเมื่อครบกำหนด แค่นั้นเอง
ดังนั้นขอสรุปสั้นๆ ว่า มนุษย์เงินเดือนที่ยังมองหาสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ อะไรก็ตามที่สามารถนำมาช่วยลดหย่อนภาษีของเราได้ ก็ควรจะลงทุนในกองทุน LTF ต่อไป ใช้สิทธิ์ที่มีในปีสุดท้ายนี้ให้คุ้มค่าที่สุดจะดีกว่า
เลือก LTF แบบไหน ถึงจะเหมาะกับสไตล์ของเรา
ถ้าเราจำแนกประเภทของกองทุน LTF แบบเข้าใจง่ายสุดๆ จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบที่มีเงินปันผลให้ กับแบบที่ไม่จ่ายปันผล แล้วแบบไหนดีกว่ากัน เอาจริงๆ ไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุด เพราะแต่ละคนก็มีความชอบไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล
ดังนั้น อยากให้เราถามตัวเองกันก่อนว่า ต้องการได้เงินไปใช้ระหว่างที่ลงทุนอยู่มั้ย ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ขอให้เลือกพิจารณากองทุนที่จ่ายเงินปันผลให้ โดยเลือกกองที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ผลตอบแทนปลายทางอาจจะไม่หวือหวา แต่ราคาก็ไม่สูงมาก และมีเงินออกดอกออกผลมาให้ได้ใช้อยู่เรื่อยๆ ตัวอย่างของกองทุนประเภทนี้ก็ “SCBLT1” หรือชื่อเต็มๆ ว่า “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30” กองนี้จ่ายปันผลมาแล้วถึง 23 ครั้ง ใน 15 ปี
1
นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุนเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2547 แถมยังเป็นกองทุน LTF ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของ บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM)
2
อีกด้วย
สำหรับคนที่มีเงินเย็น มองการณ์ไกล หวังจะมีโอกาสได้กำไรจากการลงทุน และไม่มีความต้องการจะใช้จ่ายอะไรจากเงินที่นำไปลงทุน เมื่อครบกำหนดอายุของกองทุนค่อยขายเอาเงินก้อนออกมาใช้ กองทุนแบบที่ไม่จ่ายปันผล คือ คำตอบที่เหมาะสมที่สุด เพราะนี่คือการลงทุนระยะยาว เดี๋ยวพอครบกำหนด วันที่ตลาดหุ้นขึ้น ราคากองทุนสูงกว่าตอนที่เราซื้อค่อยขายทำกำไรก็ได้ จำไว้ว่า อย่าตื่นตระหนก กับราคาขึ้นลง ตราบใดที่ยังไม่ขายจนได้เงินก้อนออกมา เราก็ยังไม่ขาดทุน ใครที่ถูกใจกองทุน LTF ประเภทนี้ อาจลองพิจารณา “SCBLT2” หรือ “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส” เพราะเป็นกองที่เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ พื้นฐานดี มีความมั่นคงสูง ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ติดอันดับ Top 3 ของ Morningstar
3
ด้วยนะ
ได้กองทุนที่ถูกใจแล้ว จะลงทุนยังไง?
การเริ่มต้นลงทุนในกองทุน LTF นั้นง่ายมาก ใครๆ ก็ทำได้ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างการลงทุนกับ SCBAM ผ่านแอป SCB EASY ก็แล้วกันนะ สะดวกสุดๆ สมัยนี้ไม่ต้องเดินทางไปถึงสาขาธนาคารก็สามารถลงทุนได้แล้ว แค่เปิดแอป แล้วเลือกหมวดการลงทุน จากนั้นเลือกกองทุนรวม แล้วก็กดเปิดบัญชี ทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่แอปแจ้งไว้ ไม่นานก็สามารถลงทุนได้แล้ว
พอจะซื้อกองทุน ก็เปิดแอปเหมือนเดิม เข้าไปที่กองทุนรวม ในหน้าการลงทุนของฉัน กดคำสั่ง “ซื้อ” แล้วเลือกกองทุน LTF ที่ใช่ เลือกบัญชีที่จะใช้ชำระเงิน พร้อมระบุจำนวนเงินที่จะซื้อแล้วกดยืนยัน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว
บางคนอาจสงสัยว่าจะซื้อกองทุนนี่ต้องมีเงินเป็นแสนรึเปล่า ขอบอกตรงนี้เลยว่า “แค่บาทเดียว” ก็ซื้อได้ ดูไม่ผิดหรอก บาทเดียวจริงๆ เงินแค่นี้พวกเราก็สามารถสั่งซื้อกองทุน LTF ในครั้งแรกได้แล้ว แต่แหมจะเอามาลดหย่อนภาษีทั้งที เราคงไม่คิดจะซื้อแค่บาทเดียวหรอกจริงมั้ย คำนวณหาตัวเลขที่เราสามารถซื้อได้ (15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท) แล้วมองดูเงินในบัญชี หาความเหมาะสมที่เราจะไม่เดือดร้อนกับการใช้เงินก้อนนี้ เมื่อได้ตัวเลขที่ต้องการแล้ว ก็ซื้อให้เต็มสิทธิ์ที่เราตั้งใจกันไปได้เลย
เพิ่มเติมอีกนิดเปิดบัญชีกองทุนแบบแบบอีซี่ อีซี่ รับทันที บัตรชมภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ 1 ใบมูลค่า 200 บาท พิเศษ หากลงทุนด้วย SCB EASY APP ครั้งแรก ด้วย LTF หรือ RMF ระหว่าง 15 ต.ค. 62 - 30 ธ.ค. 62 รับเพิ่ม หน่วยลงทุน SCBSFF เพิ่มอีก มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ด้วยนะ (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.scbam.com) หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ SCB Call Center โทร. 02-777-7777 กด 0 กด 6
ป.ล. พวกเราควรทำความเข้าใจกองทุน เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงต่างๆ และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF&RMF ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ถือหน่วยจะไม่ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ที่สำคัญคือ ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคตนะ จำไว้เสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ...
หมายเหตุ: