ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
พิพิธภัณฑ์รถไฟ@Saitama สวนสนุกแห่งความรู้
เสน่ห์ในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างหนึ่งคือความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟระหว่างเมือง รถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซ็น หรือ Metro ในเมืองต่างๆ คุณภาพของรถไฟญี่ปุ่นก็อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก รถไฟกับความเป็นญี่ปุ่นเรียกว่าแทบจะแยกกันไม่ออก และนักท่องเที่ยวต่างชาติเองก็ชื่นชมและหลงใหลในรถไฟญี่ปุ่นที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ มีบริการทั้งของรัฐและเอกชน และยังมีขบวนรถไฟหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นรถไฟชมวิว รถไฟสุดหรู ไปจนถึงรถไฟที่นำเอาคาแรคเตอร์ดังๆ มาทำเป็นธีมสารพัดน่ารักๆ อย่าง Hello Kitty, Pokemon หรือ Kumamon เมื่อรถไฟมีความน่าสนใจขนาดนี้ ไปญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดชมพิพิธภัณฑ์รถไฟได้อย่างไร? วันนี้เราเลยชวนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์รถไฟ Railway Museum ที่จังหวัด Saitama ซึ่งเป็นหนึ่งในท็อป 3 พิพิธภัณฑ์รถไฟที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นกัน
ใครที่มีแพลนไปเที่ยวโตเกียวอยู่แล้ว ลองจัดแผนการเที่ยวโดยแบ่งเวลาสัก 1 วันจัดเดย์ทริปไปชมพิพิธภัณฑ์รถไฟที่เมืองไซตะมะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีชินจูกุเพียงแค่ 45 นาที และสำหรับบางคนที่อาจเคยไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาแล้ว ต้องบอกว่าควรกลับไปอัพเดทอีกรอบเพราะเขาได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในรอบ 11 ปี หลังจากเปิดตัวตั้งแต่ปี 2007
พิพิธภัณฑ์โฉมใหม่เปิดตัวเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2518 ที่ผ่านมา โดยการรีโนเวทครั้งใหญ่นี้ได้เพิ่มพื้นที่การจัดแสดงขึ้นกว่าเท่าตัว อีกทั้งยังสร้างตึกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน….ถ้าพร้อมแล้วเจอกันที่สถานีชินจูกุแล้วนั่งรถไฟไปไซตะมะกันเลย>> จากโตเกียวเราจะนั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Omiya ลงรถไฟแล้วมองป้าย Railway Museum และ New Shutter เพื่อต่อ Shutter แล้วนั่งไปอีกแค่ 1 สถานี โดยเราจะลงที่สถานี Tetsudo-Hakubutsukan ลงปุ๊ปก็สามารถเดินเชื่อมเข้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย เพราะตัวสถานีจะเชื่อมเข้าสู่พิพิธภัณฑ์โดยตรง สามารถซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายตั๋วตรงจุดนี้ แค่นี้ก็พร้อมลุยต่อกันแล้ว ง่ายและสะดวกมากๆ
พิพิธภัณฑ์แบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น 2 อาคารคือ อาคารหลัก (Main Building) และอาคารใหม่หรือที่เรียกว่าอาคารด้านทิศใต้ (South Building) เรามาเริ่มต้นกันที่อาคารหลักกันก่อนเลย
แบ่งโซนการแสดงเป็น 3 ส่วนคือ Rolling Stock Station, Railway Diorama และ Miniature Driving Train เรามาไล่ดูกันไปทีละโซนเลย
Rolling Stock Station:
