ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ลูกจ๋า เมื่อไหร่จะมา พ่อแม่รออยู่นะ (2)
ต่อจากตอนที่แล้ว ที่เป็นเรื่องการเทคโนโลยีเจริญพันธ์ช่วยแก้ไขภาวะผู้มีบุตรยากโดยใช้เทคนิคการฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมด IUI หากการทำ IUI ถึง 3 ครั้งแล้ว ยังไม่สามารถช่วยให้สมหวัง หมอก็จะเปลี่ยนวิธีที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงขึ้น ซึ่งก็คือการทำ “เด็กหลอดแก้ว” ที่นำไข่และเชื้ออสุจิมาทำการปฏิสนธิภายนอก เกิดเป็นตัวอ่อน แล้วนำตัวอ่อนใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก ให้ตัวอ่อนฝังตัวเกาะยึดกับผนังมดลูกเป็นการตั้งครรภ์ในที่สุด เทคนิคการทำเด็กหลอดแก้วที่นิยมในปัจจุบัน คือ IVF (In Vitro Fertilization) และ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ที่มีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างเพียงในรายละเอียดการปฏิสนธิภายนอก
การทำเด็กหลอดแก้วจะมีความซับซ้อนมากกว่าการทำ IUI และฝ่ายหญิงก็ต้องเจ็บตัวมากหน่อย นับตั้งแต่การกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่จำนวนมากโดยใช้ยาฉีด ฉีดเข้าบริเวณท้องตำแหน่งรังไข่ซ้ายขวาวันละครั้งสลับกันไป ประมาณ 10-12 วัน ซึ่งอันนี้คนไข้ต้องเป็นคนฉีดให้ตัวเอง แล้วต้องฉีดเวลาเดิมทุกวัน ยาต้องเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา ถ้าต้องออกไปข้างนอกบ้าน ก็ต้องเอายาใส่กระติกน้ำแข็งแช่เย็นติดตัวไปฉีดด้วย งานนี้หากกลัวเข็มก็เป็นอันหมดสิทธิ์
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการเก็บไข่ ซึ่งจะทำหลังจากเสร็จการฉีดยากระตุ้นรังไข่ แล้วก็จะฉีดฮอร์โมนกระตุ้นให้ไข่ตก 35-37 ชั่วโมงก่อนหน้ากระบวนการเก็บไข่ ที่จะทำในห้องผ่าตัด โดยหมอจะใช้เครื่องมือดูดไข่จากรังไข่ออกทางช่องคลอด มีการให้ยานอนหลับ/ยาสลบแบบอ่อนๆ บางคนก็ว่าเจ็บนิดหน่อย บางคนก็ว่าหลับไม่รู้เรื่องไม่เจ็บเลย
ในวันที่ฝ่ายหญิงเก็บไข่ ฝ่ายชายก็ไปเก็บเชื้ออสุจิ แล้วทางแล็บสถานพยาบาลก็จะนำไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงให้เกิดการปฏิสนธิภายนอก กลายเป็นตัวอ่อน ซึ่งตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงให้เจริญเติบโต 3-5 วัน แล้วหมอก็จะย้ายตัวอ่อนนำกลับเข้าสู่โพรงมดลูกไปฝังตัว สามารถเลือกได้ว่าจะใส่ หนึ่ง สอง หรือสามตัวในครั้งเดียว ถ้าโชคดีตัวอ่อนฝังตัวทั้งหมดก็จะได้ลูกแฝดสามเลยทีเดียว ส่วนตัวอ่อนที่เหลือก็นำไปแช่แข็งเก็บเอาไว้เพื่อใส่ในครั้งต่อไปในกรณีที่การใส่ตัวอ่อนครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะนำตัวอ่อนใส่กลับโพรงมดลูก ขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าก็สามารถนำตัวอ่อนมาตรวจหาความผิดปกติทางโคโมโซมได้ เพื่อตรวจหาโรคพันธุกรรม อย่างธาลัสซิเมีย หรือการแบ่งตัวของโครโมโซมผิดปกติที่เป็นสาเหตุของดาวน์ซินโดรม และโรคโครโมโซมบกพร่องอื่นๆ
เมื่อทำการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกแล้ว หมอก็จะสั่งยาฮอร์โมนทั้งแบบกินและแบบสอดในช่องคลอดเพื่อช่วยให้ร่างกายเอื้อต่อการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งควรกินและสอดยาให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สม่ำเสมอ ในระหว่างนี้ ขอให้ทำจิตใจให้สบาย อย่าเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามยกของหนัก ห้ามออกกำลังกายหนักๆ งดการมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น หลังจากย้ายตัวอ่อนประมาณ 10 วันก็สามารถเจาะเลือดตรวจผลการตั้งครรภ์ได้เลย
