เคล็ดวิชา โสด สวย และรวยมาก

ใครเป็นสาวโสดบ้าง ยกมือขึ้น เมื่อพูดถึงคำว่า ‘โสด’  หลายคนอาจจะฟังแล้วแสลงใจ แต่จริงๆ แล้ว ข้อดีของความโสดนั้นมีมากมายเลยทีเดียว แม้เราจะโสดแต่เราก็สามารถมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์ เข้าทำนอง ‘โสด สวย และรวยมาก’


เริ่มต้นจากเรามาดูข้อดีของการเป็นโสดกัน ซึ่งข้อดีอันดับต้นๆ ก็คือ ความมีอิสระเสรี สามารถใช้ชีวิตได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่าคนมีครอบครัว ที่สำคัญเราไม่ต้องมีภาระในการดูแลลูกและสามีด้วยนะ โดยเฉพาะการเลี้ยงลูก เพราะกว่าที่เราจะเลี้ยงลูกสักคนให้โตขึ้นมาได้เป็นอย่างดี ต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ และที่สำคัญแรงเงินมิใช่น้อยเลย เมื่อไม่มีลูกให้ต้องดูแล ก็เลยทำให้คนโสดนั้นมีภาระค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคนมีครอบครัวอยู่พอสมควรเลยทีเดียว


แม้ว่าคนโสดจะไม่ต้องเลี้ยงลูก แต่อย่าลืมว่า เราต้องดูแลพ่อแม่กันด้วย (เพราะความคาดหวังของพ่อแม่ในยุคก่อน ก็คือ หวังให้ลูกมาดูแลในยามแก่เฒ่านั่นเอง) แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลพ่อแม่ อาจจะไม่มากเท่าการเลี้ยงดูลูก  1 คน แต่อย่าลืมว่า เมื่อพ่อแม่อายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตามมาด้วยความเสื่อมของร่างกายไปตามวัย และเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล (มากน้อยขึ้นอยู่กับพ่อแม่แต่ละคน) ดังนั้นสาวโสดทั้งหลาย (อาจรวมไปถึงหนุ่มโสดก็ไม่ว่ากัน) อย่าได้ประมาทเรื่องนี้ไป ต้องเตรียมเงินส่วนนี้เผื่อไว้ด้วย ซึ่งสามารถวางแผนบริหารความเสี่ยงเรื่องนี้ได้ ด้วยการซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ที่มีสุขภาพไม่มาตรฐาน หรือมีโรคประจำตัวไปแล้ว เราอาจต้องใช้วิธีเตรียมเป็นเงินก้อนเก็บไว้แทน หรือหากเรามีพี่น้องหลายคน ก็อาจต้องใช้วิธีลงขัน เก็บเป็นกองทุนค่ารักษาพยาบาลไว้สำหรับพ่อแม่แทน เป็นต้น

นอกจากนี้เรื่องที่สำคัญมากๆ เลยที่สาวโสดทั้งหลายต้องวางแผน นั่นก็คือ การวางแผนเกษียณอายุ เพราะเมื่อเราเป็นโสด ก็แปลว่ายามที่เราแก่จะไม่มีคนมาดูแลเรา ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมเงินเผื่อไว้ตั้งแต่ตอนนี้ อย่าคิดว่าไม่มีภาระ แล้วเผลอใช้จนหมด ไม่มีเหลือเก็บไว้สำหรับวันข้างหน้า แก่ตัวไปจะลำบาก (ลำบากจริงๆ นะ ไม่ได้ขู่)

สาวโสดสามารถวางแผนการเงินได้โดย

  • เตรียมเงินสำหรับสภาพคล่องไว้ 3 – 6 เดือนของค่าใช้จ่ายต่อเดือน (ถ้าไม่มีภาระที่ต้องดูแลพ่อแม่ เตรียมสภาพคล่องสัก 3 เดือนก็น่าจะเพียงพอ หากมีภาระที่ต้องดูแลพ่อแม่ ควรมีสภาพคล่องอย่างน้อย 6 เดือน)

  • มีประกันสุขภาพของตัวเองที่เหมาะสม หมั่นทบทวนความคุ้มครองที่มีอยู่เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

  • พิจารณาซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ (หากยังสามารถซื้อได้)

  • เป็นนกน้อยทำรังแต่พอตัว และอย่าก่อหนี้เกินตัว

  • ออมและลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอย่างน้อย 10% ของรายได้ และเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (วางแผนเกษียณอายุได้ทันทีที่เริ่มมีรายได้) เพราะออมก่อน ลงทุนก่อน รวยกว่าจริงๆ

  • วางแผนภาษีอย่างเหมาะสม การวางแผนภาษีที่ดี ทำให้เราเปลี่ยนค่าใช้จ่ายทางภาษีเป็นเงินออมได้

  • ศึกษาเรื่องการลงทุนและวางแผนการลงทุนให้ดี หากเราไม่มีภาระ และมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานมากพอ เราจะสามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตราสารทุนต่างๆ ในสัดส่วนที่สูงขึ้นได้

  • ลงทุนเพิ่มคุณค่าของตัวเอง ด้วยการเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และอย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี

อันที่จริง ถ้าเราเตรียมเงินเพื่อการเกษียณไว้มากพอ เราแทบจะไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาดูแลเรามั้ย แม้ว่าเราจะไม่มีลูก แต่เราอาจจะมีหลาน  ถ้าเรามีเงินซะอย่าง พ่อแม่ของหลาน (ซึ่งก็คือพี่น้องของเรา) ย่อมจะสอนลูกให้มาเอาอกเอาใจป้าๆ น้าๆ อย่างเราอย่างแน่นอน เพราะป้า (หรือน้า) ไม่มีลูก เงินทองก็มีออกเยอะแยะ ถ้าไม่ยกให้หลาน แล้วจะยกให้ใคร


หรือถ้าคุณอยากไปอยู่ premium home care  (หรืออีกนัยคือบ้านพักคนชราชั้นดีเยี่ยม) คุณก็สามารถไปได้ ตอนนี้มีหลายๆ ผู้ประกอบการหันมาจับตลาดผู้สูงวัยที่มีกำลังทรัพย์ ด้วยการจัดสถานที่และบริการต่างๆ ไว้พร้อมสรรพเลยทีเดียวคุณไม่ต้องห่วงเรื่องเหงาและไม่มีคนดูแลเลย ขอให้มีเงินซะอย่าง อยากไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนอ้าแขนต้อนรับ


ย้ำอีกครั้งอย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี และมีประกันสุขภาพที่มากพอด้วย หากกังวลว่าจะไม่มีคนดูแลและไม่อยากเป็นภาระของคนอื่น เราก็ต้องดูแลสุขภาพของเราอย่างดีที่สุด เพียงเท่านี้ คุณก็จะเป็นคนโสดแสนสุข และเกษียณอายุได้อย่างมั่งคั่งและมีความสุขจริงๆ


สุดท้าย สาวโสดทั้งหลายเอย จงอย่ากลัวความโสด จงวางแผนการเงินของตัวเองให้ดี และเอาเวลาของเรามาดูแลตัวเอง ดูแลพ่อแม่ แค่นี้เราก็จะเป็นสาวสวยที่โสด และรวยมากอย่างแท้จริง


บทความโดย: นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® นักวางแผนการเงินอิสระ