เป็นส่วนจัดแสดงรถไฟโบราณที่เคยวิ่งให้บริการในญี่ปุ่น มีรถไฟโบราณจัดแสดงทั้งหมด 36 ขบวน ไล่ตั้งแต่รถไฟหัวจักรไอน้ำไปจนชินคันเซ็นขบวนแรกของญี่ปุ่นที่เคยวิ่งให้บริการจากโตเกียวไปโอซาก้า นอกจากรถไฟโบราณที่สวย คลาสสิค ยังมี Simulator จำลองการขับรถไฟหัวจักรไอน้ำที่จำลองอุปกรณ์ควบคุมเหมือนจริงให้ได้สนุกแบบย้อนยุคกันด้วย
Railway Diorama
เดินต่อมาที่ชั้น 2 เป็นรางรถไฟและเส้นทางรถไฟจำลองของปัจจุบันที่เหมือนของจริงที่สุดแค่ย่อส่วนมา ความยาวรางถึง 1.2 กิโลเมตร ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ดูรถไฟจิ๋ววิ่งไปวิ่งมากันเพลินเลย
Miniature Driving Train
เดินออกมานอกอาคารหลักเป็นส่วนที่สนุกที่สุด เพราะจุดนี้เราสามารถทดลองขับรถไฟกันได้จริงในระยะทาง 300 เมตร โดยผู้ขับต้องปฏิบัติตามสัญญาณจราจรในแต่ละส่วนอย่างถูกต้องด้วย
อาคารใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อกลางปี 2018 อาคารนี้เน้นให้แขกผู้มาเยือนได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบรถไฟญี่ปุ่นแบบลึกลงไปอีก โดยเน้นการแสดงแบบ Simulator ผู้สนใจสามารถลองเล่นในสถานการณ์จำลองที่แทบจะเหมือนของจริง เมื่อก้าวเข้ามาในอาคารจะพบกับรถไฟชินคันเซ็นขนาดเท่าของจริงจอดรอต้อนรับอยู่ 2 ขบวน เดินต่อเข้ามาจะเป็นส่วนที่เรียกว่าเป็น hand on experience คือสามารถทดลองเล่น ทดลองปฏิบัติงานจริงกับระบบจริงที่ใช้ให้บริการในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นระบบขายตั๋ว ระบบความปลอดภัยต่างๆ ระบบการควบคุมการเดินรถไฟ (control center) ซึ่งจะมีสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ ให้ได้ลองฝึกแก้ไขปัญหากันด้วย อีกส่วนที่น่าสนุกมากคือการทดลองสวมบทบาท Conductor โดยเป็นระบบจริงทั้งหมด เรียกว่าทั้งสนุกและได้ความรู้ไปพร้อมๆ กัน
Job Station Simulator
ขึ้นมาที่ชั้น 2 มาสนุกกับ Simulator กันต่อกับ 1 ชินคันเซ็น Simulator และรถไฟธรรมดาอีก 3 Simulator ที่จำลองประสบการณ์ขับรถไฟ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถไฟจริงๆ วิวที่เหมือนจริง เล่นเสร็จยังบอกคะแนนด้วยว่าเราขับรถไฟได้ดีแค่ไหน
History Station
มาต่อกันที่ชั้น 3 เป็นการจัดแสดงพัฒนาการของรถไฟญี่ปุ่น โดยแสดงสิ่งของจริง วัสดุจริงที่ใช้ในรถไฟสมัยต่างๆ รวมทั้งภาพถ่ายที่น่าสนใจจำนวนมาก ที่บอกเล่าความเป็นมาและพัฒนาการของรถไฟญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ต้องย้ำว่าที่นี่งานดี คุ้มค่ากับการมาเยือนจริงๆ เดินทางมาง่าย ค่าเข้าไม่แพง ไม่ใช่แค่ได้ความรู้เกี่ยวกับรถไฟแต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของประเทศญี่ปุ่นยุคใหม่ไปพร้อมๆ กัน ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ รับรองว่าสนุก ตื่นตาตื่นใจ ถ่ายรูปเพลิน ได้ความรู้ทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน และเจ๋งขึ้นไปอีกตอนนี้เค้ามี Application “The Railway Museum Application” ให้ดาวโหลดทั้ง iOS และ Android ซึ่งจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับการจัดแสดงในแต่ละส่วน โดยมีภาษาให้เลือกถึง 10 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภาษาไทยด้วย!
พิพิธภัณฑ์เปิดให้ชมทุกวันระหว่างเวลา 10.00 – 18.00 แต่จะ
ปิดทุกวันอังคาร
และระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม – 1 มกราคม ของทุกปี บัตรเข้าชมราคา 1300 yen