ข้อควรคำนึงถึงในการเลือกสถานพยาบาล
สถานพยาบาลรักษาผู้มีบุตรยาก จะเป็นแผนกสูตินรีเวชโรงพยาบาลรัฐ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากในโรงพยาบาลเอกชน หรือไม่ก็เป็น คลินิคเอกชนเฉพาะทางเรื่องการรักษาผู้มีบุตรยากโดยเฉพาะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านก็ออกรักษาทั้งในโรงพยาบาลและคลินิคด้วย
ทำเลที่ตั้งของสถานพยาบาลที่สามารถเดินทางจากบ้านหรือที่ทำงานได้สะดวก โดยเฉพาะฝ่ายหญิง เพราะกระบวนการรักษาต้องทำอย่างต่อเนื่อง แล้วต้องไปพบแพทย์หลายครั้งเพื่อเจาะเลือด ทำอัลตร้าซาวด์ ฉีดยา ทำหัตถการ ซึ่งหลายครั้งไม่สามารถกำหนดวันเวลาได้ล่วงหน้า จะไปก็ต่อเมื่อสภาพร่างกายเอื้ออำนวย เช่น การพบแพทย์เจาะเลือดอัลตราซาวด์ต้องทำในวันที่ 2 ของการมีรอบเดือน การทำหัตถการฉีดเชื้อ IUI ต้องทำให้วันที่ไข่ตก เป็นต้น
คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการรักษาผู้มีบุตรยากมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งก็ไม่เป็นความจริงทั้งหมด ราคาค่ารักษาขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษา และสถานพยาบาล โรงพยาบาลรัฐ อย่างจุฬาฯ ศิริราช รามา ค่าใช้จ่ายในการทำ IUI อยู่ประมาณ 5-8 พันบาทต่อครั้ง ราคาสถานพยาบาลเอกชนอยู่ที่ประมาณครั้งละ 10,000 – 25,000 บาท
ในส่วนการทำเด็กหลอดแก้ว ราคาค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า เพราะเป็นการรักษาที่มีขั้นตอนทางการแพทย์ที่ซับซ้อน ราคาการทำเด็กหลอดแก้ว IVF , ICSI ในโรงพยาบาลรัฐ อยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนบาทต่อรอบ ในส่วนสถานพยาบาลเอกชน ราคาอยู่ในระดับ 2-4 แสนบาท หากต้องการตรวจหาความผิดปกติของตัวอ่อน ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างหาก คิดเป็นแพ็คเกจ ราคาประมาณ 70,000-90,000 บาท
หากมีงบค่ารักษาในใจแล้ว ก็เลือกสถานพยาบาลที่เหมาะกับงบที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าการวางแผนงบค่าใช้จ่ายในการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องรอให้เงินพร้อมทั้งหมด หากติดขัดค่ารักษาในส่วนไหน หรือมีเหตุต้องใช้เกินกว่าที่วางแผนไว้ การใช้สินเชื่อส่วนบุคคลก็เป็นทางเลือกที่นำมาใช้จ่ายในการรักษา ณ ตอนนี้ได้ เพราะยิ่งรอนานอายุยิ่งมาก การมีลูกก็จะยากขึ้น การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะแอดวานซ์แค่ไหน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะน้อยลงตามอายุที่มากขึ้น ดูรายละเอียด
สินเชื่อบุคคล SCB Speedy Loan
แม้ว่าสำหรับหลายๆ คน การได้เป็นพ่อแม่จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความที่อยากจะมีลูกสักคนมาเป็นแก้วตาดวงใจ เติมเต็มความหมายของครอบครัวก็สร้างกำลังใจให้สามารถต่อสู้กับอุปสรรคอย่างไม่ท้อถอย ขอส่งกำลังใจให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคน
อ้างอิง :
http://www.med.cmu.ac.th
https://www.honestdocs.co/
หมายเหตุ : เนื้อหาบทความเป็นข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้นโดยทั่วไปเท่านั้น